ความบันเทิง
ภาพยนตร์น่าสนใจในโค้งสุดท้ายของปี 2024

.twitter-tweet {

margin: auto;

}

.instagram-media {

margin: 0 auto !important;

}

.fb-post>span {

max-width: 100%;

}

.d-sm-block {

display: block !important;

}

.d-inline-block {

display: block !important;

}

.fb-post iframe {

border: 0;

display: block;

margin: 0 auto;

max-width: 100%;

}

.in_read_ads_c {
/* padding-top: 45px; */
/*padding-bottom: 45px; */
padding-bottom: 10px;
padding-top: 10px;
}

.inread-mobile-new {
/*padding-top: 45px; */
padding-top: 10px;
}

/*เพิ่มมา */
.ad_banner_desktop {
padding-bottom: 5%;
padding-top: 4%;
}

#grid-text {
padding-left: 14%;
padding-right: 14%;
}

#credit-text {
padding-left: 30px;
}

/*เพิ่มมา */
.ad_desktop {
width: 100%;
height: auto;
}

@media only screen and (min-device-width : 768px) and (max-device-width : 1336px) {

.ad_banner_desktop {
display: none;
}
}

@media only screen and (max-width: 480px) {
.ad_banner_desktop {
display: none;
}

.ad_banner_mobile {
padding-bottom: 2%;
padding-bottom: 4%;
}

#grid-text {
padding-left: 0%;
padding-right: 0%;
}

#credit-text {
padding-left: 30px;
}
.ad_out_of_page_mobile {
width: 100%;
height: auto;
}

}

9 ภาพยนตร์น่าสนใจในโค้งสุดท้ายของปี 2024

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

     เรียกว่าโค้งสุดท้ายของปี 2567 นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ปีนี้ก็นับเป็นอีหนึ่งปีที่วงการภาพยนตร์นั้นมีผลงงานน่าสนใจมาออกฉายให้เราได้ชมกัน ตั้งแต่ฝากฝั่งฮอลลิวู้ดที่มีผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Dune Part Two ที่กวาดทั้งรายได้และเสียงวิจารณ์ในทางบวกไปอย่างล้นหลาม มาจนถึงแวดวงของภาพยนตร์ไทยที่ปีนี้ก็มีภาพยนตร์น้ำดีออกมาให้เราได้ชมกันเรื่อยๆ ทั้ง หลานม่า ที่เข้าฉายให้เราได้ชมกันในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และ วิมานหนาม ที่กำลังเข้าฉายอยุ่ในตอนนี้ โดยทั้งสองเรื่องก็ได้รับทั้งเสียงตอบรับและรายได้จากผู้ชมชาวไทยเป็นอย่างดี

     ถึงอย่างนั้นปี 2567 ก็ยังไม่ได้สิ้นสุดลง ในสี่เดือนสุดท้ายของปียังมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจหลายเรื่องจ่อคิวเข้าฉายให้เราได้ชมกันอีกมาก ภาพยนตร์ที่น่าสนใจที่มีคิวเข้าฉายในช่วงสุดท้ายของปี 2024 จะมีเรื่องอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวมรวมลิสต์มาให้คุณแล้ว


WATCH

ตาคลี เจเนซิส (Taklee Genesis)

เข้าฉาย 12 กันยายน 2567

     ภาพยนตร์ไซไฟสุดล้ำจากผู้กำกับ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสตูดิโอคำม่วน (Studio Commuan) เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และ วอร์เนอร์บราเธอส์ พิกเจอร์ส (Warner Bros. Pictures) กับเรื่องราวไซไฟเดินทางข้ามเวลาในเซ็ตติ้งของประเทศไทย นำแสดงโดยนักแสดงมากมายทั้ง พอลล่า เทย์เลอร์, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, วนรัตน์ รัศมีรัตน์, ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน, ทราย อินทิรา เจริญปุระ และอื่นๆ อีกมากมาย



