สัตว์เลี้ยง

TQM จับมือ PADi ลุยประกันภัยสัตว์เลี้ยง รองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด

การประกันภัยสัตว์เลี้ยงยุคใหม่: ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสัตว์ในยุคที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมากขึ้น ความต้องการการดูแลและคุ้มครองสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (TQM) จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เพ็ทแอนิมัล ดาต้า แอนด์ อินโนเวชั่น (PADI) เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์มประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสัตว์ในยุคใหม่

การเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย

ในปัจจุบัน ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนลูก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 49% ของผู้เลี้ยงสัตว์ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวอยู่ที่ประมาณ 14,200 บาท ซึ่งรวมถึงค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และบริการต่างๆ เช่น การอาบน้ำตัดขน เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เริ่มมีคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้มากขึ้น ทำให้การอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงในเมืองเป็นเรื่องที่ง่าย

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดูแลสัตว์เลี้ยง

นอกจากนี้ เทคโนโลยีก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เช่น แอพพลิเคชั่นติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง และ Smart Device ที่ช่วยให้การดูแลสัตว์เลี้ยงได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถติดตามสุขภาพและดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความต้องการประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มสูงขึ้น

จากการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงและการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง ส่งผลให้ความต้องการประกันภัยสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รวมถึงค่าวัคซีน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การร่วมมือระหว่าง TQM และ PADI

เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสัตว์เลี้ยง TQM จึงได้ร่วมมือกับ PADI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดูแลสุขภาพสัตว์แบบ One Stop Service บน Digital Platform ที่สัตวแพทย์แนะนำ ในการพัฒนาประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง โดยการร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง เนื่องจาก PADI ไม่เพียงแค่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง แต่ยังครอบคลุมถึงการเชื่อมโยงเจ้าของสัตว์เลี้ยงกับบริการต่าง ๆ อย่างสะดวกสบาย รวมถึงมีพาร์ทเนอร์ที่เป็น เพ็ทช๊อป โรงพยาบาลสัตว์ และคลินิกชั้นนำทั่วประเทศ ทำให้การเสนอประกันภัยสัตว์เลี้ยงของ TQM ในแพลตฟอร์มนี้เพิ่มความมั่นใจให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยง ว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่

ประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการ

ด้วยการร่วมมือกับ PADI ทำให้ TQM สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รวมถึงค่าวัคซีน เพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ลูกค้าที่สนใจประกันภัยสัตว์เลี้ยงจาก TQM ยังมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นอื่นๆ มากมาย เช่น PADI Set ผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง พร้อมคูปองส่วนลด สินค้า และบริการราคาพิเศษ ซึ่งช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงประกันภัย ได้อย่างง่ายและสะดวกมากขึ้น

จากความเกลียดชังสู่ความรักของสัตว์เลี้ยงพิเศษที่น่าสนใจ

นกพิราบ ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสัตว์สร้างปัญหาและเชื้อโรค กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังจากที่มีคลิปไวรัลของนกพิราบตัวโปรด "พิดจ์" เผยแพร่ในโลกโซเชียล โดยโปรไฟล์ของพิดจ์กำลังได้รับความสนใจและปลื้มปิติจากผู้คนจำนวนมาก ทำให้เกิดมุมมองใหม่ว่านกพิราบสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและฉลาดได้

ความรักและเมตตาแห่งนกพิราบตัวเล็ก ๆ

จุดเริ่มต้นของพิดจ์ นกพิราบตัวโชว์

พิดจ์ เป็นนกพิราบตัวหนึ่งที่กำลังเป็นไอดอลในโลกออนไลน์ โดยมียอดผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนบน TikTok เป็นเพราะคลิปวิดีโอของพิดจ์ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันอันน่ารักและตื่นเต้นของมันในนิวยอร์ก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในกระเป๋าถือของเจ้าของ การออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือแม้แต่การพบปะผู้คน พิดจ์เป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาดและเป็นมิตร ทำให้หลายคนหลงรักและอยากมีนกพิราบเป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนเธอ

แอบบี้ จาร์ดีน นักออกแบบแฟชั่น และพิดจ์ นกพิราบตัวโปรด

แอบบี้ จาร์ดีน เจ้าของพิดจ์ เป็นนักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง ซึ่งได้รับพิดจ์มาเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกนกที่ได้รับบาดเจ็บบนถนน เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 จาร์ดีนเล่าว่า เธอไม่เคยเลี้ยงนกพิราบมาก่อน และไม่ใช่คนรักนกด้วยซ้ำ แต่หลังจากได้พบกับพิดจ์ เธอก็ตกหลุมรักนกตัวน้อยนี้ และตัดสินใจรับเลี้ยงมาจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเตรียมกรงที่เชื่อมต่อกับระเบียง เพื่อให้พิดจ์ได้เดินเล่นและชมวิวเมืองได้อย่างอิสระ รวมทั้งจัดเตรียมที่เกาะและที่นอนให้พิดจ์อย่างดี

