ความบันเทิง
เปิดมุมมองความหลากหลายผ่านเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ LGBTQ+ ครั้งแรกในไทย
ไทยก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญแห่งความเท่าเทียมเปิดตัวเทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับนานาชาติครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อความเท่าเทียมกำลังเบ่งบานขึ้นอย่างก้าวหน้า ผู้คนพร้อมที่จะค้นพบความหมายใหม่แห่งตัวตน และมารวมตัวกันฉลองพลังแห่งความหลากหลายทางเพศในงาน "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" เทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ นานาชาติครั้งแรกของประเทศไทย

นำเสนอความหลากหลายทางเพศผ่านผลงานภาพยนตร์ระดับโลก

ค้นหาความหมายในตัวตนผ่านภาพยนตร์

เทศกาลนี้จะพาทุกคนได้ค้นพบและเข้าใจความหมายแห่งตัวตนที่แท้จริง ผ่านการชมผลงานภาพยนตร์ที่หลากหลายทั้งจากไทยและต่างประเทศ ที่สะท้อนเรื่องราวความหลากหลายทางเพศในสังคม ภายใต้แนวคิด "Where Film Unites Us All พลังแห่งภาพยนตร์จะเชื่อมเราไว้ด้วยกัน" งานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 10 กันยายน 2567 ที่ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+

"THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" มีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้และการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ พร้อมยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางชั้นนำของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก ผ่านการรวมพลังการผลิตภาพยนตร์และความร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากล

กิจกรรมไฮไลต์พบสุดยอดคนดังจากวงการ LGBTQ+

ภายในงานจะเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินพรมแดงต้อนรับดาราศิลปินและคนดังชื่อดังมากมาย ทั้งคนดังในวงการบันเทิง อิทธิพลของวงการ LGBTQ+ และไอคอนิกที่หลายคนปรารถนาที่จะพบพาน อาทิ นลิน – ฉัตร์ณลิณ โชติจิรวราฉัตร Miss Intercontinental 2023, พอร์ช – อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี และ อาม – สัพพัญญู ปนาทกุล, ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา, คุณชายอดัม – ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, Leyna Bloom, Tsai Ming Liang และ Trevor Anderson เป็นต้น

ชมภาพยนตร์ LGBTQ+ ชั้นนำระดับโลก

ภายในเทศกาลยังจะได้ชมภาพยนตร์ LGBTQ+ จาก 14 ประเทศกว่า 28 เรื่อง รวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องระดับตำนาน เช่น Before I Change My Mind, Splendid Isolation, Big Boys, Solids by the Seashore, Days และ Vera and the Pleasure of Others ที่จะเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศให้ผู้ชมได้ซึมซับ

ขุดคุ้ยตำนานภาพยนตร์ไทยกลับมาโลดแล่น

เทศกาลนี้ยังจะนำตำนานภาพยนตร์ไทยมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยจะมีการฉายใหม่ของภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง "ฉันผู้ชายนะยะ" และ "รักแห่งสยาม" ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการตระหนักถึงความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย

พูดคุยกับผู้กำกับชื่อดังระดับโลก

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดกับผู้กำกับและนักสร้างสรรค์ภาพยนตร์ระดับโลก เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ และความลับเบื้องหลังในการสร้างสรรค์ผลงานชั้นเยี่ยม

ค้นหามุมมองใหม่จากนักสร้างรุ่นใหม่

ขณะเดียวกัน เทศกาลยังเปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ผ่านการประกวดภาพยนตร์สั้น เพื่อส่งเสริมและเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความหลากหลายและความเท่าเทียมในสังคมเชิญร่วมเดินทางค้นหาความหมายของหัวใจและพันธสัญญาแห่งความหลากหลายทางเพศที่ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 6 – 10 กันยายน 2567 นี้ เพื่อสัมผัสความยิ่งใหญ่ของเทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ นานาชาติครั้งแรกในประเทศไทย และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ก TILFF (https://www.facebook.com/tilff.official)
ผังเด็ดช่อง 7HD ส่งละครใหม่ลงจอช่วง 6 โมงเย็น ประเดิมด้วย “รักซ่อนรส”

ทุกความสุขมารวมไว้ที่ "รักซ่อนรส" ละครเพื่อคนรักรสชาติ

ช่อง 7HD กลับมาเอาใจแฟนละครอีกครั้ง ด้วยการจัดผังรายการใหม่ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของเนื้อหาและเวลาออกอากาศ โดยจะนำเสนอละครเรื่องใหม่ "รักซ่อนรส" ซึ่งเป็นละครโรแมนติก-ดรามา ที่จะเข้ามาครองช่วงเวลาที่น่าสนใจในช่วง 18.00 น. ของทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี

ไม่เพียงความรัก แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติแห่งความสุข

