กีฬา
“ศศิราวรรณ” สปีดเข้าเส้นชัยคว้าทองแดงวิ่ง 200 เมตร พาราลิมปิก

ทอง 'อุ้ม' ศศิราวรรณ แข่งรีบ 200 ม. พาราลิมปิก 2024

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยที่ลงเล่นในกีฬาสีพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ยังคงแสดงศักยภาพของตนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด "อุ้ม" ศศิราวรรณ อินทโชติ สามารถคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกรีฑา วิ่ง 200 เมตรหญิง คลาส T47 ด้วยเวลา 25.20 วินาที

ไอค่อฟ เกมเปลี่ยนเกม สำหรับนักกีฬาพาราไทย

รอบแรก: ศศิราวรรณสร้างสถิติส่วนตัว

ในรอบแรกของการแข่งขัน "อุ้ม" ศศิราวรรณ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 25.39 วินาที นี่ถือเป็นการทำลายสถิติส่วนตัวของเธอเอง และยังทำให้เธอผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอีกด้วย การแสดงฝีมือในรอบแรกนี้บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและปณิธานของนักกีฬาพาราไทยในการคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศ

รอบชิงชนะเลิศ: ความพยายามสุดขีด

เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ "อุ้ม" ศศิราวรรณ ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น รวมถึงน้ำใจนักกีฬาอีกครั้ง เธอเร่งสปีดเข้ามาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 25.20 วินาที สามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครอง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทจากนักกีฬาพาราไทยในการแสดงศักยภาพสูงสุดเพื่อแข่งขันในเวทีระดับโลก

รางวัลและเงินรางวัล: ภาพสะท้อนความภาคภูมิใจของชาติไทย

ความสำเร็จของ "อุ้ม" ศศิราวรรณ ในการคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตรหญิง คลาส T47 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาติไทย นอกจากเหรียญรางวัลแล้ว ยังมีเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาพาราลิมปิกที่ให้รางวัลเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายในทันที 50% และอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือนใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาพาราไทย
ฟันดาบเอเป้ไทย ชนะ ฝรั่งเศส คว้าเหรียญทองแดงพาราลิมปิก

เฟื่องฟ้า สตรีพาราไทย คว้าเหรียญทองแดงในศึกฟันดาบเอเป้ที่ปารีส

ทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ด้วยคะแนน 45-40 คะแนน คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำโดย "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ ผู้ที่ได้รับเกียรติให้เป็นนักกีฬานำทัพวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ไทย

สตรีพาราไทยสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยความฟิต ฟอร์ม และชัยชนะอันยิ่งใหญ่

ก้าวสู่เวทีพาราลิมปิกครั้งแรก

การแข่งขันฟันดาบวีลแชร์ประเภททีมหญิงเอเป้ ถือเป็นการลงแข่งขันครั้งแรกของทีมหญิงไทยในศึกพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ทีมนี้ประกอบไปด้วย "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ, เดือน นาคประสิทธิ์ และ อภิญญา ทองแดง ซึ่งต่างก็เป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์และความสามารถระดับแนวหน้าของไทย การที่ได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยลงแข่งขันในรายการนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาทั้งสามคน และยังส่งสัญญาณให้เห็นถึงศักยภาพของวงการกีฬาพาราไทยในการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย

ความท้าทายแรกในการแข่งขัน

การลงสู่สนามฟันดาบเพื่อชิงเหรียญทองแดงในรอบชิงชนะเลิศ นับเป็นความท้าทายอย่างสูงสำหรับทีมหญิงไทยที่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแกร่งระดับโลกในกีฬาฟันดาบวีลแชร์ นอกจากนี้ ทีมฝรั่งเศสยังได้เปรียบอยู่ที่การได้ลงแข่งขันในสนามของตนเอง ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขามีความได้เปรียบอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่น ความพร้อม และความเชื่อมั่นในตนเองของทีมหญิงไทย ที่ผ่านการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นมา ก็ได้สร้างความหวังให้กับแฟนกีฬาไทยเป็นอย่างมาก

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือเจ้าภาพ

ในสนามการแข่งขัน ทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ได้ทำการแข่งขันอย่างเต็มกำลังความสามารถ แม้จะต้องเผชิญกับความกดดันและความท้าทายต่างๆ แต่ด้วยทักษะ เทคนิค และสมาธิที่เหนือชั้น ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะ ทีมเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ไปด้วยคะแนน 45-40 คะแนน คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั่วประเทศเป็นอย่างมาก และยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาพาราไทยที่สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้

