สุขภาพดี
เทรนด์นอนน้อยมาแรง นอนดึกอย่างไร? ให้สุขภาพดี

การปรับตัวของคนรุ่นใหม่ในยุคที่นอนน้อยและนอนดึก

ในยุคสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีและวิถีการทำงานเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ทั้งวัยทำงานและวัยเรียนมีแนวโน้มที่จะนอนน้อยและนอนดึกมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ปรับตัวให้ทันกับเทรนด์นอนน้อย นอนดึก ของคนรุ่นใหม่

การเปลี่ยนแปลงของสังคมสมัยใหม่ที่ส่งผลต่อการนอน

ในยุคปัจจุบัน สังคมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีและวิถีการทำงาน ซึ่งส่งผลให้คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะนอนน้อยและนอนดึกมากขึ้น เช่น การทำงานแบบ Hybrid, Remote หรือ Work From Home รวมถึงอาชีพฟรีแลนซ์ ที่ทำให้ผู้คนสามารถจัดสรรเวลาการทำงานได้ด้วยตัวเอง และหันมาใช้ชีวิตในช่วงกลางคืนมากขึ้น นอกจากนี้ ภาคธุรกิจก็ได้มีการขยายเวลาเปิดกิจการเพื่อเอาใจสายนอนดึก เช่น Co-working Space, Community Mall และฟิตเนส ที่เริ่มเปิดบริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงการช้อปปิ้งออนไลน์ที่สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีการขยับช่วงเวลาโปรโมชั่นในช่วงเวลาที่ดึกกว่าเดิม

ผลกระทบของการนอนน้อยและนอนดึก

แม้ว่าค่าเฉลี่ยการนอนของผู้คนจะลดน้อยลง และนอนดึกกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าลืมว่า พฤติกรรมการนอนที่ไม่ดีมักส่งผลให้มีปัญหาสุขภาพตามมา ดังนั้น หากนอนดึกแล้ว เราจะดูแลสุขภาพดีได้อย่างไร

เทคนิคการนอนดึก นอนน้อย ให้มีสุขภาพที่ดี

แม้ว่าการนอนดึกและนอนน้อยจะเป็นเรื่องปกติของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลสุขภาพ ซึ่งมีเทคนิคต่างๆ ที่สามารถช่วยให้เรานอนดึก นอนน้อย แต่ยังคงมีสุขภาพที่ดี เช่น1. นอนดึกได้ แต่ต้องนอนให้ได้ขั้นต่ำ 4 ชั่วโมงร่างกายมนุษย์ต้องการการพักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องนอนดึก ควรหาเวลาพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับลึก หลับสนิท และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการนอนหลับคือ ช่วงก่อน 02.00 น. เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้า ช่วยเรื่องส่วนสูงสำหรับเด็กๆ วัยกำลังโต ช่วยชะลอวัย เสริมภูมิต้านทาน และสุขภาพที่ดีให้กับผู้ใหญ่วัยทำงานด้วย2. ออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้าสักหน่อยสำหรับคนที่นอนดึกเป็นประจำ การออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้าหลังตื่นนอน เช่น การเดินเล่ว วิ่งเหยาะๆ หรือเปิดคลิปออกกำลังกายง่ายๆ สัก 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้ดี และยังช่วยให้หลับสบายขึ้นด้วย3. งีบ 20 นาที รับรองมีพลัง!สำหรับคนที่นอนน้อยในคืนก่อน การงีบหลับสัก 15-20 นาทีในช่วงพักเที่ยง จะช่วยให้ร่างกายกลับมาเฟรชในระหว่างวันได้ดี เพราะเป็นการ Power Nap ที่จะให้พลังงานเทียบเท่ากับการนอน 3 ชั่วโมง4. ดื่มคาเฟอีนช่วยได้ (แต่อย่ามากจนเกินไป!)คาเฟอีนจากเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลม จะออกฤทธิ์ช่วยให้สมองตื่นตัวและตาสว่างประมาณ 6-7 ชั่วโมง ดังนั้น ควรดื่มกาแฟในช่วงเช้าเท่านั้น และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนหลังมื้อเที่ยงเป็นต้นไป5. บำรุงร่างกายด้วยอาหารที่มีประโยชน์เมื่อร่างกายเริ่มเหนื่อยล้าจากการนอนน้อย การทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินบี และวิตามินซี จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย รวมถึงการดื่มน้ำเปล่า กินกล้วย และอาหารที่มีกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบหลัก จะช่วยให้ร่างกายกลับมามีพลังอีกครั้ง

อาหารว่างยามดึกที่ดีต่อสุขภาพ

นอกจากเทคนิคการดูแลร่างกายให้พร้อมรับมือกับการนอนน้อยแล้ว การเลือกทานอาหารว่างในมื้อดึกที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้การนอนน้อยครั้งนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น1. กรีกโยเกิร์ตกรีกโยเกิร์ตให้โปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตทั่วไปถึง 2 เท่า แต่มีปริมาณแป้ง น้ำตาลต่ำกว่า จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และช่วยลดความอยากอาหารได้ดี2. ผลไม้สดผลไม้สด เช่น แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง ที่มีใยอาหารเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นตัวเลือกที่ดีในการทานยามหิวดึกๆ เพราะช่วยให้อิ่มท้องและย่อยง่าย3. ธัญพืชและถั่วเปลือกแข็งธัญพืชและถั่วเปลือกแข็ง เป็นแหล่งใยอาหารและไขมันดี ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีในการทานเป็นอาหารว่างยามดึก เพราะช่วยให้อิ่มท้องและย่อยง่าย
รพ.วิมุต คว้ารางวัลใหญ่ระดับสากลจากเวที Asian Technology Excellence Awards 2024 ในสาขา Radiology Imaging และ IT ตอกย้ำพันธกิจยกระดับการรักษาและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างสังคมไทยสุขภาพดีอย่างทั่วถึง

โรงพยาบาลวิมุต คว้ารางวัลใหญ่จากเวทีระดับเอเชีย

โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในใจกลางกรุงเทพฯ ได้รับรางวัลใหญ่จากเวทีประกาศรางวัลด้านเทคโนโลยีระดับภูมิภาคเอเชีย Asian Technology Excellence Awards 2024 ในสาขา Radiology Imaging และ IT ซึ่งเป็นการยกย่องความสำเร็จของโรงพยาบาลในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพการบริการและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ

ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับระดับภูมิภาค

ความสำเร็จในสาขา Radiology Imaging

โรงพยาบาลวิมุตได้รับรางวัลในสาขา Radiology Imaging จากการคิดค้นเทคนิคการถ่ายภาพเอกซเรย์ข้อสะโพกแบบใหม่ที่ชื่อว่า "ViMUT Model X-ray HIP Lateral Cross Table Positioning" ซึ่งช่วยให้ภาพเอกซเรย์มีความคมชัด ลดอัตราการถ่ายเอกซเรย์ซ้ำจาก 45% เหลือเพียง 4% และลดปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับลงถึง 93% นอกจากนี้ ยังช่วยลดระยะเวลาในการถ่ายเอกซเรย์ลงถึง 50% ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมแพทย์ในการพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มความสะดวก ความแม่นยำในการวินิจฉัย และความปลอดภัยให้กับผู้รับบริการ

ความสำเร็จในสาขา IT

ในสาขา IT ทางเวที Asian Technology Excellence Awards ได้ยกย่องความสำเร็จของ ViMUT App ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุขภาพที่ครอบคลุมทุกมิติการบริการของเครือข่ายของโรงพยาบาลวิมุต ตั้งแต่การทำนัดหมายเลือกพบแพทย์ การเข้ารับการรักษา จนถึงการติดตามผลการรักษาด้วยบริการ Telemedicine ที่สะดวกรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในยุคดิจิทัล โดยแอปพลิเคชัน ViMUT App มีผู้ใช้งานกว่า 52% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด และมียอดการใช้งานรวมกว่า 150,000 ครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านเฮลท์แคร์แบบองค์รวม

