กีฬา
ฟันดาบเอเป้ไทย ชนะ ฝรั่งเศส คว้าเหรียญทองแดงพาราลิมปิก

เฟื่องฟ้า สตรีพาราไทย คว้าเหรียญทองแดงในศึกฟันดาบเอเป้ที่ปารีส

ทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ด้วยคะแนน 45-40 คะแนน คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำโดย "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ ผู้ที่ได้รับเกียรติให้เป็นนักกีฬานำทัพวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ไทย

สตรีพาราไทยสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยความฟิต ฟอร์ม และชัยชนะอันยิ่งใหญ่

ก้าวสู่เวทีพาราลิมปิกครั้งแรก

การแข่งขันฟันดาบวีลแชร์ประเภททีมหญิงเอเป้ ถือเป็นการลงแข่งขันครั้งแรกของทีมหญิงไทยในศึกพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ทีมนี้ประกอบไปด้วย "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ, เดือน นาคประสิทธิ์ และ อภิญญา ทองแดง ซึ่งต่างก็เป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์และความสามารถระดับแนวหน้าของไทย การที่ได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยลงแข่งขันในรายการนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาทั้งสามคน และยังส่งสัญญาณให้เห็นถึงศักยภาพของวงการกีฬาพาราไทยในการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย

ความท้าทายแรกในการแข่งขัน

การลงสู่สนามฟันดาบเพื่อชิงเหรียญทองแดงในรอบชิงชนะเลิศ นับเป็นความท้าทายอย่างสูงสำหรับทีมหญิงไทยที่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแกร่งระดับโลกในกีฬาฟันดาบวีลแชร์ นอกจากนี้ ทีมฝรั่งเศสยังได้เปรียบอยู่ที่การได้ลงแข่งขันในสนามของตนเอง ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขามีความได้เปรียบอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่น ความพร้อม และความเชื่อมั่นในตนเองของทีมหญิงไทย ที่ผ่านการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นมา ก็ได้สร้างความหวังให้กับแฟนกีฬาไทยเป็นอย่างมาก

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือเจ้าภาพ

ในสนามการแข่งขัน ทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ได้ทำการแข่งขันอย่างเต็มกำลังความสามารถ แม้จะต้องเผชิญกับความกดดันและความท้าทายต่างๆ แต่ด้วยทักษะ เทคนิค และสมาธิที่เหนือชั้น ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะ ทีมเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ไปด้วยคะแนน 45-40 คะแนน คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั่วประเทศเป็นอย่างมาก และยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาพาราไทยที่สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้

เฟื่องฟ้าคว้าเหรียญรางวัลครบทุกรายการ

สำหรับ "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นั้น ถือเป็นนักกีฬาระดับแนวหน้าของไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในวงการกีฬาพาราลิมปิก ในครั้งนี้ถือเป็นเหรียญรางวัลที่ 4 ที่เธอได้รับจากการแข่งขัน โดยก่อนหน้านี้เธอก็ได้คว้าเหรียญทองมา 3 เหรียญแล้ว การคว้าเหรียญทองแดงในครั้งนี้จึงทำให้เธอได้รับเกียรติและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการกีฬาพาราไทย

การสนับสนุนจากภาครัฐและการให้รางวัล

ความสำเร็จครั้งนี้ของทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ โดยเฉพาะจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้เงินรางวัลแก่นักกีฬาพาราลิมปิก อย่างเช่น เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท (แบบแบ่งจ่ายทันที 50% ส่วนอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือน ภายใน 4 ปี) ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนที่จะช่วยให้นักกีฬาพาราไทยมีขวัญและกำลังใจในการฝึกซ้อมและแข่งขันต่อไปในอนาคต
ชัดมาก แห่แชร์ปฏิกิริยา “แฮ็กเกอร์ตี” หลังโดน “ซุปเปอร์เล็ก” ซัดร่วง เข็มขัดกระเด็น

ภาพปฏิกิริยาแห่งน้ำใจนักกีฬา หลัง "ซุปเปอร์เล็ก" เอาชนะ "โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี" คว้าแชมป์โลกมวยไทย

ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ "ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9" ชนะน็อก "โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี" ยกแรก คว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาครองได้สำเร็จ ได้รับการแชร์ภาพปฏิกิริยาแห่งน้ำใจนักกีฬาของทั้งสองคน ซึ่งถือเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมาก

เปิด "วังวน" ของการแข่งขันที่เต็มไปด้วยอารมณ์และการแสดงความเคารพให้กันและกัน

ภาพที่แสดงถึงน้ำใจนักกีฬา

โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพปฏิกิริยาของ "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" ภายหลังการแข่งขัน โดยเริ่มจาก "แฮ็กเกอร์ตี" ปรบมือให้ "ซุปเปอร์เล็ก" จากนั้น "ซุปเปอร์เล็ก" เดินเข้ามากอด "แฮ็กเกอร์ตี" ก่อนที่ "แฮ็กเกอร์ตี" จะกอดตอบรับ ไม่มีท่าทีที่แสดงให้เห็นถึงความโกรธเกลียดกันแต่อย่างใด ถือเป็นภาพที่แสดงถึงน้ำใจนักกีฬาอย่างชัดเจน"ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" แสดงให้เห็นถึงความเคารพและมารยาทที่ดีต่อกัน แม้ว่าจะมีการต่อสู้อย่างดุดันในสนาม แต่หลังจบการแข่งขันทั้งสองคนก็แสดงความยินดีและให้เกียรติซึ่งกันและกัน สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมที่ดีงามในการเป็นนักกีฬาระดับโลกภาพการเอื้อมมือไปกอดกันของ "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่มีน้ำใจนักกีฬา โดยถึงแม้จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดแต่เมื่อจบการแข่งขันแล้วนักมวยก็จะต้องให้เกียรติ ยกย่องและเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงความเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