<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>


หลวงที่เท่ง Comeback

เข้าฉาย 26 กันยายน 2567

     การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์ไทยในตำนานอย่าง หลวงพี่เท่ง หลังจากที่หลวงพี่ได้ออกเดินทางไปแสวงบุญถึงประเทศทิเบต ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่หลวงพี่เท่งจะต้องกลับมาเจอกลับเรื่องราวสุดป่วงชวนหัวเราะอีกครั้ง เมื่อวัดใกล้บ้านเกิดของหลวงพี่เท่งมีปัญหา ทำให้หลวงพี่เท่งต้องจากความสงบสุขที่เคยมีเป็นเหมือนเซฟโซนตอนอยู่ที่ทิเบตกลับมาเพื่อแก้ปัญหานั้น แต่เมื่อกลับมาก็กลับต้องเจอกับปัญหาโลกแตกในวงการศาสนา หลวงที่เท่ง Comeback กำกับโดย พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ และบำเรอ ผ่องอินทรกุล นำแสดงโดย พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ, บำเรอ ผ่องอินทรกุล และวชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์




Joker: Folie à Deux

เข้าฉาย 2 ตุลาคม 2567

     หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีอย่างล้นหลามไปในภาคแรก ปีนี้วายร้ายในตำนานแห่งเมืองก็อตแธมก็พร้อมกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งใน Joker: Folie à Deux โดยครั้งนี้นอกจากวาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) จะกลับมารับบทโจกเกอร์แล้ว ยังพร้อมเสริมทัพทวีความเดือดให้ทะลุสุดขีดด้วยการได้ตัวเลดี กากา (Lady Gaga) มารับบทคู่หูของจอมวายร้ายอย่างฮาร์ลีย์ ควินน์ (Harley Quinn) อีกด้วย นอกจากนี้ Joker: Folie à Deux ยังได้ตัวท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) ผู้กำกับจากภาคแรกกลับมาสานต่อความเดือดในครั้งนี้ด้วย



<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>


Women of the Hour

เข้าฉาย 10 ตุลาคม 2567

     นอกจากจะเป็นนักแสดงสาวที่เราต่างจดจำเธอได้ในเสียงอันทรงพลังแล้ว แอนนา เคนดริก (Anna Kendrik) ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือการทั้งแสดงนำและรับหน้าที่เป็นผู้กำกับของภาพยนตร์ดราม่าอาชญากรรม Women of the Hour ที่บอกเล่าเรื่องราวของ เชอริล แบรดชอว์ (Cheryl Bradshaw) สาวโสดที่ออกร่วมออกรายการหาคู่ยอดนิยมในช่วงยุคปี 1970s ที่ชื่อว่า The Dating Game และเธอได้ต้องตาตรงใจกับ รอดนีย์ อัลคาลา (Rodney Alcala) หนุ่มโสดหมายเลข 3 ผู้หล่อเหลาคารมดี หนึ่งในผู้ร่วมรายการหาคู่ แต่เบื้องหลังเสน่ห์อันคมคายของรอดนีย์ กลับซ่อนความลับอันน่าสะพรึงกลัว เพราะเขาคนนี้คือฆาตกรรมต่อเนื่องสุดแสนโรคจิตที่แอบแฝงตัวเข้ามาหาเหยื่อในเกมโชว์




We Live In Time

เข้าฉาย 30 ตุลาคม 2567

     ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์รักโรแมนติก นอกจากจะมีภาพยนตร์โรแมนติดคอมเมดี้ออกมาให้เราชมกับมากมายแล้ว ในปลายปี้นี้ยังมีหนึ่งภาพยนตร์โรมแมนติกดราม่าที่น่าสนใจอย่าง We Live In Time จ่อคิวเข้าฉายให้เราได้ชมกันอยู่ด้วย กับการบอกเล่าเรื่องราวของโทบิอัส (Tobius) รับบทโดยแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield) และอัลมุต (Almut) รับบทโดยฟลอเรนซ์ พิว (Florence Pugh) สองชายหญิงที่การบังเอิญได้พบเจอกันทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล จากภาพชีวิตที่มีร่วมกัน ตกหลุมรักและสร้างครอบครัว แต่ความจริงที่ยากจะยอมรับได้คืบคลานเข้ามาสั่นคลอนรากฐานชีวิตของพวกเขาในเวลาต่อมา เมื่อย่างก้าวที่ท้าทายด้วยขีดจำกัดแห่งเวลาทำให้เพวกเขาได้เรียนรู้ถึงความตีงามแห่งช่วงเวลา บนเส้นทางที่ไม่ธรรมดา ผ่านห้วงอารมณ์แห่งรักที่เกินจะบรรยายของกันและกัน We Live In Time เป็นผลงานการกำกับโดยจอห์น โครว์ลีย์ (John Crowley) ผู้กำกับชาวไอริชที่เคยฝากผลง



