ความบันเทิง
คนเขียนบทขอแจง หลังชาวเน็ตจวกพรชีวันตอนจบ ปรับบทจนเละเทะ | TeeNee.com
การแปลงเรื่องราวละครสู่สิ่งที่ดีได้อย่างไรละครโทรทัศน์เรื่อง "พรชีวัน" ที่ออกอากาศช่วงท้ายของตอนจบกลายเป็นประเด็นอันร้อนแรงส่งท้ายเรื่อง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนบทจากต้นฉบับนิยายแบบที่ไม่เป็นที่พอใจของแฟนๆ โดยทำให้บทบาทของตัวละครนางเอกอย่าง "พรชีวัน" ดูด้อยค่าไม่เด่นเท่ากับตัวละครอื่นๆ รวมถึงบทบาทของพระเอกอย่าง "สรุจ" ก็ไม่สมกับการเป็นหนึ่งในหกจุฑาเทพรุ่นใหม่และเป็นนักการทูต ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก"การแปลงเรื่องละครสู่สิ่งที่ดีได้อย่างไร"

การให้อภัย และความเข้าใจลึกซึ้งคือหัวใจสำคัญต่อการนำเสนออย่างกลมกลืนและสร้างสรรค์

การให้อภัยจากการตัดสินบทละครพรชีวัน

ถึงแม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มผู้ชมที่ไม่พอใจการปรับเปลี่ยนบทละครจากต้นฉบับนิยาย แต่ผู้เขียนบทละครอย่าง นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ ก็ได้ออกมาขอโทษอย่างจริงใจและขอให้ผู้ชมเชื่อในความตั้งใจของเธอในการนำเสนอละครในมุมมองที่ต่างออกไปจากต้นฉบับ โดยระบุว่าเธอชื่นชอบฉากรักอบอุ่นและมักข้ามฉากดรามาต่างๆ จึงทำให้การดำเนินเรื่องของตัวละครนำดูด้อยค่าไปบ้าง แต่ในความเป็นจริง ผู้เขียนเชื่อว่าตัวละครเหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบจิตใจอย่างหนักหน่วงจนสามารถกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่ดีงามได้ในที่สุด

การเข้าใจและเห็นคุณค่าในมิติที่หลากหลาย

ผู้เขียนบทละครอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้จะเลือกนำเสนอมุมมองที่แตกต่างไปจากต้นฉบับนิยาย แต่ก็มีเหตุผลในการเลือกทางเดินของตัวละครที่มาจากความประทับใจในส่วนของนวนิยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวละครของ "พรชีวา" ซึ่งเป็นนางเอกที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน แต่กลับได้จุฑาเทพเป็นคู่รัก เป็นความชาญฉลาดของผู้เขียนนวนิยายที่สร้างให้เกิดอีกมิติของตัวละครชีวัน นอกจากนี้ ประโยคที่ว่า "คน : ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ มีช่วงเวลาที่ทำผิดพลาด แต่เดินผ่านมาได้ด้วยความอดทน และเลือกกลับมาสู่ชีวิตในด้านดีงามทุกครั้ง" ก็ได้กลายเป็นหัวใจหลักของละครและถูกนำมาถกเถียงผ่านตัวละครต่างๆ เช่น การดื่มแล้วด่าคน การทำความผิดพลาดเหมือนเด็กๆ และการต้องเผชิญกับอุปสรรคจากอดีต สิ่งเหล่านี้เป็นการทดสอบจิตใจของตัวละครในการก้าวผ่านและเลือกที่จะกลับมาสู่ความดีงาม

ความผูกพันระหว่างผู้สร้างและผู้ชม

ผู้เขียนบทละครยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงบทละครจากต้นฉบับได้สร้างความผิดหวังให้กับผู้ชมจำนวนมาก แต่ทางทีมงานได้นำข้อวิจารณ์ต่างๆ มาปรึกษาหารือกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการเขียนบทในอนาคต นอกจากนี้ ผู้เขียนยังแสดงความขอบคุณอย่างแรงกล้าต่อทีมงานและผู้รับผิดชอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและความผูกพันระหว่างผู้สร้างและผู้ชม อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานให้มีคุณภาพและน่าติดตามยิ่งขึ้น
“THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024”

หนังLGBTQ+ไทยสู่เวทีโลก: เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ชวนเปิดมุมมองแห่งความหลากหลาย

เมื่อความเท่าเทียมเบ่งบานบนเส้นทางการต่อสู้อันยาวนาน ผู้คนจะพบพานความหมายใหม่ในตัวตน ร่วมฉลองพลังแห่งความเท่าเทียมด้วยกันในงาน "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" เทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ ครั้งแรกของประเทศไทย ที่จะพาทุกคนมาร่วมค้นหาความหมายในหัวใจ ผ่านผลงานภาพยนตร์ของไทยและต่างประเทศที่ถ่ายทอดเรื่องราวความหลากหลายทางเพศในสังคม

เวทีที่เชื่อมโยงทุกคนผ่านพลังแห่งภาพยนตร์

เปิดพรมแดงสู่ไอคอนแห่งความหลากหลาย

งานนี้จะได้พบกับเหล่าดาราศิลปินและคนดังในวงการ LGBTQ+ มากมาย อาทิ นลิน - ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวราฉัตร Miss Intercontinental 2023, พอร์ช - อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี และ อาม - สัพพัญญู ปนาทกุล 2 นักแสดงนำจากซีรีส์วายที่ครองรักกันมากว่า 15 ปี, ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา นักแสดงนำจากซีรีส์ "Yes or No", คุณชายอดัม - ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย, Leyna Bloom นักแสดงและนางแบบข้ามเพศชาวอเมริกัน, และ Tsai Ming Liang ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากไต้หวัน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับยอดเยี่ยมที่สุด ได้เข้าร่วมการเดินพรมแดงในครั้งนี้ด้วย นับเป็นโอกาสอันมีค่าที่จะได้ใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญและไอคอนในวงการ LGBTQ+ เหล่านี้