ในละครเรื่อง "รักซ่อนรส"

"รักซ่อนรส" เป็นละครโรแมนติก-ดรามาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานเดิมอย่าง "รักซ่อนรส" ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้ว แต่ในครั้งนี้ได้เพิ่มเติมความแปลกใหม่ด้วยการเปิดตัวนักแสดงหน้าใหม่อย่าง "มิ้นชิ เสฏฐนันท์" ควบคู่ไปกับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง "อ๊อฟ ชนะพล" ซึ่งทั้งคู่มีเคมีและฟิลลิ่งที่ลงตัว รับประกันความสนุกสนานไปกับเรื่องราวความรักที่ทั้งหวาน ทั้งปั่นป่วนเรื่องราวของ "รักซ่อนรส" เริ่มจากตัวละครหลัก 2 คน คือ "ฟ้าใส" นักรีวิวอาหารสาวเอี่ยม ที่ชีวิตพลิกผันจากการถูกร่ำรวยบ้านปล้นจนต้องหันไปทำงานในร้านอาหารของ "สรรค์" หนุ่มเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ที่ถูกไล่ล่าจากอดีต แต่ด้วยฝีมือด้านอาหารของ "ฟ้าใส" ทำให้ร้านอาหารของ "สรรค์" ฟื้นคืนชีพ และค่อยๆ ก่อตัวเป็นความรักระหว่างทั้งคู่ แต่มาพบอุปสรรคจากความหวังดีที่เป็นอันตรายต่อความรักของพวกเขาในการสร้างละครเรื่องนี้ ทางผู้จัดฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของอาหารและการกินอย่างพิถีพิถัน โดยได้ให้นักแสดงสาวอย่าง "มิ้นชิ" ได้ศึกษาและฝึกทำอาหารเพื่อให้การแสดงมีความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมาให้ความรู้และให้คำแนะนำแก่นักแสดงอีกด้วย เพื่อให้ละครเรื่องนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ความพิเศษของ "รักซ่อนรส"

ไม่เพียงแค่ความรักและดราม่าที่น่าติดตาม แต่ "รักซ่อนรส" ยังได้มอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชมอีกมากมาย อาทิ- ได้เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารและสูตรอาหารใหม่ๆ ที่น่าสนใจ- ได้ชมความสามารถด้านการแสดงของนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง "มิ้นชิ" ที่พร้อมสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก- ได้ติดตามความสัมพันธ์อันซับซ้อนและเต็มไปด้วยอุปสรรคของคู่พระ-นางที่ต้องพยายามฝ่าฟันไปด้วยกัน- ได้สัมผัสบรรยากาศความอบอุ่นและความสุขในครอบครัวของตัวละครหลักด้วยความหลากหลายและความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ละครเรื่องนี้ ทำให้ "รักซ่อนรส" เป็นอีกหนึ่งละครที่มีความโดดเด่นและน่าติดตามอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นด้านเนื้อหา การแสดง หรือแม้แต่การนำเสนอรสชาติอาหารที่น่าสนใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รับความสุขและความสนุกสนานอย่างเต็มอิ่ม

ทัพละครดีๆ รออยู่ที่ช่อง 7HD

ไม่เพียงแค่ "รักซ่อนรส" เท่านั้น ที่ช่อง 7HD ยังได้เตรียมรายการและละครดีๆ อีกมากมายมาเอาใจแฟนๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะประกอบด้วยทั้งละครเรื่องใหม่ที่น่าสนใจ และละครฟอร์มใหญ่ที่แฟนๆ ต้องรอคอย โดยจะออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงอาทิตย์ เพื่อให้ทุกคนได้ติดตามความสนุกสนานตลอดทั้งสัปดาห์ดังนั้น แฟนละครทุกคนจงติดตามและเตรียมเก็บความสุขไว้กับ "รักซ่อนรส" และละครคุณภาพอื่นๆ ที่จะมาเติมเต็มความสุขให้กับทุกคนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ที่ช่อง 7HD
See More
Control และ Alan Wake เริ่มเตรียมงานการพัฒนาเป็นภาพยนตร์ – ซีรีส์คนแสดงจริง

เปิดศึกยุทธศาสตร์ควบคุมโลกภาพลวงตาจาก Remedy Entertainment

เมื่อพูดถึงเกมจากค่าย Remedy Entertainment ไม่ว่าจะเป็น Control หรือ Alan Wake ต่างก็มีคุณสมบัติเหมาะที่จะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์คนเล่นได้อย่างลงตัว ด้วยการนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบแบ่งเป็นบท พร้อมทั้งมีการจัดทำสื่อคนแสดงจริงเพื่อผลักดันเนื้อเรื่องให้ชัดเจนขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็คือ ธีมของเกมแนวระทึกขวัญที่ได้รับความนิยมในวงการจอเงิน จอแก้วอีกด้วย