เฟื่องฟ้าคว้าเหรียญรางวัลครบทุกรายการ

สำหรับ "เฟื่องฟ้า" สายสุนีย์ จ๊ะนะ นั้น ถือเป็นนักกีฬาระดับแนวหน้าของไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในวงการกีฬาพาราลิมปิก ในครั้งนี้ถือเป็นเหรียญรางวัลที่ 4 ที่เธอได้รับจากการแข่งขัน โดยก่อนหน้านี้เธอก็ได้คว้าเหรียญทองมา 3 เหรียญแล้ว การคว้าเหรียญทองแดงในครั้งนี้จึงทำให้เธอได้รับเกียรติและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการกีฬาพาราไทย

การสนับสนุนจากภาครัฐและการให้รางวัล

ความสำเร็จครั้งนี้ของทีมวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ทีมหญิงไทย ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ โดยเฉพาะจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้เงินรางวัลแก่นักกีฬาพาราลิมปิก อย่างเช่น เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท (แบบแบ่งจ่ายทันที 50% ส่วนอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือน ภายใน 4 ปี) ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนที่จะช่วยให้นักกีฬาพาราไทยมีขวัญและกำลังใจในการฝึกซ้อมและแข่งขันต่อไปในอนาคต
See More
ชัดมาก แห่แชร์ปฏิกิริยา “แฮ็กเกอร์ตี” หลังโดน “ซุปเปอร์เล็ก” ซัดร่วง เข็มขัดกระเด็น

ภาพปฏิกิริยาแห่งน้ำใจนักกีฬา หลัง "ซุปเปอร์เล็ก" เอาชนะ "โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี" คว้าแชมป์โลกมวยไทย

ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ "ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9" ชนะน็อก "โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี" ยกแรก คว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาครองได้สำเร็จ ได้รับการแชร์ภาพปฏิกิริยาแห่งน้ำใจนักกีฬาของทั้งสองคน ซึ่งถือเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมาก

เปิด "วังวน" ของการแข่งขันที่เต็มไปด้วยอารมณ์และการแสดงความเคารพให้กันและกัน

ภาพที่แสดงถึงน้ำใจนักกีฬา

โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพปฏิกิริยาของ "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" ภายหลังการแข่งขัน โดยเริ่มจาก "แฮ็กเกอร์ตี" ปรบมือให้ "ซุปเปอร์เล็ก" จากนั้น "ซุปเปอร์เล็ก" เดินเข้ามากอด "แฮ็กเกอร์ตี" ก่อนที่ "แฮ็กเกอร์ตี" จะกอดตอบรับ ไม่มีท่าทีที่แสดงให้เห็นถึงความโกรธเกลียดกันแต่อย่างใด ถือเป็นภาพที่แสดงถึงน้ำใจนักกีฬาอย่างชัดเจน"ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" แสดงให้เห็นถึงความเคารพและมารยาทที่ดีต่อกัน แม้ว่าจะมีการต่อสู้อย่างดุดันในสนาม แต่หลังจบการแข่งขันทั้งสองคนก็แสดงความยินดีและให้เกียรติซึ่งกันและกัน สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมที่ดีงามในการเป็นนักกีฬาระดับโลกภาพการเอื้อมมือไปกอดกันของ "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่มีน้ำใจนักกีฬา โดยถึงแม้จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดแต่เมื่อจบการแข่งขันแล้วนักมวยก็จะต้องให้เกียรติ ยกย่องและเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงความเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

สร้างชื่อเสียงให้วงการมวยไทย

ชัยชนะของ "ซุปเปอร์เล็ก" ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาคว้าแชมป์โลกมวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาครองแชมป์ 2 เส้น รวมถึง คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต อีกด้วยการที่ "ซุปเปอร์เล็ก" สามารถคว้าแชมป์โลกในสองรุ่นได้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นสิ่งที่ยากมาก และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับวงการมวยไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติการแข่งขันระหว่าง "ซุปเปอร์เล็ก" และ "แฮ็กเกอร์ตี" ถือเป็นการแข่งขันที่น่าจับตามอง เนื่องจากทั้งสองคนเป็นนักมวยที่มีฝีมือและประสบการณ์ในการต่อสู้ระดับโลก การที่ "ซุปเปอร์เล็ก" สามารถเอาชนะ "แฮ็กเกอร์ตี" ได้ในยกแรกด้วยการสับศอกเข้าหน้า จึงถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความแกร่งของนักมวยไทยการแข่งขันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้แก่ "ซุปเปอร์เล็ก" เท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับชื่อเสียงของการแข่งขันมวยไทยในเวทีระดับโลกอีกด้วย การที่นักกีฬาชั้นนำของโลกแสดงออกถึงความเคารพและน้ำใจนักกีฬาต่อกันหลังจบการแข่งขัน จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการมวยไทยในระดับสากล
See More