สุขภาพดี
นักศึกษาสวนสุนันทาสุขภาพดีตรวจสุขภาพประจำปี 2567

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจัดวันตรวจสุขภาพนักศึกษารหัส 66 ประจำปี 2567

ในช่วงวันที่ 26-31 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดย กองพัฒนานักศึกษา ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาและกิจการศิษย์เก่า ได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปีแก่นักศึกษารหัส 66 ประจำปีการศึกษา 2567 โดยมีนักศึกษาจากคณะวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

โครงการส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืนสำหรับนักศึกษาทุกคน

การตรวจสุขภาพตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

โครงการตรวจสุขภาพนักศึกษาในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป้าหมายที่ 3 "Good Health and Well-being" ซึ่งมีเป้าหมายย่อยในการสร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย ครอบคลุมประเด็นด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีหลายประเด็น การจัดโครงการตรวจสุขภาพในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักศึกษามีสุขภาพที่ดี สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การตรวจสุขภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของนักศึกษา

การจัดโครงการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับนักศึกษารหัส 66 นับเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษา มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสุขภาพที่แข็งแรงจะส่งผลต่อความสำเร็จในการเรียน การดำเนินกิจกรรมต่างๆ และการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย การตรวจสุขภาพจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นพบปัญหาและป้องกันก่อนเกิดความรุนแรง รวมถึงการให้คำแนะนำในการดูแลตนเองที่ถูกต้อง มหาวิทยาลัยหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง สามารถดำเนินชีวิตและศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบริการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมและทันสมัย

ในการจัดโครงการตรวจสุขภาพนักศึกษารหัส 66 ประจำปี 2567 ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน อาทิ การตรวจร่างกาย การตรวจเลือด การตรวจเอกซเรย์ และการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เพื่อให้ได้ข้อมูลสุขภาพที่ครบถ้วนและทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีการจัดให้มีบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้นักศึกษาได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งด้านการตรวจวินิจฉัยและการให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลสุขภาพ

ความร่วมมือของบุคลากรและนักศึกษาในการดำเนินกิจกรรม

โครงการตรวจสุขภาพนักศึกษารหัส 66 ประจำปี 2567 นี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบุคลากรทั้งในกองพัฒนานักศึกษา ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาและกิจการศิษย์เก่า และบุคลากรทางการแพทย์ ในการจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ และการให้บริการตรวจสุขภาพ รวมถึงการประสานงานกับคณะวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนักศึกษารหัส 66 ที่เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักและความใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตนเอง
‘รพ.จักษุกรุงเทพ’ชูคอนเซ็ปต์ ‘SMART EYE HOSPITAL’ ยกระดับสุขภาพดวงตา

ทำไมคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลจึงให้ความสำคัญกับสุขภาพดวงตามากขึ้น

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตประจำวัน คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสม หรือแม้กระทั่งการตรวจสุขภาพประจำปี สุขภาพดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นใหม่ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ ในฐานะผู้นำด้านการดูแลสุขภาพดวงตาจึงมุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการให้บริการตรวจรักษาดวงตาโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับการรักษาให้ครอบคลุมทุกปัญหาของสุขภาพดวงตา

ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพดวงตาของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล

รับมือกับเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปจากอดีต ทั้งการใช้งานสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตเป็นประจำ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพดวงตารูปแบบใหม่ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง การมองภาพแลว้ไม่ชัดเจน หรือแม้แต่อาการปวดตา เป็นต้น โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพจึงได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาพัฒนาการตรวจรักษาเพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ อาทิ การตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ที่สามารถแยกแยะโครงสร้างของดวงตาได้ละเอียด หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์และวินิจฉัยอาการเพื่อให้การรักษาแม่นยำยิ่งขึ้น

ครอบคลุมปัญหาสุขภาพดวงตาทุกช่วงวัย

อีกหนึ่งความเชี่ยวชาญของโรงพยาบาลจักษุกรุงเทพคือการตรวจและรักษาโรคตาที่พบได้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถให้การรักษาได้ครอบคลุมทุกปัญหาตั้งแต่การแก้ไขสายตา ต้อกระจก ต้อหิน จนถึงการรักษากลุ่มโรคเฉพาะทางอื่นๆ ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถดูแลสุขภาพดวงตาของตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นวัยใด

ความแม่นยำและความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีระดับโลก

ในการตรวจรักษาสุขภาพดวงตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทันสมัย แม่นยำและปลอดภัยมาใช้ อาทิ การใช้เครื่องเลเซอร์ฟีมโตวินาที (Femtosecond Laser) ในการรักษาต้อกระจก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัด ทำให้การรักษามีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่อง OCT ที่มีความแม่นยำในการวินิจฉัยภาวะต้อหิน และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่คอยต้อนรับและดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลจนถึงห้องตรวจ ซึ่งช่วยให้การบริการมีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการทุกคน

โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ: การรักษาสุขภาพดวงตาครบวงจร

ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษาสุขภาพดวงตา โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพจึงได้พัฒนาตนเองให้เป็น "Smart Eye Hospital" ที่สามารถให้บริการครอบคลุมทุกด้านอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย การรักษา การผ่าตัด และการฟื้นฟูสภาพ โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความแม่นยำ ควบคู่ไปกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถระดับสูง จนทำให้เป็นที่ศรัทธาและไว้วางใจของคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
See More
จากวิกฤต ‘สโตรก’ สู่นักวิ่งมาราธอน’ณรงค์ชัย จันทร์พร’ สุดแฮปปี้-สุขภาพดีเยี่ยมเชิญชวนลงทะเบียน ร่วม ‘เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต#10 เฉลิมพระเกียรติฯ’2 พ.ย.นี้

อัพเกรดความเป็นตัวเอง: จากการเป็นผู้ป่วยสโตรก สู่การเป็นนักวิ่งมาราธอน

นายณรงค์ชัย จันทร์พร เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้เล่าถึงประสบการณ์การเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และการฟื้นฟูสภาพด้วยการออกกำลังกาย จนสามารถบรรลุเป้าหมายการวิ่งมาราธอน อันแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นและการไม่ยอมแพ้ท่ามกลางความท้าทาย

ชีวิตที่ 'เปลี่ยนไป' หลังเจ็บป่วยด้วยโรคสโตรก

จากคนไข้สโตรกสู่การยืนหยัดอีกครั้ง

นายณรงค์ชัย เล่าว่า ในช่วงที่เกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง เขามีอาการอ่อนแรงและชา ซึ่งทำให้เดินไม่ได้ปกติ โชคดีที่มีนายแพทย์สาธารณสุขอยู่ใกล้ ช่วยพาเขาไปส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เขากล่าวว่า "ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองมันทำอะไรไม่ได้ มีอาการชายหมดเลย" แต่หลังจากได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล ร่างกายด้านขวาของเขากลับไม่สามารถใช้งานได้ เขาจึงตัดสินใจลางานกลับกรุงเทพฯ เพื่อพักฟื้น

เดินและวิ่งกลับมาฟื้นคืนชีพ

ระหว่างการพักฟื้นที่กรุงเทพฯ คุณแม่ของเขาแนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการบริหารมือ ซึ่งช่วยให้อาการชาดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงเกิดความคิดว่า การเดินและการวิ่งคงจะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ดีกว่า เขาจึงเริ่มจากการวิ่งและพบว่า การวิ่งช่วยให้อาการชาทางมือขวาดีขึ้น จนสามารถเขียนหนังสือได้อีกครั้ง "จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ก็กลายมาเป็นคนออกกำลังกายอย่างจริงจัง"

วิ่งเพื่อกลับมา 'ไม่พิการ'

นายณรงค์ชัยมีเป้าหมายในการออกกำลังกายคือ เพื่อรักษาโรคแทรกซ้อนและป้องกันความพิการจากสโตรก หลังจากพบว่าตัวเองยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เขาจึงตั้งเป้าหมายที่จะวิ่งให้ถึงระดับมาราธอน เพื่อให้การฟื้นฟูสภาพของตนยั่งยืนมากขึ้น โดยเริ่มจากการร่วมงานวิ่งข้ามโขง จากนั้นก็ฮาฟมาราธอน และล่าสุดสามารถวิ่งมาราธอนได้สำเร็จ "เรามีความสุขมากที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก"

ขยายผลสู่การส่งเสริมการออกกำลังกายในชุมชน

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เห็นถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายในการป้องกันอัมพาตจากโรคสโตรก จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มวัยในจังหวัดนครพนมร่วมกิจกรรม 'โครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติฯ' ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
See More