เตรียมฉายในจอใหญ่ ด้วยหนูสุดแสนกล

ก้าวสำคัญของธุรกิจเกม สู่การครองพื้นที่จอภาพ

ล่าสุด Remedy Entertainment ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ผู้พัฒนาเกมชื่อดังได้ร่วมมือกับบริษัท Annapurna ในการจับมือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ สำหรับการพัฒนาเกมภาค Control และ Alan Wake ในอนาคต โดยในส่วนนี้ Remedy จะยังคงมีสิทธิ์ในการพัฒนาเกมภาคใหม่หรือเกมอื่นๆ ต่อไป และจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก Annapurna อย่างเต็มที่เช่นเดิม ขณะเดียวกัน Annapurna ก็จะก้าวขึ้นมามีบทบาทในฐานะโปรดิวเซอร์ร่วม พร้อมทั้งมีสิทธิ์ในการพัฒนาภาพยนตร์หรือซีรีส์จากทรัพย์สินทางปัญญาของ Remedy ด้วยแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือการยืนยันการพัฒนาอะไรมากนัก แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้เกมเมอร์ทุกคนได้เห็นความฝันเป็นจริง เพราะด้วยการร่วมมือกับ Annapurna ที่มีบทบาทในฐานะโปรดิวเซอร์ร่วมนั้น จะทำให้ Control และ Alan Wake มีโอกาสถูกนำมาดัดแปลงและถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบของภาพยนตร์หรือซีรีส์ในอนาคต

หนังสั้น Alan Wake ไล่ติดตามตำนานอาถรรพ์เมือง Bright Falls

ในส่วนของโปรเจ็กต์ล่าสุดจาก Remedy อย่าง Alan Wake ภาคที่ 2 เป็นตัวอย่างที่ดีถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของวงการเกมและภาพยนตร์ เนื่องจากเกมดังกล่าวได้เสริมสร้างประสบการณ์การเล่นด้วยการนำเสนอนิยายภาคพิเศษในรูปแบบหนังสั้นควบคู่ไปด้วย ซึ่งเนื้อเรื่องจะเล่าถึงความลับของเมือง Bright Falls ที่ได้ปรากฏตัวในเกม Alan Wake ภาคแรกภายในหนังสั้นดังกล่าว เราจะได้ติดตามเรื่องราวของนักเขียนหนุ่มที่หายตัวไปตั้งแต่ 13 ปีก่อน ขณะที่เขาต้องเอาตัวรอดจากฝันร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการ์ตัวละครที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชม โดยเฉพาะการไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่ FBI อย่าง Saga Anderson ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ซึ่งก็ยิ่งทำให้เนื้อหามีความซับซ้อนขึ้นไปอีกหนังสั้นดังกล่าวจึงเป็นตัวอย่างที่ดีถึงความเป็นไปได้ในอนาคตว่า Control และ Alan Wake อาจจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ในอนาคต โดยที่ Annapurna ในฐานะพันธมิตรร่วมจะเป็นผู้สนับสนุนและสร้างสรรค์ผลงานเหล่านั้นให้เป็นจริง

ช่วยมนุษย์ชาติให้รอดพ้นจากอาถรรพ์ บนเส้นทางสู่เส้นทางอันมืดสลวาง

นอกเหนือจากการพัฒนาเกมภาค Control และ Alan Wake แล้ว Remedy Entertainment ยังมีโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เช่น Absolute Zero ซึ่งเป็นเกมภาคใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และถือเป็นเกมนวัตกรรมด้านการเล่นเกมที่ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับตัวละครหลักของเกมโดยในเกม Absolute Zero นั้น ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็น "ผู้ช่วยเหลือ" ของตัวละครหลัก ซึ่งจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามอันร้ายแรงที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยที่ตัวละครหลักและผู้เล่นจะต้องพึ่งพาอาศัยและปกป้องซึ่งกันและกันตลอดการเดินทาง ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้เล่นและตัวละครหลักในเกม Absolute Zero นี้ ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ Remedy ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของนักเล่นเกมในยุคปัจจุบัน นอกเหนือจากธีมเรื่องราวที่น่าติดตามแล้ว การที่ผู้เล่นได้เข้าไปมีส่วนร่วมแบบใกล้ชิดกับตัวละครก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว และอยากที่จะช่วยเหลือตัวละครหลักให้พ้นพิภพจากภัยอันแสนสยดสยองที่กำลังคุกคาม ด้วยการออกแบบเกมนวัตกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต่อไปเราอาจจะได้เห็น Absolute Zero หรือแม้แต่เกมอื่นๆ จาก Remedy ถูกพัฒนาต่อยอดไปสู่ภาพยนตร์หรือซีรีส์ได้ในอนาคต
See More