ความสำเร็จในการคว้ารางวัลระดับภูมิภาคเอเชียในครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมแพทย์และบุคลากรทุกคนที่โรงพยาบาลวิมุตในการสร้างอีโคซิสเต็มด้านเฮลท์แคร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้คนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการรักษา ตลอดจนเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ โรงพยาบาลวิมุตจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนบริการเฮลท์แคร์แบบองค์รวมที่ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันโรคไปจนถึงการฟื้นฟูหลังป่วย เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป
See More
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ขับเคลื่อนแอคทีฟไลฟ์สไตล์ ส่งมอบโรงกีฬามาตรฐาน สร้างสังคมสุขภาพดี
สุขภาพและความสุขเพื่อคนกรุงเทพฯ ผ่านสนามกีฬาสุดล้ำที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และโครงการเดอะ ปาร์ค ได้ส่งมอบโรงกีฬามาตรฐานสากลแห่งใหม่ให้แก่กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ใจกลางสวนเบญจกิติ เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายและยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ ผ่าน 3 กีฬาสำคัญ โยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ มีอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ทันสมัย ส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯ ได้ใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมทางกายและสร้างสุขภาพที่ดี รวมทั้งพัฒนาสังคมที่ดีขึ้นด้วย

ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในกรุงเทพฯ ผ่านมาตรฐานสากลของสนามกีฬา

สร้างศูนย์กีฬาสุดล้ำให้คนกรุงเทพฯ

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับไทยเบฟเวอเรจ และเดอะ ปาร์ค ได้ปรับปรุงโรงกีฬา 3 ศูนย์กีฬาเบญจกิติ ให้เป็นสนามมาตรฐานสำหรับการเล่นโยคะ วอลเลย์บอล และจักรยานสปินนิ่งไบค์ พร้อมกับอุปกรณ์กีฬาที่ทันสมัยและครบครัน เพื่อให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนในกรุงเทพฯ ศูนย์กีฬาเบญจกิติแห่งนี้ได้รับคำแนะนำในการสร้างสนามและเลือกใช้อุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมจากสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยป้องกันการบาดเจ็บของผู้ใช้บริการ และสามารถฝึกทุกทักษะที่จำเป็นสำหรับกีฬาวอลเลย์บอล คาดว่าเด็กและเยาวชนที่ได้ใช้สนามนี้จะสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม

ศูนย์กีฬาเบญจกิติ จุดหมายสำหรับการออกกำลังกายสุดล้ำ

ศูนย์กีฬาเบญจกิติมีทำเลที่โดดเด่น เพราะเชื่อมโยงกับสวนเบญจกิติ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับผู้ที่มาออกกำลังกาย อาทิ Sports Zone ที่ให้บริการอุปกรณ์กีฬา คลินิก และฟิตเนสเฉพาะ รวมถึง Shower Station และโซนร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่มมากมาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพและการออกกำลังกายปัจจุบันศูนย์กีฬาเบญจกิติมีผู้ใช้บริการมากถึงหมื่นคนต่อสัปดาห์ ช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย และใจของประชาชนในกรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 – 22:00 น.

สร้างสังคมสุขภาพดีที่ยั่งยืนให้คนกรุงเทพฯ

การปรับปรุงศูนย์กีฬาเบญจกิติในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ไทยเบฟเวอเรจ และเดอะ ปาร์ค ที่ต้องการส่งมอบสังคมสุขภาพดีให้กับประชาชนในกรุงเทพฯ และสนับสนุนให้มีทางเลือกในการออกกำลังกายในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนด้านกีฬายังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการส่งเสริมสุขภาพกายและใจ รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและทักษะใหม่ๆ ให้กับประชาชนในกรุงเทพฯ
See More