การเสริมพลังสุขภาพและกีฬาแก่คนกรุงเทพฯ ผ่านความร่วมมือที่ยั่งยืนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้ร่วมมือกับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และโครงการเดอะ ปาร์ค ในการมอบโรงกีฬามาตรฐานสากลให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการพัฒนาสถานที่สำหรับการออกกำลังกายในสวนเบญจกิติให้มีความพร้อมสำหรับการเล่นโยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ ที่มาพร้อมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน"การสนับสนุนทางด้านกีฬาเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน"### การพัฒนาสนามกีฬาระดับมาตรฐานสากลศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และโครงการเดอะ ปาร์ค ได้ปรับปรุงโรงกีฬา 3 แห่งในศูนย์กีฬาเบญจกิติ ให้เป็นสนามมาตรฐานสำหรับการเล่นโยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ พร้อมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและครบครัน โดยในการออกแบบและพัฒนาสนามกีฬานั้น ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยได้ให้คำแนะนำในการสร้างสนามวอลเลย์บอลที่มีขนาด อุปกรณ์ และพื้นสนามที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬาการพัฒนาสนามกีฬาในครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและสังคมที่ดีให้กับประชาชนในกรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนเข้ามาออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในเมืองให้ดีขึ้น### ความสำคัญของการสนับสนุนด้านกีฬาด้านการสนับสนุนด้านกีฬานั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยจากมุมมองของเลขาธิการสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พันตรอากาศเอกนัฐพงษ์ เกษาพันธ์ ได้เล่าถึงประสบการณ์ในวัยเด็กที่ไม่เคยได้เล่นในสนามที่มีมาตรฐาน และต้องหาอุปกรณ์มาทำเสาและตาข่ายเอง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและกระหายที่จะเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล จึงทำให้เขาได้ติดทีมชาติ และในปัจจุบันมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นการพัฒนาสนามวอลเลย์บอลที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้เด็กและเยาวชนสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถในการเล่นวอลเลย์บอลได้อย่างดีเยี่ยม### การส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายสำหรับประชาชนกรุงเทพมหานครมุ่งมั่นพัฒนาสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้พัฒนาศูนย์กีฬาเบญจกิติให้เป็นสถานที่ที่รวมกีฬาหลากหลายประเภท เช่น บาสเกตบอล พิคเคิลบอล แบดมินตัน และฟุตซอล ซึ่งในช่วงการพัฒนาโรงกีฬา 3 แห่งนี้ ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าต้องการพื้นที่สำหรับออกกำลังกายด้วยโยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ จนทำให้การพัฒนานั้นประสบความสำเร็จ ปัจจุบันศูนย์กีฬาแห่งนี้มีผู้ใช้บริการมากถึงหมื่นคนต่อสัปดาห์ ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและใจของประชาชนโดยผู้ที่สนใจออกกำลังกายที่โรงกีฬา 3 ศูนย์กีฬาเบญจกิติ สามารถเข้าใช้บริการได้ฟรี ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 – 22:00 น. และสามารถจองใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน CSTD Smart Member หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: Benchakitti Sports Center### สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันด้วยทำเลที่โดดเด่นของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเชื่อมโยงกับสวนเบญจกิติ จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับผู้ที่มาออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น Sports Zone ที่ให้บริการอุปกรณ์กีฬา คลินิก และฟิตเนสเฉพาะ รวมถึงบริการห้องอาบน้ำ Shower Station นอกจากนี้ ยังมีโซนร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ และการออกกำลังกาย รองรับการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ

เผยปริมาณบริการสุขภาพเพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ พร้อมขยายนวัตกรรมเชิงรุกหลายรูปแบบ

เปิดตัว "30 บาทรักษาทุกที่ กทม." แพร่ขยายบริการดูแลสุขภาพครอบคลุมกว่าระบบเดิม

ตามนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" ของรัฐบาล เพื่อทำให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการดูแลสุขภาพพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมเปิดตัวการขยายบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิภายใต้โครงการ "30 บาทรักษาทุกที่ กทม." เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยมีศูนย์บริการสาธารณสุข และหน่วยบริการนวัตกรรมใหม่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกและทั่วถึงมากขึ้น

ตอบโจทย์ค่ารักษาพยาบาล และขยายบริการสุขภาพรูปแบบใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข เป็นจุดบริการใกล้ตัว

กรุงเทพมหานคร มีศูนย์บริการสาธารณสุขประจำพื้นที่ทั้งหมด 69 แห่งตามเขตต่างๆ และที่มีสาขาอีก 77 แห่ง ซึ่งเป็นจุดบริการดูแลสุขภาพใกล้บ้านประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลและสาธารณสุขคอยให้บริการ ส่งผลให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาระดับปฐมภูมิได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยลดภาระการแออัดในโรงพยาบาลได้อีกด้วย

นวัตกรรมใหม่เพิ่มทางเลือกการเข้าถึงบริการสุขภาพ

นอกเหนือจากศูนย์บริการสาธารณสุขแล้ว ยังมีหน่วยบริการนวัตกรรมใหม่ที่ปรับปรุงและขยายเข้ามาในพื้นที่ ประกอบด้วย คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ร้านยาคุณภาพ คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกแพทย์แผนไทย และคลินิกเทคนิคการแพทย์ ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ในการเข้าถึงบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกรับบริการตามความต้องการและความสะดวกมากขึ้น โดยยังคงอัตราค่าบริการเพียง 30 บาท เช่นเดียวกัน

ขยายบริการนวัตกรรมสุขภาพเชิงรุกหลากหลายรูปแบบ

นอกจากศูนย์บริการสาธารณสุข และหน่วยบริการนวัตกรรมใหม่แล้ว ยังมีการขยายบริการนวัตกรรมสุขภาพในรูปแบบต่างๆ อีก 10 บริการ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ บริการการแพทย์ทางไกลผ่านแอปพลิเคชั่นพร้อมจัดส่งยาถึงบ้าน บริการเจาะเลือดที่บ้านผู้ป่วยติดเตียง รถทันตกรรมเคลื่อนที่ ให้บริการแก่กลุ่มเปราะบาง บริการระบบการแพทย์ทางไกลจากห้องพยาบาลโรงเรียน บริการสุขภาพที่สถานีบริการน้ำมันและสถานีรถไฟฟ้า และขยายบริการฟอกไตสู่ชุมชนมากขึ้น เป็นต้น โดยบริการเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

ผสานระบบข้อมูลสุขภาพผู้รับบริการ เพื่อประสิทธิภาพการดูแล

กรุงเทพมหานครได้พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนผู้รับบริการ ทั้งในระดับปฐมภูมิ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านยาคุณภาพ และโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลเลิดสิน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสู่ระบบเดียวกัน เพื่อให้มีข้อมูลประวัติสุขภาพที่ครบถ้วน สามารถส่งต่อหรือประสานการรักษาระหว่างหน่วยงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพประชาชนผู้รับบริการได้มากขึ้น

บูรณาการหน่วยงานหลักเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่

การเปิดตัว "30 บาทรักษาทุกที่ กทม." ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และ กรุงเทพมหานคร ในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการเชื่อมโยงระบบข้อมูล และขยายช่องทางการเข้าถึงบริการระดับปฐมภูมิอย่างครอบคลุม ซึ่งจะทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถเข้ารับการดูแลสุขภาพได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น