ภาพยนตร์ LGBTQ+ ชั้นนำจาก 14 ประเทศทั่วโลก

ภายในงานจะมีภาพยนตร์ LGBTQ+ คุณภาพจากทั่วโลกให้ได้ชม ทั้งผลงานที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ อาทิ Before I Change My Mind, Splendid Isolation, Big Boys, Solids by the Seashore, Days และ Vera and the Pleasure of Others ที่จะพาผู้ชมเปิดมุมมองใหม่ต่อความหลากหลายทางเพศ รวมทั้งการนำภาพยนตร์คลาสสิกไทยอย่าง "ฉันผู้ชายนะยะ" และ "รักแห่งสยาม" กลับมาฉายใหม่ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย

แบ่งปันเรื่องราวและความลับเบื้องหลังภาพยนตร์

งานนี้จะมีเวทีสนทนากับผู้กำกับและนักสร้างสรรค์ภาพยนตร์ระดับโลก เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ร่วมพูดคุย ซักถาม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดเผยความลับเบื้องหลังภาพยนตร์ที่น้อยคนจะรู้ และแนวโน้มของวงการภาพยนตร์ LGBTQ+ ในอนาคต

เฟ้นหานักสร้างสรรค์รุ่นใหม่

นอกจากนี้ยังมีการประกวดภาพยนตร์สั้น เพื่อเปิดโอกาสให้เหล่านักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและถ่ายทอดมุมมองความคิดที่มีต่อความหลากหลายและความเท่าเทียมในสังคมผ่านผลงานของตน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาวงการภาพยนตร์ LGBTQ+ ในอนาคตในช่วงวันที่ 6-10 กันยายน 2567 ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พบกับประสบการณ์ที่มีแต่ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความประทับใจอย่างแน่นอน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ก TILFF
See More
คุยกัน7วันหน : ชาวจีนประทับใจ ‘หลานม่า’ พาคิดถึงวันวาน-สะท้อนครอบครัวเอเชียตะวันออก
การส่งออกภาพยนตร์และละครไทยยกระดับความสัมพันธ์จีน-ไทยภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หลานม่า" ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมชาวจีน หลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของแผ่นดินใหญ์เม่ือเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของทั้งสองประเทศ และการส่งออกงานสร้างสรรค์ของไทยไปยังจีนที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมา

ความผูกพันทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยผ่านภาพยนตร์

ความนิยมภาพยนตร์ไทยในจีน

ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หลานม่า" ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมชาวจีนหลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้รับคะแนนความนิยมสูงถึง 9.0 จากเว็บไซต์ Douban แหล่งรวมรีวิวและคำวิจารณ์ภาพยนตร์สัญชาติจีน ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดในปัจจุบัน ชาวเนตจีนต่างชื่นชมในรูปแบบการเล่าเรื่องที่สงบและอบอุ่น รวมทั้งการตีแผ่ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและการนำเสนอประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจ ซึ่งเชื่อมโยงกับความเชื่อและค่านิยมทางวัฒนธรรมของชาวจีนนอกจากนี้ ภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ฉลาดเกมส์โกง" ที่เข้าฉายในจีนเมื่อปี 2017 ยังประสบความสำเร็จด้านรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ โดยสร้างรายได้กว่า 1.35 พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของภาพยนตร์ไทยในการเข้าถึงตลาดจีนและตอบรับความชื่นชอบของผู้ชมชาวจีนได้เป็นอย่างดี

การส่งออกศิลปวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ ผ่านการเผยแพร่ภาพยนตร์และละครไทย

นอกจากความสำเร็จด้านรายได้แล้ว การส่งออกภาพยนตร์และละครไทยไปยังจีนยังมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงและสานสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ โดยได้ช่วยส่งเสริมการพูดคุยข้ามวัฒนธรรมและกระตุ้นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทย เช่น เสื้อผ้า ขนม ผลไม้ เป็นต้นภาพยนตร์ไทยเรื่อง "หลานม่า" เป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนความสัมพันธ์อันชิดใกล้ระหว่างวัฒนธรรมจีนกับไทย ผ่านการนำเสนอภูมิหลังของชาวจีนโพ้นทะเลจากแต้จิ๋ว และองค์ประกอบทางวัฒนธรรมในพิธีศพของชาวจีนตอนใต้ซึ่งส่งผลให้ผู้ชมชาวจีนรู้สึกเข้าถึงและคุ้นเคย นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการรักษาขนบธรรมเนียมและค่านิยมดั้งเดิมของชาวจีนโพ้นทะเลในต่างประเทศ ไปพร้อมกับการสร้างอัตลักษณ์ของตนเองในขณะปรับตัวเข้ากับสังคมท้องถิ่น

การเปิดโลกทัศน์และสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม

การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างจีนและไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเผยแพร่ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของไทยในจีน ได้ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้ผู้ชมจีนได้เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง "หลานม่า" ที่นำเสนอความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างสมาชิกในครอบครัว ซ่ึงสอดคล้องกับค่านิยมทางครอบครัวในวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก ส่งผลให้ผู้ชมชาวจีนรู้สึกคุ้นเคยและเข้าถึงเรื่องราวได้เป็นอย่างดีในทางกลับกัน การส่งออกภาพยนตร์และละครไทยไปยังจีน ยังช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ สร้างคุณูปการต่อการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีนและไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
See More