<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>


Anora

เข้าฉาย 31 ตุลาคม 2567

     สำหรับเรื่องนี้มีดีกรีเป็นถึงภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่าจากสหรัฐฯ ที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 77 Anora เล่าเรื่องราวของอโนรา เป็นหญิงสาวขายบริการและความสุขทางเพศให้กับผู้คน เธอได้พบและแต่งงานกับ ไอแวน ลูกชายของมหาเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลอย่างปุบปับ แต่เมื่อข่าวนี้ได้กระจายล่วงรู้ไปถึงหูครอบครัวฝ่ายชายที่รัสเซีย เรื่องราวความรักดั่งเทพนิยายซินเดอเรลลาของเธอก็พลิกผันไปอีกหน้า เพราะพ่อแม่ของไอแวนได้รีบบินข้ามทวีปมายังนิวยอร์ก เพื่อดำเนินการกดดันและขอร้องให้การแต่งงานครั้งนี้ระหว่างเธอกับลูกชายของเขาเป็นโมฆะ Anora นำแสดงโดย ไมกี้ แมดิสัน (Mikey Madison) นักแสดงสาวผู้คยฝากผลงานไว้ในหนังหวีดไล่เชือดอย่าง Scream 5 และเป็นผลงานการกำกับของฌอน เบเกอร์ (Sean Baker) จาก The Florida Project และ Tangerine




Gladiator 2

เข้าฉาย 14 พฤศจิกายน 2567

     ถือว่าเป็นภาคต่อของภาพยนตร์มหากาพย์ในตำนานอย่าง Gladiator 2 กับการเล่าเรื่องราวของ ลูเซียส อดีตเด็กชายที่ชื่นชม แม็กซิมัส ในภาพยนตร์ภาคแรก ที่บ้านเกิดของเขาถูกยึดครองโดยจักรพรรดิเผด็จการซึ่งปกครองกรุงโรมในขณะนี้ ลูเซียสถูกบังคับให้เข้าร่วมการแข่งขันในโคลอสเซียมและต้องหันกลับไปมองอดีตของเขาเพื่อค้นหาความเข้มแข็งที่จะนำความรุ่งโรจน์ของกรุงโรมกลับคืนสู่ประชาชน นอกจากความยิ่งใหญ่ของฉากแอคชั่นแล้ว ความน่าในใจอีกอย่างของ Gladiator 2 คือการได้ตัวนักแสดงหนุ่มแห่งยุคอย่าง พอล เมสคัล (Paul Mescal) มารับบทนำ พร้อมได้ตัวผู้กำกับอย่างริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) กลับมาสานต่อเรื่องราวมหากาพย์อีกครั้ง



<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>

<!–

–>


Wicked

เข้าฉาย 21 พฤศจิกายน 2567

     เตรียมพร้อมรับชมจุดกำเนิดของเรื่องราวที่ทุกคนคุ้นเคยอย่างดีของสาวน้อยโดโรธีและการผจญภัยในถนนอิฐเหลือง โดย Wicked จะพาเรากลับเข้าไปยังดินแดนมหัศจรรย์ของพ่อมดออซตั้งแต่ก่อนที่โดโรธีจะเกิดขึ้นมา ย้อนไปตั้งแต่แม่มดผู้ชั่วร้ายและกลินดายังเป็นนักเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์ด้วยกัน ก่อนที่เรื่องราวจะพาทั้งสองให้เดินไปในทางของด้วยเอง ในเรื่องราวที่เต็มไปด้วยพลังของเวทมนตร์และมิตรภาพ กับความจริงที่บางทีก็ไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่เห็น Wicked นำแสดงโดยนักร้อง-นักแสดงสาว อาริอาน่า แกรนเด (Ariana Grande) และนักแสดงสาวผู้เป็นเจ้าของทั้งรางวัลโทนี่และแกรมมี่ ซินเธีย เอริโว (Cynthia Erivo) และนำแสดงสมทบทั้ง โจนาธาน เบลีย์ (Jonathan Bailey) มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) เจฟฟ์ โกลด์บลุม (Jeff Goldblum) ผ่านผลงานการกำกับของ จอน เอ็ม. ชู (Jon M. Chu) ผู้กำกับจาก Crazy Rich Asians และ Now You See Me 2




