สุขภาพดี

Tencent ร่วมกับ มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ เปิดตัวเวิร์กช็อปการเล่นเกมอย่างมีสุขภาพดีในไทย!

ชุดโอลิมปิกสำหรับเยาวชน: แนวทางการเล่นเกมอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์การเล่นเกมมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเยาวชนยุคดิจิทัล โดยสามารถส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่หลากหลาย ทั้งทักษะทางสังคม การคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมจำเป็นต้องมีความสมดุลและความตระหนักถึงสุขภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ล่าสุด Tencent ร่วมมือกับมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์จัดงาน "Level Up Through Tencent Healthy Gameplay" เพื่อส่งเสริมการเล่นเกมอย่างมีสุขภาพดีและสร้างสรรค์ในหมู่เยาวชนไทย"ชุดโอลิมปิกสำหรับเยาวชน: แนวทางการเล่นเกมอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์"

เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในการเล่นเกมที่ดี

การร่วมมือสร้างสภาพแวดล้อมการเล่นเกมที่สมดุลในประเทศไทย

งานที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง เด็ก ๆ นักการศึกษา ผู้นำชุมชน และภาครัฐ โดยเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการเล่นเกมที่สมดุลในหมู่เด็ก ๆ งานนี้มุ่งเน้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเกมในฐานะเครื่องมือเสริมสร้างทักษะที่มีคุณค่า เช่น ทักษะทางสังคม การคิดวิเคราะห์ และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเมื่อมีความตระหนักถึงสุขภาพที่ดีแล้ว การเล่นเกมสามารถเป็นเครื่องมือใหม่ที่สนุกสนานในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย

การส่งเสริมวัฒนธรรมการเล่นเกมที่ดีต่อสุขภาพ

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ Tencent มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมการเล่นเกมที่สมดุลและส่งผลดีต่อสุขภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 34,000 ล้านบาทในปี 2022 ด้วยพันธกิจ "Games for Good" Tencent ได้จัดเวิร์กช็อปสำหรับครอบครัวที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นในการใช้สื่อดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบและสมดุล

การพัฒนาศักยภาพและความสัมพันธ์ของครอบครัว

ความร่วมมือระหว่าง Tencent และมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ได้นำความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่น และครอบครัวมาใช้ในการจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการดูแลและจัดการพฤติกรรมการเล่นเกมของบุตรหลาน การอบรมนี้ให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับโลกของการเล่นเกม พร้อมทั้งมีกิจกรรมเล่นเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟสำหรับครอบครัว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมให้เวลาการเล่นเกมเป็นไปในทางที่ดี

การยอมรับและพัฒนาวงการกีฬาอีสปอร์ตในประเทศไทย

การที่รัฐบาลยอมรับกีฬาอีสปอร์ตในปี 2021 ช่วยให้วงการเกมในประเทศไทยพัฒนาอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในการพัฒนาพฤติกรรมการเล่นเกมที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเติบโตอย่างเต็มศักยภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมวัฒนธรรมการเล่นเกมที่สมดุล

ฝ่ายบริหารของ Tencent และมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ต่างมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการเล่นเกมอย่างมีความรับผิดชอบและสร้างสรรค์ โดยการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองและเด็ก ๆ ได้รับความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีสมดุล และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว

ปลดล็อกระบบสุขภาพในการเข้าถึงบริการทั่วถึง กับนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" ในกรุงเทพฯ

กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร ผนึกกำลังเปิดตัวนโยบายดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย "30 บาทรักษาทุกที่" สร้างความสะดวกรวดเร็วให้ประชาชนในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ โดยการเพิ่มหน่วยบริการปฐมภูมิทางเลือกใหม่กว่า 1,500 แห่ง ทั้งคลินิก ร้านยา เพื่อเข้าถึงได้ง่ายและใกล้บ้าน ช่วยยกระดับคุณภาพระบบสุขภาพให้กับชาวกรุงเทพฯ

เติมเต็มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม

เป้าหมาย "30 บาทรักษาทุกที่" คือ ที่ใกล้บ้านคุณ

นโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่ สุขภาพดีเริ่มที่ใกล้บ้าน กรุงเทพมหานคร" มีเป้าหมายหลักในการยกระดับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขสำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปราศจากการรอคิว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เน้นย้ำว่า การดำเนินนโยบายนี้จะทำให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ใกล้ชิดกับที่พักอาศัย เพื่อให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

เพิ่มหน่วยให้บริการทางเลือกในชุมชน

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าว กระทรวงฯ ร่วมกับกรุงเทพมหานครและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ดำเนินการเพิ่มหน่วยบริการสาธารณสุขปฐมภูมิทางเลือกใหม่กว่า 1,500 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของกรุงเทพฯ ทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านขายยาคุณภาพ และหน่วยบริการเชิงรุกต่างๆ เช่น บริการเจาะเลือดถึงที่บ้าน เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียม ภายใต้ค่าใช้จ่ายเพียง 30 บาทต่อครั้ง

รับรู้บริการง่ายจากเครื่องหมายสัญลักษณ์ใหม่

ในการดำเนินนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และ สปสช. มีกลยุทธ์การสื่อสารสำคัญคือการติดตั้งเครื่องหมายสัญลักษณ์ "30 บาทรักษาทุกที่" ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้และเข้าถึงการใช้บริการได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ว่าจะอยู่ในเขตใดในกรุงเทพฯ หรือแม้แต่ในทั่วประเทศก็สามารถใช้บริการภายใต้นโยบายนี้ได้ เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจนให้ประชาชนได้รับบริการด้วยความมั่นใจ

ความพร้อมก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ในช่วงก่อนการเปิดตัวนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" อย่างเป็นทางการในวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ทางกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และ สปสช. ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมและตรวจสอบความพร้อมของหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข 38 และร้านยาเมด เอ็กซ์เพรส เพื่อติดตั้งเครื่องหมายสัญลักษณ์ "30 บาทรักษาทุกที่" และเตรียมความพร้อมในการให้บริการตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการทดลองใช้งานก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

มหกรรมวิ่งเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและสร้างความมั่งคั่งให้ชุมชน

เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดงานเทศกาลวิ่ง "The ICONiC Run Fest Thailand Series Sukhothai 2024" ในกิจกรรมดังกล่าวมีการจัดเดิน วิ่ง กิน เที่ยว เพื่อสุขภาพ ภายใต้แนวคิดการรวมพลังสร้างสุขภาพดี สร้างเศรษฐกิจดี และมุ่งสู่ความยั่งยืนของเมือง นับเป็นต้นแบบของกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพระดับประเทศ

มหกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ส่งเสริมสุขภาพพร้อมชื่นชมความงดงามของมรดกโลก

งานเทศกาลนี้ตั้งเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน ผ่านกิจกรรมวิ่ง เดิน และกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ในแหล่งมรดกโลกที่สวยงามของจังหวัดสุโขทัย ไม่ว่าจะเป็นวัดมหาธาตุ เจดีย์ประธาน และวิหาร ซึ่งล้วนแต่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ โดยมีเป้าหมายในการใช้ Soft Power ของมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ ในการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพ และพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ให้มีความยั่งยืน

รวมพลังภาคีเครือข่ายสร้างความสำเร็จ

การจัดงานเทศกาลวิ่งในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนและร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน อาทิ กรมอนามัย ผ่านตัวแทนระดับสูงอย่าง นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย, นพ.ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย, พญ.ไสววรรณ ไผ่ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก รวมถึงผู้แทนจากกลุ่มงานต่าง ๆ ภายในกรมอนามัย อาทิ กลุ่มพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพวัยทำงาน กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพวัยสูงอายุ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพระดับประเทศ

ก้าวสู่เมืองสุขภาพยั่งยืน

นอกจากการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนแล้ว งานเทศกาลนี้ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้มีความยั่งยืน โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริโภค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินและการสร้างรายได้ในชุมชน นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาเมืองสู่ความยั่งยืนในทุกด้าน ทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม