สุขภาพดี
‘รพ.จักษุกรุงเทพ’ชูคอนเซ็ปต์ ‘SMART EYE HOSPITAL’ ยกระดับสุขภาพดวงตา

ทำไมคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลจึงให้ความสำคัญกับสุขภาพดวงตามากขึ้น

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตประจำวัน คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสม หรือแม้กระทั่งการตรวจสุขภาพประจำปี สุขภาพดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ ในฐานะผู้นำด้านการดูแลสุขภาพดวงตาจึงมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการให้บริการตรวจรักษาดวงตาโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับการรักษาให้ครอบคลุมทุกปัญหาของสุขภาพดวงตา

ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพดวงตาของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล

รับมือกับเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปจากอดีต ทั้งการใช้งานสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตเป็นประจำ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพดวงตารูปแบบใหม่ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง การมองภาพแลว้ไม่ชัดเจน หรือแม้แต่อาการปวดตา เป็นต้น โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพจึงได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาการตรวจรักษาเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ อาทิ การตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ที่สามารถแยกแยะโครงสร้างของดวงตาได้ละเอียด หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และวินิจฉัยอาการเพื่อให้การรักษาแม่นยำยิ่งขึ้น

ครอบคลุมปัญหาสุขภาพดวงตาทุกช่วงวัย

อีกหนึ่งความเชี่ยวชาญของโรงพยาบาลจักษุกรุงเทพคือการตรวจและรักษาโรคตาที่พบได้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถให้การรักษาได้ครอบคลุมทุกปัญหาตั้งแต่การแก้ไขสายตา ต้อกระจก ต้อหิน จนถึงการรักษากลุ่มโรคเฉพาะทางอื่นๆ ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถดูแลสุขภาพดวงตาของตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นวัยใด

ความแม่นยำและความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก

ในการตรวจรักษาสุขภาพดวงตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทันสมัย แม่นยำและปลอดภัยมาใช้ อาทิ การใช้เครื่องเลเซอร์ฟีมโตวินาที (Femtosecond Laser) ในการรักษาต้อกระจก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัด ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่อง OCT ที่มีความแม่นยำในการวินิจฉัยภาวะต้อหิน และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่คอยต้อนรับและดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลจนถึงห้องตรวจ ซึ่งช่วยให้การบริการมีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการทุกคน

โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ: การรักษาสุขภาพดวงตาครบวงจร

ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาสุขภาพดวงตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพจึงได้พัฒนาตนเองให้เป็น "Smart Eye Hospital" ที่สามารถให้บริการครอบคลุมทุกด้านอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย การรักษา การผ่าตัด และการฟื้นฟูสภาพ โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความแม่นยำ ควบคู่ไปกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง จนทำให้เป็นที่ศรัทธาและไว้วางใจของคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
จากวิกฤต ‘สโตรก’ สู่นักวิ่งมาราธอน’ณรงค์ชัย จันทร์พร’ สุดแฮปปี้-สุขภาพดีเยี่ยมเชิญชวนลงทะเบียน ร่วม ‘เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต#10 เฉลิมพระเกียรติฯ’2 พ.ย.นี้

อัพเกรดความเป็นตัวเอง: จากการเป็นผู้ป่วยสโตรก สู่การเป็นนักวิ่งมาราธอน

นายณรงค์ชัย จันทร์พร เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้เล่าถึงประสบการณ์การเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และการฟื้นฟูสภาพด้วยการออกกำลังกาย จนสามารถบรรลุเป้าหมายการวิ่งมาราธอน อันแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นและการไม่ยอมแพ้ท่ามกลางความท้าทาย

ชีวิตที่ 'เปลี่ยนไป' หลังเจ็บป่วยด้วยโรคสโตรก

จากคนไข้สโตรกสู่การยืนหยัดอีกครั้ง

นายณรงค์ชัย เล่าว่า ในช่วงที่เกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง เขามีอาการอ่อนแรงและชา ซึ่งทำให้เดินไม่ได้ปกติ โชคดีที่มีนายแพทย์สาธารณสุขอยู่ใกล้ ช่วยพาเขาไปส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เขากล่าวว่า "ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองมันทำอะไรไม่ได้ มีอาการชายหมดเลย" แต่หลังจากได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล ร่างกายด้านขวาของเขากลับไม่สามารถใช้งานได้ เขาจึงตัดสินใจลางานกลับกรุงเทพฯ เพื่อพักฟื้น

เดินและวิ่งกลับมาฟื้นคืนชีพ

ระหว่างการพักฟื้นที่กรุงเทพฯ คุณแม่ของเขาแนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการบริหารมือ ซึ่งช่วยให้อาการชาดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงเกิดความคิดว่า การเดินและการวิ่งคงจะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ดีกว่า เขาจึงเริ่มจากการวิ่งและพบว่า การวิ่งช่วยให้อาการชาทางมือขวาดีขึ้น จนสามารถเขียนหนังสือได้อีกครั้ง "จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ก็กลายมาเป็นคนออกกำลังกายอย่างจริงจัง"

วิ่งเพื่อกลับมา 'ไม่พิการ'