Moana 2

เข้าฉาย 4 ธันวาคม 2567

     พร้อมผจญภัยไปยังเส้นขอบฟ้าอีกครั้งใน Moana 2 แอนิเมชั่นภาคต่อจากดิสนีย์ (Disney) โดยหลังจากที่โมอาน่าได้รับสัญญาณบางอย่างจากบรรพบุรุษของเธอ เธอจึงต้องออกเดินทางไปยังทะเลโอเชียเนียอันห่างไกลที่เต็มไปด้วยอันตรายและความลึกลับอันไม่เคยถูกผู้ใดสำรวจมาก่อน เพื่อทำการเชื่อต่อผู้คนของเธอและชาวเกาะอื่นๆ ให้กลับมารวมกันอีกครั้ง Moana 2 ได้ตัว อัลลิ’อิ คราวัลโย่ (Auliʻi Cravalho) และ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) กลับมาให้เสียงตัวละครที่เราคุ้นเคย พร้อมมาร์ค มันซิน่า (Mark Mancina) ที่กลับมาดูแลเรื่องเพลงและดนตรีของภาพยนตร์อีกครั้ง


#fb-post {

width: auto;

height: auto;

overflow: hidden;

}

#fb-post iframe {

display: inline;

margin: 5px 5px;

float: center-left;

width: auto;

border-radius: 2px;

}

<!–

–>


<!–

if(window.screen.width > 812){

sas.cmd.push(function() {

sas.call(“std”, {

siteId:342821,

pageId:1198285,

formatId: 98394, // Format : Desktop_ROS 728×90

tagId:”sas_98394_end_22424″,
target:’22424′ // Targeting
},

{ resetTimestamp: false }

);

});

}

–>

<!–

–>

      

              

.dm__playlist-title {
font-family: ‘MrEaves_VOGUE_TH_Bd’ !important;
font-size: 1rem !important;
}

.dm-playlist {
–dm-playlist-bg: inherit;
–dm-playlist-color: inherit;
–dm-playlist-info-bg: #ededed;
margin-top: 10px;
}

.dm__playlist-slide {
width: 175px;
}

.dm-playlist .prev,
.dm-playlist .next {
min-width: auto;
border: none !important;
}

.dm__playlist-active .dm__playlist-cont-thumbnail:after,
.dm__playlist-active+.dm__playlist-slide .dm__playlist-cont-thumbnail:after {
display: none;
}

.dm__playlist-active .dm__playlist-duration,
.dm__playlist-active+.dm__playlist-slide .dm__playlist-duration {
background: rgba(0, 0, 0, 0.6) !important;
}


<!–

–>

<!–

–>


WATCH

.dm__video-title {
display: -webkit-box !important;
/* -webkit-box-orient: vertical; */
-webkit-line-clamp: 2;
white-space: normal;
overflow: hidden;
padding: 0 !important;
margin: 12px 12px !important;
font-size: 1.3rem !important;
font-family: “MrEaves_VOGUE_TH_Bd” !important;
text-align: center !important;
line-height: 1.5rem;
}

The LATEST

.popup {
/*background-color: transparent; */
width: 100%;
bottom: 0;
display: none;
text-align: center;
position: fixed;
z-index:999;
/*เพิ่มของ popup text+img */
/*background-color: #F7F7F7; */
background-color: #fff;
height: 12%;
-webkit-box-shadow: 0 -14px 50px rgba(0,0,0,.2);
box-shadow: 0 -14px 50px rgba(0,0,0,.2);

}

.p img {
width: 100%;
height: auto;
float: left;
}

.p_mobile img {
width: 0px;
}

.popup button {
display: block;
margin: 0 0 0 auto;
background-color: transparent;
font-size: 30px;
color: #000;

border-radius: 100%;
width: 40px;
height: 0px;
border: none;
outline: none;
cursor: pointer;
}

.popup h2 {
margin-top: -20px;
}

.popup p {
font-size: 14px;
text-align: justify;
margin: 20px 0;
line-height: 25px;
}

/*เพิ่มของ popup text+img */
#img_popup {
width: 7%;
height: auto;
margin-top: 0%;
margin-left: 0.8%;
}
.text-popup {
float: left;
width: 55%;
padding-left: 1%;
padding-top: 2%;
}

.text-popup h1 {
font-family: “avant_garde_vogue_thaidemiBd”;
font-size: 18px;
margin-top: 0%;
text-align: left;
padding-left: 6%;
}
.button1 {
font-family: ‘MrEaves_VOGUE_TH_Rg’, sans-serif;
color: #fff;
padding: 10px 58px;
background-color: #000;
text-decoration: none;
display: inline-block;
font-size: 12px;
cursor: pointer;
float: right;
}
.btn {
float: right;
width: 30%;
padding-top: 1.5%;
padding-right: 3.8%;
}
.btn a:hover {
color: #fff;
background-color: #DAF400;
}
#close {
font-size: 20px;
}

@media only screen and (min-device-width : 768px) and (max-device-width : 1336px) { /* small desktop */

.btn {
width: 26%;
padding-top: 1.5%;
}
.text-popup h1 {
font-size: 14px;
margin-top: 0%;
padding-left: 8%;
}
.popup {
height: 13%;
}
#close {
font-size: 20px;
}
#img_popup {
width: 10%;
height: auto;
margin-top: -0.5%;
padding-left: 2%;
}
.button1 {
padding: 10px 60px;
margin-right: 15%;
font-size: 10px;
}
}

@media only screen and (max-width: 480px) {
/* mobile */

.popup {
/*height: 9%; */
width: 0px;
height: 0px;
}
.text-popup h1 {
font-size: 8px;
margin-top: 6%;
padding-left: 1%;
padding-right: 0%;

}
.btn {
margin-top: 4%;
margin-right: 3%;
}
.button1 {
padding: 6px 0px;
font-size: 6px;
width: 95px;
}
#img_popup {
width: 18%;
margin-top: 0%;
}
.text-popup {
width: 46%;
}
#close {
font-size: 14px;
}
}

/*—————–tablet—————————–*/
/* iPads (portrait) ———– */
@media only screen and (min-device-width : 768px) and (max-device-width : 1024px) and (orientation : portrait) {

.popup {
/*height: 28%;*/
height: 0px;
width: 0px;
}
#img_popup {
width: 15%;
float: none;
padding-top: 1%;
}
.text-popup {
width: 100%;
float: none;
padding-left: 28%;
padding-right: 28%;
padding-top: 0;
}
.text-popup h1 {
font-size: 16px;
text-align: center;
}
.button1 {
float: none;
width: 100%;
}
.btn {
float: none;
width: 100%;
padding-top: 2%;
margin-left: 0;
margin-right: 0;
padding-left: 28%;
padding-right: 28%;
}
#close {
font-size: 30px;
}
}

แนะนำตัวละครใน Black Out สืบลับ ล่าฆาตกร

ลับลวงฆาตกร: ตามรอยคดีสังเวียนแห่งความจริง

ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญชาวบ้าน เมื่อนักเรียนหญิงสองคนถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อผู้ต้องสงสัยถูกตัดสินจำคุก แต่เขากลับยืนกรานว่าตนเองไม่ได้เป็นคนฆ่า และพยายามสืบสวนคดีนี้อีกครั้ง ในขณะที่ตำรวจสายสืบที่เคยสูญเสียภรรยาก็เข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยปิดคดีนี้ไป ทุกคนต่างมีเป้าหมายและแรงจูงใจที่แตกต่างกัน ในการค้นหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังคดีนี้

ตามรอยคดีสังเวียนแห่งความจริง

โกจองอู: ผู้ต้องสงสัยที่ยืนกรานความบริสุทธิ์

โกจองอู เป็นชายหนุ่มที่ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นฆาตกรของนักเรียนหญิงสองคน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง เขาถูกตัดสินจำคุก 10 ปี แต่เมื่อพ้นโทษก็กลับมายังหมู่บ้านเดิม และเริ่มสืบสวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง เพราะเขามั่นใจว่าตนเองไม่ได้เป็นคนฆ่า แม้จะจำเหตุการณ์ในคืนนั้นไม่ได้เลยก็ตาม เขาต้องการค้นหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังคดีนี้ให้ได้โกจองอูเป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยเงียบขรึม แต่มีความมุ่งมั่นและอดทนสูง เขาไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบากและยังคงเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง แม้จะถูกตัดสินจำคุกไปแล้วก็ตาม เขาตั้งใจที่จะค้นหาความจริงให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงอันตรายเพียงใด เพราะเขาเชื่อว่าความจริงจะช่วยให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมนี้

