ความบันเทิง
“เยริ Red Velvet” รับบทนำ ในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรก ‘Next’ | BRIGHTTV.CO.TH

เยริ Red Velvet รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรก 'Next' ท้าทายความสามารถครั้งใหม่

แฟนคลับของศิลปินสาว "เยริ Red Velvet" ต่างตื่นเต้นและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้รับข่าวว่าเธอได้รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกของเธอ ภายใต้ชื่อเรื่อง 'Next' ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในอาชีพการแสดงของเธอ

ศิลปินสาวผู้มีเสน่ห์ล้นเหลือ พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการภาพยนตร์

### เยริ Red Velvet รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'Next'"เยริ Red Velvet" ได้รับเลือกให้รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'Next' ซึ่งกำกับโดย ซนดงวาน ผู้กำกับหน้าใหม่ที่มีผลงานภาพยนตร์สั้นที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ อย่าง 'Cabinet' และ 'I Heard You' มาแล้ว โดยเรื่อง 'Next' จะเป็นเรื่องราวสยองขวัญลึกลับ เกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เข้าร่วมในพิธีกรรมเรียกวิญญาณ และเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติที่ตามมา"คิมเยริ" ถูกรับเลือกให้รับบทเป็น "พัคจายอง" ซึ่งเป็นประธานนักเรียนชั้นปี 3 ที่รับผิดชอบห้อง 5 และเป็นตัวละครที่มีส่วนร่วมในพิธีกรรมเรียกวิญญาณ เพื่อค้นหาที่อยู่ของน้องสาวที่หายไปของเธอ เมื่อพิธีกรรมได้เริ่มต้นขึ้นและสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น เธอต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเพื่อนร่วมพิธีกรรมเรียกวิญญาณ### ความท้าทายครั้งใหม่ของ "เยริ" ในฐานะนักแสดงการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ "เยริ" นับตั้งแต่เดบิวต์เป็นนักแสดง เนื่องจากเธอจะต้องถ่ายทอดบทบาทของตัวละครที่มีความเข้มข้นและซับซ้อนมากกว่าที่เคยแสดงมาก่อน แต่แฟนๆ ก็เชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน"เยริ" ได้แสดงความตื่นเต้นและกล่าวว่า "ฉันสนใจแนวสยองขวัญมาโดยตลอด และรู้สึกว่าตื่นเต้นมากที่จะได้รับความท้าทายครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้แสดงในภาพยนตร์นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นนักแสดง ดังนั้นฉันจึงตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงคนอื่น ๆ เพื่อสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม"### ผู้กำกับหน้าใหม่ "ซอนดงวาน" กับความท้าทายครั้งใหม่ผู้กำกับหน้าใหม่ "ซอนดงวาน" ที่ได้รับความสนใจจากผลงานภาพยนตร์สั้นเรื่อง 'Cabinet' และ 'I Heard You' จะมาร่วมงานกับ "เยริ" ในภาพยนตร์เรื่อง 'Next' ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับความคาดหวังสูงมากจากแฟนๆ เนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญที่เข้มข้น และยังได้รับการคาดหวังสูงมากยิ่งขึ้น เมื่อ "เยริ" ได้เป็นนักแสดงหลักในเรื่องนี้อีกด้วยการร่วมงานกันระหว่าง "เยริ" และ "ซอนดงวาน" ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองคนต่างก็เป็นหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ แต่ด้วยความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ จึงทำให้แฟนๆ ตั้งตารอคอยผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างมาก### ความสำเร็จของ "เยริ" ในฐานะนักแสดงนอกจากการเป็นศิลปินขวัญใจแฟนๆ K-pop แล้ว "เยริ" ยังได้แสดงฝีมือการแสดงในโปรเจกต์ต่างๆ เช่น 'Mint Condition' และ 'Blue Birthday' ซึ่งได้รับการชื่นชมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก และล่าสุดในเรื่อง 'BITCH X RICH' ก็ได้แสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมและเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจแฟนๆ จนทำให้ทุกคนต่างตั้งตารอคอยผลงานภาพยนตร์ครั้งใหม่ของเธอด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นในการแสดง ทำให้ "เยริ" ได้รับความรักและการยอมรับจากแฟนๆ ทั่วโลกมากมาย และการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง 'Next' ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในอาชีพการแสดงของเธอ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ไทย
เรื่องย่อ “หลานม่า” หนังไทยพันล้าน เล่าชีวิตครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน

ครอบครัวจีนไทย: การเดินทางสู่ความสำเร็จและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง

ในช่วงเวลาแห่งวันสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เรามีภาพยนตร์ใหม่ที่จะมาเติมเต็มความอบอุ่นในใจของคนไทย นั่นคือ "หลานม่า (LAHN MAH)" ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งสร้างโดย จอกว้าง ฟิล์ม และจัดจำหน่ายโดย จีดีเอช ห้าห้าเก้า กำกับโดย "พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์" และอำนวยการสร้างโดย "วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ จิระ มะลิกุล" กำหนดฉายวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

ค้นหาความสำเร็จและความหมายที่แท้จริงของชีวิต

เรื่องย่อ: การเดินทางสู่ความสำเร็จและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง

เรื่องราวของ เอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับ อาม่า (อุษา เสมคำ) ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัว ในตอนแรกดูเหมือนว่า เอ็ม จะมาดูแลอาม่าในบั้นปลายชีวิต แต่แท้จริงแล้ว เอ็ม มีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่ เมื่อรู้ว่า มุ่ย (ตู ต้นตะวัน) จะได้รับมรดกก้อนใหญ่เป็นบ้านราคาสิบล้านบาทจากอากง เอ็มจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้อาม่าไว้ใจ แต่กำแพงที่อาม่าตั้งไว้ ทำให้เอ็มได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย จนอะไรบางอย่างถูกอามาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

นักแสดงภาพยนตร์ หลานม่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงที่น่าจับตามอง ได้แก่ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล รับบท เอ็ม, แต๋ว อุษา เสมคำ รับบท อาม่าเหม้งจู, ครูเจีย สฤญรัตน์ โทมัส รับบท ซิว (แม่ของเอ็ม), ดู๋ สัญญา คุณากร รับบท กู๋เคี้ยง (ลุงของเอ็ม), เผือก พงศธร จงวิลาส รับบท กู๋โส่ย (น้าของเอ็ม), และ ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุล รับบท มุ่ย (ลูกพี่ลูกน้องของเอ็ม)

การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว

ภาพยนตร์เรื่อง "หลานม่า" ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งภายในครอบครัว และการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตร่วมกัน เอ็ม ผู้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลอาม่า ได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย และค้นพบสิ่งที่แท้จริงของชีวิตที่มากกว่าเพียงแค่ความสำเร็จทางวัตถุ ในขณะที่อาม่าก็ได้เปิดใจและเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว

การค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต

ในขณะที่เอ็มมีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่ในการกลับมาดูแลอาม่า แต่เมื่อเขาได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย และเปิดใจรับฟังอาม่า เขาก็ได้ค้นพบสิ่งที่แท้จริงของชีวิตที่มากกว่าเพียงแค่ความสำเร็จทางวัตถุ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่การไล่ตามความสำเร็จทางวัตถุ แต่เป็นการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเปิดใจรับฟังผู้อื่น
See More
‘เบสท์ คำสิงห์’ ประกาศเลิกเล่นละคร กลับมาเดินสายอินฟลูฯ เปิดปัจจัยหลักที่ตัดสินใจ

ก้าวสู่ยุคใหม่ของอินฟลูเอนเซอร์: เบสท์ คำสิงห์ ประกาศเลิกเล่นละคร กลับมาเดินสายอินฟลูฯ

ในวงการบันเทิงไทย การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของนักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องปรับตัวอยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนๆ และตลาด ล่าสุด เบสท์ คำสิงห์ ได้ออกมาประกาศเลิกเล่นละครและกลับมาเดินสายอินฟลูเอนเซอร์อีกครั้ง โดยเปิดเผยปัจจัยหลักที่ทำให้ตัดสินใจในครั้งนี้

เบสท์ คำสิงห์ กลับมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เต็มตัว

ความเหนื่อยล้าจากการเล่นละคร

เบสท์ คำสิงห์ เปิดเผยว่า เธอได้เล่นละครมาแล้วกว่า 4 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน และทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะกลับมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เหมือนเดิม เพื่อให้ชีวิตการทำงานของเธอมีความสมดุลมากขึ้น

ความยืดหยุ่นในการทำงานของอินฟลูเอนเซอร์

เบสท์ กล่าวว่า การเล่นละครนั้น ทางผู้ผลิตจะกำหนดตารางการถ่ายทำที่ค่อนข้างแน่นหนา โดยจะแบ่งเป็น 2 คิว คือ คิวแรกในวันจันทร์ อังคาร และพุธ และคิวที่ 2 ในวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งเธอต้องลองดูว่าจะเลือกวันไหน แต่ในที่สุดเธอก็รู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นวันไหน มันก็ทำให้การทำงานในโซเชียลมีเดียของเธอลดลงไป ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะกลับมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เหมือนเดิม เพราะการทำงานในฐานะอินฟลูเอนเซอร์จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า

ปัจจัยทางการเงิน

เบสท์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยทางการเงินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เพราะในฐานะมนุษย์ทุกคนต้องการเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การเป็นอินฟลูเอนเซอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากสามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง

การสนับสนุนจากครอบครัว

นอกจากนี้ เบสท์ ยังได้กล่าวว่า เธอจะให้โอกาสคุณพ่อสมรักษ์ คำสิงห์ ได้เป็นนักแสดงแทน โดยแฟนๆ สามารถติดต่อคุณพ่อของเธอได้หากต้องการให้เขารับบทบาทในละคร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจากครอบครัวที่มีต่อการตัดสินใจของเบสท์ในครั้งนี้

การเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัย

การตัดสินใจของเบสท์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของนักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องปรับตัวอยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งเบสท์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัย
See More