สร้างชื่อเสียงให้วงการมวยไทย

ชัยชนะของ "ซุปเปอร์เล็ก" ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาคว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาครองแชมป์ 2 เส้น รวมถึง คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต อีกด้วยการที่ "ซุปเปอร์เล็ก" สามารถคว้าแชมป์โลกในสองรุ่นได้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นสิ่งที่ยากมาก และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับวงการมวยไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติการแข่งขันระหว่าง "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" ถือเป็นการแข่งขันที่น่าจับตามอง เนื่องจากทั้งสองคนเป็นนักมวยที่มีฝีมือและประสบการณ์ในการต่อสู้ระดับโลก การที่ "ซุปเปอร์เล็ก" สามารถเอาชนะ "แฮ็กเกอร์ตี" ได้ในยกแรกด้วยการสับศอกเข้าหน้า จึงถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความแกร่งของนักมวยไทยการแข่งขันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้แก่ "ซุปเปอร์เล็ก" เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชื่อเสียงของการแข่งขันมวยไทยในเวทีระดับโลกอีกด้วย การที่นักกีฬาชั้นนำของโลกแสดงออกถึงความเคารพและน้ำใจนักกีฬาต่อกันหลังจบการแข่งขัน จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการมวยไทยในระดับสากล
See More
“สายสุนีย์” คนแรก คว้า 3 ทองฟันดาบพาราลิมปิกครั้งเดียว รับแล้ว 21.6 ล้าน

เปลื้มใจ! "แวว" สายสุนีย์ ประวัติศาสตร์บุคคลแรกคว้า 3 เหรียญทองฟันดาบพาราลิมปิกเกมส์

นับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของแวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาฟันดาบ จากจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขันฟันดาบประเภทเอเป้ คลาสบี และสร้างประวัติศาสตร์เป็นบุคคลแรกของโลกที่ได้รับเหรียญทองรวม 3 เหรียญในการแข่งขันฟันดาบบุคคลหญิงในพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งเดียว

ความภูมิใจของการเป็นแชมป์โลกที่สามารถกวาดเหรียญทองพาราลิมปิก

การคว้าโอกาสทองอีกครั้งในพาราลิมปิกเกมส์

สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นนักกีฬาฟันดาบที่มีผลงานยอดเยี่ยมมายาวนาน โดยเฉพาะในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ในปี 2004 และ 2012 เธอเคยคว้าเหรียญทองในประเภทนี้มาแล้ว และล่าสุดในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 16 เมื่อล่าสุด เธอก็สามารถคว้าเหรียญทองมาครอบครองได้อีก 3 เหรียญ โดยชนะคู่แข่งจากจีนด้วยคะแนน 15-7 ในการแข่งขันฟันดาบประเภทเอเป้ คลาสบี ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน

การคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการกีฬาฟันดาบพาราลิมปิก ตลอด 16 ครั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่เริ่มจัดขึ้นในปี 1960 หรือ 64 ปีที่แล้ว ซึ่งมีเพียงนักกีฬาชายเพียงคนเดียวที่สามารถทำผลงานแบบนี้ได้ คือ โรแบร์โต แมร์สัน จากอิตาลี ที่คว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันปี 1968 หรือ 56 ปีที่แล้ว ดังนั้น สายสุนีย์ จ๊ะนะ จึงถือเป็นคนแรกของโลกในฝั่งหญิงที่สามารถทำผลงานแบบนี้ได้

การเตรียมความพร้อมและแรงสนับสนุนที่ทำให้บรรลุความสำเร็จ

สายสุนีย์ กล่าวว่า ในการเตรียมตัวเพื่อลงแข่งขันในครั้งนี้ เธอต้องขอบคุณการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ตลอดจนกำลังใจจากทีมกีฬาไทย และครอบครัวของเธอเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีทีมงานฟันดาบที่ดี และผู้ฝึกสอนที่ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ส่งผลให้เธอสามารถมุ่งมั่นฝึกซ้อมและเล่นได้อย่างเต็มที่จนบรรลุความสำเร็จ

ประโยชน์และแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ "แวว"

นอกจากความภูมิใจที่ได้รับเหรียญทองในครั้งนี้แล้ว สายสุนีย์ ยังมีความหวังว่าผลงานของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ที่ท้อแท้ในชีวิต เพราะเธอเองก็เคยผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาจนถึงจุดนี้ได้ ดังนั้น เธอหวังว่าประสบการณ์ชีวิตของเธอจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้คนมุ่งมั่นต่อไป และไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งท้าทายในชีวิต

ผลตอบแทนที่ทำให้การเสียสละคุ้มค่า

การคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ยังทำให้สายสุนีย์ ได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งสิ้น 21.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สะท้อนถึงความสำเร็จอย่างมาก โดยการให้รางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ มีเกณฑ์ที่ชัดเจน โดย เหรียญทองได้รับ 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแรงสนับสนุนที่ทำให้ "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับกีฬาฟันดาบคนพิการของไทยในครั้งนี้
See More