โนซังชอล: ตำรวจสายสืบที่สูญเสียทุกสิ่ง

โนซังชอล เป็นตำรวจสายสืบฝีมือดีที่เคยสูญเสียภรรยาในวันแต่งงานเพราะถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นั้นทำให้เขากลายเป็นคนที่เมื่อเจอคนร้ายก็จะโมโหร้ายและทำร้ายร่างกายคนร้ายเกินความพอดี จนถูกสั่งย้ายให้มาประจำอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ แม้จะเป็นคนที่มีความเข้มแข็งและมีประสบการณ์ในการสืบสวนคดี แต่เหตุการณ์ในอดีตที่เขาสูญเสียภรรยาไปกลับทำให้เขากลายเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเข้ามาสืบสวนคดีนี้ด้วยความหวังที่จะค้นหาความจริง และเพื่อแก้แค้นให้กับภรรยาที่ตนเองไม่สามารถปกป้องได้ในอดีต

ฮยอนกูทัก: ผู้กำกับสถานีตำรวจที่มีอำนาจและอิทธิพล

ฮยอนกูทัก เป็นตำรวจเจ้าของคดีฆาตกรรมนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน การปิดคดีได้ทำให้เขาได้เลื่อนขั้นและกลายเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจ เขาเป็นเพื่อนสนิทของพ่อของโกจองอู และเป็นที่เคารพของคนในเมือง ไม่ว่าจะพูดอะไรก็มีแต่ความน่าเชื่อถือฮยอนกูทักเป็นตัวละครที่มีอำนาจและอิทธิพลในหมู่บ้านนี้ เขาใช้ตำแหน่งและความสัมพันธ์ของตนเพื่อปกปิดความจริงในคดีนี้ และเพื่อรักษาสถานะของตนเองในสังคม แม้จะมีหลักฐานที่ชี้ไปในทางอื่น แต่เขาก็ยังคงยืนกรานว่าคดีนี้ปิดไปแล้ว และไม่ต้องการให้มีการสืบสวนใหม่อีก

ซูโอ: เด็กชายที่มีความผิดปกติทางสมอง

ซูโอ เป็นลูกชายของฮยอนกูทัก ที่มีอาการความผิดปกติทางสมอง แต่กลับสนิทกับโกจองอู ในเวลาว่างเขามักจะใช้เวลาไปกับการวาดภาพ รวมถึงเคยมอบภาพวาดเหตุการณ์ฆาตกรรมในโกดังให้แก่โกจองอูด้วยซูโอเป็นตัวละครที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงหลักฐานและเบาะแสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้จะมีความผิดปกติทางสมอง แต่เขากลับมีความสามารถพิเศษในการสังเกตและจดจำรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้โกจองอูค้นพบความจริงในคดีนี้ได้

นาซอล: พนักงานพาร์ทไทม์ที่มีความอยากรู้อยากเห็น

นาซอล เป็นอดีตนักศึกษาแพทย์ที่ลาออกมาแล้วก็เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านนี้แล้วรู้สึกชอบเลยสมัครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารของแม่ฆาตกร เธอมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น และเป็นเพื่อนกับซูโอนาซอลเป็นตัวละครที่มีบทบาทในการเชื่อมโยงข้อมูลและเบาะแสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เธอมีความสนใจและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของคดีนี้เป็นอย่างมาก และมักจะใช้โอกาสในการทำงานพาร์ทไทม์เพื่อสอดรู้สอดเห็นเกี่ยวกับคดีนี้อยู่เสมอ

ชิมดงมิน: พ่อของนักเรียนที่เสียชีวิต

ชิมดงมิน เป็นพ่อของนักเรียนที่เสียชีวิตในคดีนี้ ในช่วงที่ลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ เขามักดื่มเหล้าและทำร้ายร่างกายลูกและภรรยาอยู่บ่อยครั้ง หลังเหตุการณ์ฆาตกรรม เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยความแค้นและมีความต้องการที่จะฆ่าโกจองอูให้ได้ชิมดงมินเป็นตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างลึกซึ้ง เขามีความแค้นและต้องการแก้แค้นให้กับลูกสาวที่เสียชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เขาพยายามหาความจริงในคดีนี้ด้วยตัวเอง และอาจจะนำไปสู่การกระทำที่รุนแรงต่อโกจองอูในที่สุด
See More
เทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ สร้างปรากฏการณ์ใหญ่! ปลุกกระแสความเท่าเทียมผ่านภาพยนตร์
ภาพยนตร์ไทยก้าวสู่เวทีโลก ในเทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีเทศกาลภาพยนตร์ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ปิดฉากลงอย่างสวยงาม หลังจากสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอด 5 วันเต็ม ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เทศกาลนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ให้กับวงการภาพยนตร์ไทย ด้วยการปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก และการต่อยอดความร่วมมือระดับโลก เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก

ภาพยนตร์ไทยก้าวสู่เวทีโลก ด้วยความหลากหลายและความเท่าเทียม

ปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก

เทศกาลภาพยนตร์ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ได้เปิดพื้นที่ให้ภาพยนตร์ไทยอันทรงคุณค่าในอดีตได้กลับมาสร้างแรงบันดาลใจและถูกพูดถึงอีกครั้ง เช่น ภาพยนตร์ในตำนานอย่าง "ฉันผู้ชายนะยะ" ของหม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล ศิลปินแห่งชาติ และ "รักแห่งสยาม" ที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้ายอมรับตัวตนของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตและก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางการยอมรับจากคนรุ่นใหม่และผู้ชมทั่วโลก

ต่อยอดความร่วมมือระดับโลก เปิดประตูสู่โอกาสใหม่

การนำภาพยนตร์ LGBTQ+ จาก 14 ประเทศทั่วโลกมาฉาย อาทิ Before I Change My Mind, Splendid Isolation, Big Boys และ Vera and the Pleasure of Others นับเป็นการขยายเครือข่ายความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก พร้อมต่อยอดโอกาสให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดและสัมผัสวัฒนธรรมไทย ผ่านเวทีเสวนาพิเศษร่วมกับผู้กำกับชั้นนำมากมาย เช่น Tsai Ming Liang, Trevor Anderson และ Corey Sherman ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ทั้งทางธุรกิจและศิลปวัฒนธรรม

สร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายคลื่นลูกใหม่ด้วยรางวัลอันทรงคุณค่า

การประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นไทย และหนังสั้นต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าแสดงออก และถ่ายทอดมุมมองใหม่ ๆ เรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียม โดยผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นไทยรางวัลชนะเลิศ Grand Jury Prize คือภาพยนตร์เรื่องแด่เธอที่รัก (Happiness Belongs To You) กำกับและควบคุมการผลิตโดย คณิน บำรุงวงศ์สิริ, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 จากภาพยนตร์เรื่อง Motherland กำกับและควบคุมการผลิตโดย แพรวา ชำปฏิ, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 จากภาพยนตร์เรื่อง Auganic กำกับภาพยนตร์ โดยกฤษฏิ์ คมกริชวรากูล ควบคุมการผลิตโดย คิง ลูอี พาโลโม และภาพยนตร์เรื่อง 30 Days Before I'm Dead กำกับและควบคุมการผลิตโดย ศศิชา ศิริอัศวกุล สำหรับผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นต่างประเทศรางวัลชนะเลิศGrand Jury Prize คือภาพยนตร์เรื่อง Dildotectonics (Dildotectónica) จากประเทศโปรตุเกส กำกับและควบคุมการผลิตโดย Tomás Paula Marques, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 จากภาพยนตร์เรื่อง Everybody's Gotta Love Sometimes จากประเทศเมียนมา กำกับภาพยนตร์โดย Sein Lyan Tun ควบคุมการผลิตโดย Angele de Lorme, John Badalu, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 จากประเทศฝรั่งเศสทั้ง 2 เรื่องได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง The Red Panda Temptation (La tentation du panda roux) กำกับภาพยนตร์ โดย Haïga Jappain ควบคุมการผลิตโดย Marthe Lamy และภาพยนตร์เรื่อง Bolero กำกับภาพยนตร์ โดย Nans Laborde-Jourdàa ควบคุมการผลิตโดย Margaux Lorier, Guillaume Bassoความสำเร็จของเทศกาล "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจดจำให้ผู้คนมากมาย และเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ สะท้อนถึงศักยภาพความสร้างสรรค์ของประเทศไทย ที่พร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่ได้รับความร่วมมือระดับโลก ด้วยการปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก การต่อยอดความร่วมมือระดับโลก และการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ผ่านรางวัลอันทรงคุณค่า เทศกาลนี้ได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ทั้งทางธุรกิจและศิลปวัฒนธรรม สำหรับภาพยนตร์ไทยในอนาคต
See More