นายณรงค์ชัยมีเป้าหมายในการออกกำลังกายคือ เพื่อรักษาโรคแทรกซ้อนและป้องกันความพิการจากสโตรก หลังจากพบว่าตัวเองยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เขาจึงตั้งเป้าหมายที่จะวิ่งให้ถึงระดับมาราธอน เพื่อให้การฟื้นฟูสภาพของตนยั่งยืนมากขึ้น โดยเริ่มจากการร่วมงานวิ่งข้ามโขง จากนั้นก็ฮาฟมาราธอน และล่าสุดสามารถวิ่งมาราธอนได้สำเร็จ "เรามีความสุขมากที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก"

ขยายผลสู่การส่งเสริมการออกกำลังกายในชุมชน

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เห็นถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายในการป้องกันอัมพาตจากโรคสโตรก จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มวัยในจังหวัดนครพนมร่วมกิจกรรม 'โครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติฯ' ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
See More
ในที่สุดก็เจอความลับ ‘ผิวสวยสุขภาพดี’ Nang Ram Body Oil ขวดนี้ฮิตจนขาดตลาดได้อย่างไร?

แปลกใหม่ในเรื่องการดูแลผิวที่เข้มข้นด้วย Nang Ram Body Oil จาก JOURNAL

ในยุคสมัยที่ทุกคนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม การเลือกกลิ่นที่ใช่ หรือการหาเนื้อสัมผัสที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นโดยไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ Nang Ram Body Oil จาก JOURNAL จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการดูแลผิว และเสริมความมั่นใจไปพร้อมกัน

ออยล์ธรรมชาติที่ทั้งบำรุงผิว และเสริมความมั่นใจ

ความพิเศษของออยล์บำรุงผิวจาก JOURNAL

JOURNAL เป็นแบรนด์ของคนไทยที่เกิดจากความหลงใหลในภูมิปัญญา ความเชื่อ และความรักในวัฒนธรรมไทย โดยแบรนด์ได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพอากาศในประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่งนำมาสู่การพัฒนา Nang Ram Body Oil เพื่อตอบโจทย์ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ต้องออกนอกบ้านอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ แม่บ้านที่ทำงาน หรือกลุ่มสาวทันสมัยที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ทาแล้วต้องสบายผิวแม้ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และที่สำคัญคือ ใช้แล้วยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น เปล่งประกาย รวมถึงให้กลิ่นหอมที่เสริมความมั่นใจอีกด้วย

กลิ่นหอมที่สะท้อนตัวตน

JOURNAL มีความเชื่อว่ากลิ่นหอมสามารถสะท้อนตัวตนของแต่ละคนได้ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะแคร์กลิ่นเดียวกันตลอดเวลา แต่สำหรับ Nang Ram Body Oil มีกลิ่นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะบุคลิกแบบไหน ก็สามารถใช้ได้ เมื่อทาลงบนผิว กลิ่นจะเผยตัวตนของคนคนนั้นออกมาอย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกที่เย้ายวน น่าค้นหา และเหมาะกับสาวยุคใหม่สุดๆ

กลิ่นหอมแห่งความเย้ายวน

กลิ่นของ Nang Ram Body Oil ได้รับแรงบันดาลใจจากลุคของผู้หญิงที่อ่อนช้อย งดงาม แต่กลับดูลึกลับ น่าค้นหา ส่งผลให้กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกเซ็กซี่และเย้ายวน แบรนด์ได้คัดสรรสารสกัดจากพฤกษาชาติต่างๆ อย่างกลิ่นเย้ายวนของดอกเชอรี่ ความหอมนุ่มลึกของดอกกุหลาบ และดอกไม้ขาว จนปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมลึกลับของไม้กฤษณา ให้ความรู้สึกเลอค่า สง่างาม พร้อมเสน่ห์เย้ายวนใจ เหมือนเป็นกลิ่นหอมของไทยที่คนไทยหลงใหลได้ง่ายๆ

เนื้อสัมผัสที่ช่วยเสริมความมั่นใจ

สาวๆ ในยุคนี้มีความรู้และเข้าใจในเรื่องของการดูแลผิวมากขึ้น ไม่เพียงแต่ต้องการผิวที่ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว และดูสุขภาพดี แต่ยังต้องการกลิ่นหอมที่ติดผิวอีกด้วย Nang Ram Body Oil สามารถตอบโจทย์ต่างๆ เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบไว ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เปล่งประกาย ลดเลือนรอยแผลเป็น และยังมีกลิ่นหอมติดผิวด้วย แม้ในสภาวะที่เหงื่อออก หรือออกแดดก็ไม่ทำให้กลิ่นหายไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Nang Ram Body Oil ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในกลุ่มสาวรุ่นใหม่

ออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างเรียบง่าย แต่แฝงความหมาย

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ Nang Ram Body Oil มีความเรียบง่าย แต่แฝงความหมายและความพิเศษที่ผู้ใช้จะได้รับ ด้วยฝาขวดสีดำที่ตัดกับเนื้อออยล์สีเหลืองอ่อน และขวดพลาสติกสีใส ซึ่งมีการแต่งขอบบนล่างให้นูนคล้ายลายแผนที่ เพื่อสื่อถึงการเดินทางไปค้นพบแรงบันดาลใจก่อนที่จะมาเป็นบอดี้ออยล์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด ไม่แปลกใจเลยที่ Nang Ram Body Oil ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนสินค้าขาดตลาดไปช่วงหนึ่ง และยังติดอันดับกลิ่นขายดีอีกด้วย
See More