นักกีฬาพาราทีมชาติไทย พร้อมทุ่มเทเต็มที่ขนลุกทั่วประเทศ ในพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส

นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาพาราลิมปิกของประเทศไทย เมื่อทัพกีฬาไทยมีจำนวนนักกีฬาที่ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึง 79 คน จาก 15 ชนิดกีฬา ร่วมลุ้นเพื่อเกียรติยศชาติบ้านเกิดและแสดงถึงพลังแห่งความสามารถของนักกีฬาพาราทีมไทยที่พร้อมจะแข่งขันอย่างเต็มกำลังเพื่อเอาชัยชนะกลับมาสู่ประเทศไทย

ทัพนักกีฬาไทยพร้อมยืนหยัดอย่างมั่นใจในพาราลิมปิกครั้งนี้

การเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมายสูงสุด

ทางทีมงานผู้ฝึกสอบและบริหารจัดการกีฬาพาราทีมไทย ได้ทุ่มเทการอบรมและเตรียมความพร้อมให้นักกีฬาอย่างเต็มที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นให้นักกีฬามีความมั่นใจ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนสามารถระดมกำลังพลังกายและใจเพื่อลุยสู่เป้าหมายสูงสุด ซึ่งคือการคว้าเหรียญรางวัลกลับมายังประเทศไทยให้ได้มากที่สุดความพิเศษของการแข่งขันในครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการจัดการแข่งขันพาราลิมปิกในฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจและความกระหาย ให้กับนักกีฬาไทยทุกคน

โปรแกรมจัดการแข่งขันของนักกีฬาไทย

ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 นี้ จะเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันในชนิดกีฬาเรือแคนูและ Va'a ที่จะมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขัน โดยมีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้เรือแคนู รอบรองชนะเลิศ Kayak 200 เมตรหญิง คลาส KL2 เวลา 15.14 น. วาสนา คูทวีทรัพย์ Va'a 200 เมตรชาย คลาส VL2 เวลา 15.28 น. สันติ วรรณทวีในตอนดึกของวันเดียวกันนี้ จะมีการจัดพิธีปิดการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักกีฬาพาราทีมไทยจะได้ร่วมประกาศชัยชนะและแสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ได้แสดงพลังความสามารถของตัวเอง

ความหวังครั้งสำคัญของวงการกีฬาไทย

การเข้าร่วมแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีสในครั้งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของกีฬาพาราลิมปิกไทยเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นการสานต่อความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมา และยังเป็นโอกาสทองที่นักกีฬาจะได้แสดงพลังความสามารถในระดับสากล จนอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมุมมองของสังคมต่อการกีฬาพาราลิมปิกของไทยอย่างมากนักกีฬาพาราทีมไทยแต่ละคนล้วนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความพร้อม ที่จะก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกในครั้งนี้ ซึ่งล้วนเป็นผลจากการเตรียมตัวและฝึกฝนอย่างหนักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดคือการคว้าเหรียญรางวัลให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อมอบความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ไทยเปิดอ้อมแขนต้อนรับนักมวยไทยเยาวชนชิงแชมป์โลก

เมืองไทยกำลังเตรียมความพร้อมต้อนรับการแข่งขันมวยไทยเยาวชนชิงแชมป์โลก "อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024" ในระหว่างวันที่ 12-19 กันยายน 2567 ที่พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล เพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยให้ก้าวสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ

เชิญร่วมเป็นพลังใจเชียร์นักชกไทยสู่เปา

โชว์พลังมวยไทยสร้างการท่องเที่ยว

การจัดการแข่งขัน "อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024" ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันกีฬามวยไทยสู่เวทีโลก โดยมีนักกีฬาเยาวชนมวยไทยจากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วย เพราะแฟนกีฬาและครอบครัวของนักกีฬาจะเดินทางมาเช็คอินพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวของไทย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปไหว้ครูมวยไทยเพื่อให้นักกีฬาได้เรียนรู้วัฒนธรรมอันงดงามของมวยไทย อีกด้วย

โอกาสเฟื่องฟูเด็กนักมวยไทย

การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้เด็กนักมวยไทยได้เปิดโอกาสพัฒนาศักยภาพของตนเอง และแสดงออกถึงความสามารถในเวทีโลก โดยเด็กนักมวยไทยได้รับการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น ทั้งจากการคัดเลือกจากศึกชิงแชมป์ประเทศไทย และการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7-8 เหรียญทองสำหรับทีมชาติไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ และชาวไทยอย่างมาก

ปลูกฝังความเป็นมวยไทยแก่ชาวโลก

นอกจากการผลักดันความสำเร็จของนักกีฬาเยาวชนไทยแล้ว การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมมวยไทยสู่สายตานานาชาติ โดยการให้นักกีฬาจากทั่วโลกได้เรียนรู้และซึมซับถึงความงดงามและคุณค่าของศิลปะการต่อสู้แบบไทย ทั้งทักษะการชก การเคลื่อนไหว รวมไปถึงพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วโลกให้หันมาสนใจและเริ่มต้นเรียนรู้มวยไทยมากยิ่งขึ้น

ก้าวสู่โอลิมปิก ภายใต้แนวทางที่ถูกต้อง

การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการขับเคลื่อนมวยไทยสู่เวทีโอลิมปิก โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและดำเนินการภายใต้การดูแลของสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมมวยไทยให้เป็นกีฬาสมัยใหม่ที่สอดคล้องกับหลักการกีฬาสากล และเป็นการเปิดโอกาสให้มวยไทยก้าวไกลสู่เวทีระดับโลกอย่างยั่งยืน