ภาพลักษณ์ใหม่ของนกพิราบที่กำลังมาแรง

หากเราย้อนดูประวัติศาสตร์ของนกพิราบ จะเห็นได้ว่าในอดีต นกพิราบคือสัญลักษณ์ของสถานะทางสังคม และใช้ในงานด้านการสื่อสารข่าวสาร แต่ต่อมาก็ถูกปล่อยออกสู่ธรรมชาติ และถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่สร้างปัญหารวมถึงเชื้อโรคให้แก่เมืองเช่นเดียวกับหนูอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน นกพิราบกลับได้รับความสนใจและฮิตมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากกระแสไวรัลของพิดจ์ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญในโลกโซเชียล ทำให้มุมมองของผู้คนหันมาเห็นความน่ารัก ความฉลาด และความเป็นมิตรของนกพิราบ และเกิดความต้องการเลี้ยงนกพิราบเป็นสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับพิดจ์

ข้อเท็จจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับนกพิราบ

แม้ว่าในอดีตจะมีการพบรายงานการแพร่โรคจากนกพิราบสู่มนุษย์ แต่การศึกษาวิจัยกลับพบว่าความเสี่ยงที่จะแพร่โรคมีน้อยมาก แม้แต่ในอาชีพที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับรังนกพิราบก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของหน่วยงานด้านสาธารณสุขในนครนิวยอร์ก ที่ระบุว่าการพบมนุษย์ป่วยด้วยโรคติดต่อจากนกพิราบถือว่าเป็น "เคสหายาก" ดังนั้นการเลี้ยงดูนกพิราบจึงไม่ใช่เรื่องเสี่ยงต่อสุขภาพแต่อย่างใด หากเราปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างถูกต้อง เช่น การใช้ความระมัดระวังขณะทำความสะอาดมูลสัตว์

อนาคตของนกพิราบในฐานะสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก

นกพิราบพัฒนาไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากแรงผลักดันจากกระแสในโซเชียลมีเดีย และการรับรู้ถึงนิสัยที่ดีของนกพิราบมากขึ้น เช่น ความผูกพันกับเจ้าของ ความรักสงบ และความฉลาดทางอารมณ์ ทำให้นกพิราบกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มว่าจะมีคนให้ความสนใจเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการเลี้ยงนกพิราบด้วย ดังนั้น นกพิราบจึงมีอนาคตที่สดใสในฐานะสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยม

ชาวบ้านช็อก! สุนัขพิตบูลอันตรายกาลนี้ปรากฏกายในร่มและจับตัวไม่ได้

เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2567 เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ได้ออกปฏิบัติการจับกุมสุนัขพิตบูล 3 ตัวที่ได้ออกมาคร่ำคร่าในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ซึ่งก่อเหตุหลบหนี และมีเพียง 2 ตัว ที่ถูกยิงยาสลบจับได้ในเวลาต่อมา ในขณะที่อีก 1 ตัวยังหลบหนีไป และยังอยู่ในการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการทันทีทั้งกลางคืนและเช้ามืด เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

เตือนช่วงเย็นของวันที่ 7 กันยายน

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 กันยายน ทางเทศบาลตำบลเกล็ดแก้วได้รับรายงานจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีสุนัขพิตบูลจำนวนหลายตัวปรากฏตัวในละแวกหมู่บ้านเทวีพาร์ค หมู่ที่ 9 ต.บางเสร่ และมีท่าทีดุร้าย ไม่มีเจ้าของ และมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวไล่กัดพลเมืองและสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของประชาชนได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบออกประกาศเสียงตามสายเพื่อแจ้งเตือนให้ชาวบ้านระมัดระวัง และพร้อมลงพื้นที่เพื่อจับกุมสุนัขพิตบูลดังกล่าว

ปฏิบัติการจับกุมยาวนานตลอดทั้งคืนแต่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนเพื่อล่าตัวสุนัขเหล่านี้ แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจากสุนัขพิตบูลเหล่านี้มีความว่องไวและระแวดระวังอย่างสูง จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 8 กันยายน

เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมสุนัขในตอนเช้า

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 8 กันยายน เวลา 08.00 น. นายยศวัฒน์ ภูวรัตน์เลิศคุณ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม รวมถึงงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ได้ออกไปยังพื้นที่เพื่อลงมือปฏิบัติการจับกุมสุนัขพิตบูลที่ก่อเหตุ โดยได้รับความร่วมมือจากทางปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ และหน่วยงานตำรวจอีกด้วย ในที่สุดทีมงานสามารถจับสุนัขพิตบูลได้ 2 ตัว ขณะที่อีก 1 ตัวได้หลบหนีเข้าป่าทางด้านในไปได้

ระวังอยู่ตลอด ยังติดตามสุนัขอีก 1 ตัว

ในตอนนี้ สุนัขพิตบูลที่ถูกจับได้ 2 ตัวนั้น ได้ถูกนำขังในกรงไว้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังติดต่อหาเจ้าของ แต่หากไม่มีใครยืนยันเป็นเจ้าของ ก็จะมีการส่งตัวสุนัขไปยังศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัดในพื้นที่ต่อไป ส่วนอีก 1 ตัวที่ยังหลบหนีไป ก็อยู่ในการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวบ้านได้รับความปลอดภัย และไม่เกิดเหตุร้ายใด ๆ ขึ้น