คว้า 3 เหรียญทอง การแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ที่ปารีส

สายสุนีย์ จ๊ะนะ กลายเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่กวาดเหรียญทองฟันดาบทั้ง 3 ประเภท ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งเดียว ภายในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา

สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการพาราลิมปิก

ผลงานสร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024

ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา สายสุนีย์ จ๊ะนะ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยสามารถคว้าเหรียญทองในทุกประเภทที่ลงแข่งขัน ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำเช่นนี้ได้ ในการแข่งขันครั้งเดียวในการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบเอเป้ บุคคลหญิง Category B นั้น สายสุนีย์ชนะ โอเลนา เฟโดตา-อิไซเยวา จากยูเครน 15-6 ในรอบ 8 คนสุดท้าย จากนั้นเอาชนะถิง ตง งา จากฮ่องกง 15-7 ในรอบรองชนะเลิศ และคว้าชัยชนะเหนือ คัง ซู จากจีน 15-7 ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เธอคว้าเหรียญทองไปครอง ซึ่งรวมกับที่เธอคว้าไปแล้วจากดาบฟอยล์และดาบเซเบอร์ นั่นหมายความว่านี่เป็นเหรียญทองที่ 3 ของเธอ

ประวัติและจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นนักกีฬาวัย 50 ปี ได้เหรียญทอง 3 เหรียญจากการแข่งขันในครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้เธอก็เคยคว้าเหรียญพาราลิมปิกมาแล้วถึง 9 เหรียญ แบ่งเป็น 5 ทอง 1 เงิน และ 3 ทองแดงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของสายสุนีย์ คือเมื่ออายุ 17 ปี เธอประสบอุบัติเหตุจากการซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ทำให้เธอต้องเป็นอัมพาตช่วงล่าง และไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป เหตุการณ์ครั้งนั้นแทบจะทำให้เธอสิ้นหวังกับชีวิต แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและการฝึกฟื้นฟูอาชีพที่ศูนย์หยาดฝน ทำให้เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเล่นกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล และเปลี่ยนมาเล่นวีลแชร์ฟันดาบจนติดทีมชาติในเอเชียนพาราเกมส์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอมีโอกาสไปแข่งขันพาราลิมปิกครั้งแรกในปี 2004

การลงแข่งขันพาราลิมปิกอย่างต่อเนื่อง

สายสุนีย์ ลงแข่งขันพาราลิมปิกมาแล้ว 4 สมัย ตั้งแต่ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และประสบความสำเร็จด้วยการคว้าเหรียญทองและเหรียญทองแดงมาครอง ซึ่งนับเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ทำสำเร็จ จากนั้นเธอก็สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องในการแข่งขันพาราลิมปิกในครั้งต่อๆ มา ทั้งเหรียญเงินในปี 2008, เหรียญทองในปี 2012, เหรียญเงินในปี 2016 และเหรียญทองแดงในปี 2020จากผลงานที่โดดเด่น ทำให้เธอได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาไปแล้วกว่า 21.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากที่สะท้อนถึงความสำเร็จและการยอมรับในฝีมือของเธอ

ความภาคภูมิใจและกำลังใจจากผู้คน

หลังจากการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ สายสุนีย์ ได้แสดงความรู้สึกภาคภูมิใจและมีความสุขเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่าเธอไม่คาดคิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ และน้ำตาความดีใจ น้ำตาความปลื้มปิติไหลอาบใบหน้าในการเตรียมตัวเพื่อลงแข่งขัน สายสุนีย์กล่าวว่า เธอพยายามตั้งสมาธิและทุ่มเทเต็มที่ในการฝึกซ้อม รวมถึงการได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สมาคมกีฬาคนพิการ และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ซึ่งทำให้เธอมีกำลังใจและแรงผลักดันในการสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้

ความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยในพาราลิมปิก 2024

นอกจากสายสุนีย์ที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้า 3 เหรียญทองแล้ว ทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยคว้าเหรียญรางวัลรวม 26 เหรียญ แบ่งเป็น 6 ทอง 9 เงิน และ 11 ทองแดง ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของนักกีฬาไทยทั้งนี้ ในการแข่งขันวันเดียวกัน ทีมฟันดาบของไทยยังได้อีก 1 เหรียญเงินจาก "สปาย" วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว ในเอเป้ บุคคล ชาย คลาส B ขณะที่ เทเบิลเทนนิสก็ทำผลงานได้มา 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงผลงานของทีมไทยในครั้งนี้ นับเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันพาราลิมปิก โดยแซงหน้า ริโอ 2016 และ โตเกียว 2020 ที่ได้เหรียญรวมไว้สูงสุดก่อนหน้านี้ ซึ่งล่าสุดทัพไทยคว้าเหรียญรวมไปแล้วกว่า 26 เหรียญ และยังมีโอกาสเพิ่มเติมในวันต่อไป

ทอง 'อุ้ม' ศศิราวรรณ แข่งรีบ 200 ม. พาราลิมปิก 2024

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยที่ลงเล่นในกีฬาสีพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ยังคงแสดงศักยภาพของตนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด "อุ้ม" ศศิราวรรณ อินทโชติ สามารถคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกรีฑา วิ่ง 200 เมตรหญิง คลาส T47 ด้วยเวลา 25.20 วินาที

ไอค่อฟ เกมเปลี่ยนเกม สำหรับนักกีฬาพาราไทย

รอบแรก: ศศิราวรรณสร้างสถิติส่วนตัว

ในรอบแรกของการแข่งขัน "อุ้ม" ศศิราวรรณ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 25.39 วินาที นี่ถือเป็นการทำลายสถิติส่วนตัวของเธอเอง และยังทำให้เธอผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอีกด้วย การแสดงฝีมือในรอบแรกนี้บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและปณิธานของนักกีฬาพาราไทยในการคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศ

รอบชิงชนะเลิศ: ความพยายามสุดขีด

เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ "อุ้ม" ศศิราวรรณ ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น รวมถึงน้ำใจนักกีฬาอีกครั้ง เธอเร่งสปีดเข้ามาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 25.20 วินาที สามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครอง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทจากนักกีฬาพาราไทยในการแสดงศักยภาพสูงสุดเพื่อแข่งขันในเวทีระดับโลก

รางวัลและเงินรางวัล: ภาพสะท้อนความภาคภูมิใจของชาติไทย

ความสำเร็จของ "อุ้ม" ศศิราวรรณ ในการคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตรหญิง คลาส T47 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาติไทย นอกจากเหรียญรางวัลแล้ว ยังมีเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาพาราลิมปิกที่ให้รางวัลเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายในทันที 50% และอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือนใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาพาราไทย