สัตว์เลี้ยง
สภากาชาดไทย จับมือภาคีเครือข่าย ร่วมรณรงค์วันพิษสุขนับบ้า ปี2567

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ห้องมณเฑียรทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร ศ.กิตติคุณ นายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก พ.ศ.2567 หรือวัน World Rabies Day 2024 ในฐานะเจ้าภาพประจำปีของภาคีเครือข่ายวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก พร้อมจัดงานแถลงข่าว เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ประจำ พ.ศ.2567 ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ.2567 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างเวลา 10.00 – 15.00 น.
ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทย กล่าวถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่ทำงานร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกด้านการอบรมและศึกษาวิจัยการป้องกันและกลไกการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกจัดงาน “วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก” เป็นประจำต่อเนื่องกันทุกปี

“การจัดกิจกรรมมีวัตถุประสงค์ในการย้ำเตือนความสำคัญของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันโรค การระวังภัยและร่วมกันกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย และในวาระที่ปีนี้บรรจบครบ 111 ปี แห่งการผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าใช้ภายในประเทศไทย นับจากปี พ.ศ.2456 คำขวัญประจำปีของงานในปีนี้ จึงสอดคล้องกับการระลึกถึงการต่อสู้กับภัยร้ายใกล้ตัว นั่นคือ “111 ปี ไทยร่วมใจ ขจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า” ศ.กิตติคุณ นพ.วิศิษฏ์
ศ.กิตติคุณ ดร.นสพ.ณรงค์ศักดิ์ ชัยบุตร รองผู้อำนวยการสถานเสาวภา ฝ่ายวิชาการกล่าวถึง กิจกรรมในงานสำหรับประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญและต้องการสื่อสารให้เกิดความเข้าใจในการดูแลสัตว์อย่างถูกต้องและเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อเป็นส่วนร่วมในการลดปัญหาสัตว์จรจัดและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ผ่านกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงอย่างการควบคุมประชากรด้วยการผ่าตัด ทำหมันและส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อสำคัญในสุนัขและแมว และได้รับความร่วมมือจากกลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการให้บริการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ศ.กิตติคุณ ภก.หญิง ดร.กาญจน์พิมล ฤทธิเดช รองผู้อำนวยการสถานเสาวภา ฝ่ายบริหารและเทคนิค กล่าวถึง รูปแบบกิจกรรมสาระความบันเทิงในงานวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ประจำพ.ศ.2567 โดยประชาชนผู้สนใจสาระความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกและหน่วยงาน องค์กรและภาคเอกชนที่เป็นพันธมิตร สามารถเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการพร้อมร่วมกิจกรรมแรลลี่ภารกิจพิชิตโรคพิษสุนัขบ้า มหาสนุกและลุ้นรับของที่ระลึกภายในงาน ร่วมชมการแสดงของสุนัข จากหน่วยอากาศโยธิน กองทัพอากาศ และเข้าร่วมฟังเสวนาความรู้ในหัวข้อ “111 ปี ไทยร่วมใจ ขจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า” และฟังเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยงสัตว์ในหัวข้อ “Together We Can: Breaking Rabies Boundaries รวมพลังป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า”


นสพ.บุญเลิศ ล้ำเลิศเดชา ประธานกรรมคณะกรรมการดำเนินงานและประสานกิจกรรมวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าประจำป พ.ศ.2567 กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรม ในงานทั้งหมด 16 หน่วยงาน โดยประกอบด้วย 6 หน่วยงานภาคีวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ได้แก่ 1.สถานเสาวภา สภากาชาดไทย 2.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 3.กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร 5.คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ 6.คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และหน่วยงานร่วมจัดงานอีก 10 หน่วยงาน ได้แก่ 1.สำนักสารนิเทศและสื่อสารองค์กร สภากาชาดไทย 2.สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด สภากาชาดไทย 3. กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี

Advertisement

4. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย 5.สัตวแพทยสภา 6.สมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย 7.สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 8.เครือข่ายมหาวิทยาลัยสุขภาพหนึ่งเดียวแห่งประเทศไทย (THOHUN) 9.มูลนิธิสุนัขในซอย และ 10.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ
“สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ขอเชิญประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ กลุ่มนักวิชาการ นักเรียน นิสิต นักศึกษา สมาชิกสมาคมสงเคราะห์สัตว์ บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสุขภาพคน สุขภาพสัตว์ ตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วมงาน วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ประจำปี 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 15.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” นสพ.บุญเลิศ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Line Image

matichon

FM เปิดดีล JV ลุย Pet Food สรุปปลายปี อัพกำลังผลิตต่อเนื่อง ย้ำผถห.ยังปึ๊ก-สถาบันขอข้อมูล : อินโฟเควสท์

ฟู้ดโมเม้นท์ ลุยขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เล็งเข้าถือหุ้น 25-30% ในผู้ผลิตในประเทศ

ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) เตรียมขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตในประเทศ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปลายปีนี้ และดีลน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/2568 โดยเบื้องต้นจะเข้าถือหุ้นราว 25-30% ซึ่งบริษัทได้กันเงินลงทุนส่วนหนึ่งจากการเสนอขายหุ้น IPO ที่ระดมทุนได้ 250 ล้านบาทไว้แล้ว

ฟู้ดโมเม้นท์ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุก

ขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกและไก่ชำแหละ

ฟู้ดโมเม้นท์ มีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกและไก่ชำแหละอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยในไตรมาส 3/2567 จะขยายการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเฟสแรก จาก 2.7 หมื่นตัน/ปี เป็น 3 หมื่นตัน/ปี หรือเพิ่มขึ้น 10-15% ใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 2/2568 จากนั้นในช่วงกลางปี 2568 จะขยายกำลังการผลิตเฟส 2 เพิ่มอีก 6 พันตัน/ปี เป็น 3.6 หมื่นตัน/ปี เท่ากับเพิ่มกำลังการผลิต 20% จากปัจจุบัน ใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท คาดจะเริ่มผลิตได้เต็มกำลังในไตรมาส 1 หรือไตรมาส 2 ของปี 2569ส่วนไก่ชำแหละ บริษัทจะเริ่มขยายกำลังผลิตในช่วงกลางปี 2568 เพื่อรองรับกับการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกที่เพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มกำลังผลิตไก่ชำแหละจาก 1.44 แสนตัว/วัน เป็น 1.8 แสนตัว/วัน เพิ่มขึ้น 25% ใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท คาดจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 1 หรือ ไตรมาส 2 ปี 2569 ทั้งนี้ การขยายกำลังการผลิตดังกล่าวจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกของบริษัทในระยะยาว

มั่นใจผลประกอบการปี 2567 เป็นปีที่สดใส

ฟู้ดโมเม้นท์ มั่นใจว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 จะรับรู้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 โดยเฉพาะการผลิตไก่ชำแหละที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะหนุนธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุก ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการในไตรมาสนี้จะทำได้ตามเป้า หรือดีกว่าเป้าหมาย และในไตรมาส 4/2567 ก็จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2567 เป็นปีที่สดใสด้านรายได้ในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 20-25% จากปีก่อนมาเป็น 6,900-7,000 ล้านบาท และในปี 2568 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 10-15% ตามการเพิ่มกำลังการผลิต โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ส่งออก 50% และในประเทศ 50% ซึ่งบริษัทวางเป้าใน 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 65% และในประเทศ 35% พร้อมปรับพอร์ตสินค้าจากไก่แปรรูปปรุงสุก 40% และไก่ชำแหละ 60% ในปัจจุบัน ไปเป็นไก่แปรรูปปรุงสุก 60% และไก่ชำแหละ 40%

ขยายฐานลูกค้าส่งออกครอบคลุมตลาดหลัก

ฟู้ดโมเม้นท์ มีแผนขยายฐานลูกค้าส่งออกให้ครอบคลุมตลาดหลัก โดยในปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าส่งออก ได้แก่ ยุโรป 40% ญี่ปุ่น 28% จีน 19% มาเลเซีย 13% และคาดว่าในปีหน้าสัดส่วนลูกค้าจากเกาหลีจะอยู่ที่ 10% ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายตลาดส่งออกที่ตลาดยุโรป 35% ญี่ปุ่น 35% ที่เหลือเป็นตลาดอื่น ๆ เช่น จีน เกาหลี มาเลเซีย เพื่อสร้างความสมดุลของพอร์ตนอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มส่งออกไก่ชำแหละหรือไก่สดไปยังตลาดตะวันออกกลางในไตรมาส 4/2567 ช่วงแรกราว 500 ตัน ขณะเดียวกันตลาดไก่สดในจีนก็มีโอกาสขยายตัวหลังจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ประสบปัญหาโรคระบาดในไก่ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้บริษัทขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่เพิ่มเติม

ผู้ถือหุ้นใหญ่มั่นใจในศักยภาพการเติบโต

กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของฟู้ดโมเม้นท์ ทั้งครอบครัวดุษฎีโหนด และกองทุน นอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) (นอร์ทเฮเว่น ไทยฯ) ยังคงถือหุ้น FM และพร้อมที่จะถือลงทุนระยะยาว เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยจากภาพรวมธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกของประเทศไทยมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของโลก และตลาดมีการขยายตัวทุกปี รวมทั้งมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนในการสร้างการเติบโตต่อเนื่องขณะเดียวกัน บริษัทยังได้รับการติดต่อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศแสดงความสนใจในการเข้าลงทุน สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ความชัดเจนแผนการดำเนินงานและเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งรายได้และผลกำไร ตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่เติบโตเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ราคาขายไก่ดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งแนวโน้มออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่สนับสนุน
See More
เกษตรฯ เดินหน้า โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง เป้าหมาย 1 ล้านไร่

เกษตรฯ เดินหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง เป้าหมาย 1 ล้านไร่

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง โดยมีเป้าหมายพื้นที่ดำเนินการจำนวน 1 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง

ก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงด้านอาหารสัตว์ของประเทศ

การส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้ง โดยมีเป้าหมายพื้นที่ดำเนินการจำนวน 1 ล้านไร่ ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ปลูกปัจจุบัน 661,644 ไร่ และพื้นที่ปลูกใหม่ (ขยายพื้นที่ปลูก) 338,356 ไร่ โดยมีเกษตรกรเป้าหมาย 100,000 ราย ดำเนินการในพื้นที่เหมาะสมมาก และเหมาะสมปานกลาง ทั้งพื้นที่ในเขตชลประทาน หรือนอกเขตชลประทาน ที่มีศักยภาพในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมีศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำ เช่น มีระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้า แหล่งน้ำธรรมชาติ บ่อตอก บ่อบาดาล เป็นต้น

การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้ง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งฯ เพื่อติดตาม กำกับดูแลการผลิต ชี้แจงประชาสัมพันธ์โครงการ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งระดับกระทรวง ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำรายละเอียดสนับสนุนในกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งฯ เพื่อฝ่ายเลขาฯ รวบรวมจัดทำโครงการให้สมบูรณ์ และนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เพื่อพิจารณาต่อไป

ความสำคัญของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 80,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทยยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ โดยคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต 2567/68 อยู่ที่ 4,970,897 ตัน แบ่งเป็นฤดูฝน 4,433,522 ตัน และฤดูแล้ง 537,375 ตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประมาณ 8.91 ล้านตัน ทำให้ต้องมีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทนจากต่างประเทศ ซึ่งในปี 2566 มีการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปริมาณ 1.33 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 15,187 ล้านบาท
See More