ภาพยนตร์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคทองใหม่ ด้วยการเปิดประสบการณ์ชมภาพยนตร์ระดับโลกภาพยนตร์ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองใหม่ ด้วยการเปิดประสบการณ์ชมภาพยนตร์ระดับโลกให้กับผู้ชมชาวไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ตลาดภาพยนตร์ไทยมีความคึกคักมากขึ้น โดยมีภาพยนตร์ไทยเรื่อง "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" ตามรอยความสำเร็จของภาพยนตร์ "ธี่หยด" ที่จะเข้าฉายในระบบ IMAX เป็นเรื่องที่สอง ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่มาตรฐานระดับสากลของภาพยนตร์ไทย"ภาพยนตร์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคทองใหม่"

ความคึกคักของตลาดภาพยนตร์ไทย

ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ตลาดภาพยนตร์ไทยมีความคึกคักมากขึ้น โดยมีภาพยนตร์ไทยเรื่อง "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" ตามรอยความสำเร็จของภาพยนตร์ "ธี่หยด" ที่จะเข้าฉายในระบบ IMAX เป็นเรื่องที่สอง ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่มาตรฐานระดับสากลของภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์ "ธี่หยด" ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าฉายในระบบ IMAX โดยทำสถิติยอดคนดูหนังวันเปิดตัววันแรกสูงสุดในระบบ IMAX และทำรายได้รวมทุกระบบการฉายในวันแรกสูงถึง 39 ล้านบาท

ภาพยนตร์ไทยเข้าสู่ระบบ IMAX

ภาพยนตร์ "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" เป็นภาพยนตร์ไทยแนวไซไฟเรื่องแรกที่มีการถ่ายทำด้วยสัดส่วนภาพแบบ IMAX ทำให้การรับชมได้ภาพที่เต็มตา โดยฉากของเรื่องที่เป็นสัดส่วนภาพแบบ IMAX รวมกันทั้งเรื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที จากความยาวหนังทั้งเรื่อง 2 ชั่วโมง 26 นาที พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสความพิเศษที่เหนือกว่าและแตกต่างจากการชมภาพยนตร์ในระบบปกติ ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์ IMAX ทุกสาขา

ความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง

ความร่วมมือระหว่างบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บริษัท เนรมิตรหนัง ฟิล์ม, บริษัทภาพยนตร์ วอร์เนอร์ บราเธอร์ฟาร์อีสต์ อินคอโปเรชั่น และผู้กำกับภาพยนตร์ "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" ได้ร่วมกันผลักดันให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก้าวข้ามพรมแดนไปได้ไกลกว่าที่ผ่านมา โดยมีการนำเสนอภาพเพื่อจัดฉายในโรง IMAX โดยเฉพาะ ด้วยอัตราส่วนภาพสัดส่วน IMAX ที่มีความยาวกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งผู้ชมชาวไทยจะได้ดื่มด่ำไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มที่และได้สัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้และไม่มีวันลืม

ความท้าทายในการสร้างภาพยนตร์ไทยระดับสากล

ภาพยนตร์ "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" ถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับทีมงานผู้สร้าง เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ไทยแนวไซไฟที่มีความแปลกใหม่และทะเยอทะยานที่สุด โดยผู้กำกับ มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ได้ออกแบบสัดส่วนภาพและกระบวนการสร้างภาพยนตร์ให้เหมาะสมกับการฉายในระบบ IMAX เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่เต็มที่ที่สุด ทั้งในด้านจักรวาล อวกาศ และเทคนิคการสร้างสรรค์ภาพ CG ที่มีความคราฟท์เป็นพิเศษ

ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล

ภาพยนตร์ "Taklee Genesis (ตาคลี เจเนซิส)" ถือเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำได้ระดับมาตรฐานสากล โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ฟาร์อีสต์ อินคอโปเรชั่น ซึ่งมองว่าเรื่องนี้มีคุณค่าทางศิลปะทางภาพยนตร์ที่จะสื่อสารกับคนดูโดยไม่มีขอบเขตด้านสัญชาติอีกต่อไป และสามารถขยายภาพเป็น IMAX ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ผู้ชมชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้และไม่มีวันลืม

ปรับตัวสู้วิกฤติ: วุธ อัษฎาวุธ นำทางละครไทยสู่ยุคใหม่

วุธ อัษฎาวุธ เป็นอีกหนึ่งพระเอกรุ่นใหญ่ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นในบทบาทการแสดง แต่ยังได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตและกำกับละครไทย ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสื่อ วุธได้แบ่งปันประสบการณ์และแนวทางในการปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อวงการละครไทย

ปรับตัวสู้วิกฤติ: วุธ อัษฎาวุธ นำทางละครไทยสู่ยุคใหม่

ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเรตติ้ง

วุธ อัษฎาวุธ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันเรตติ้งของละครไทยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการรับชมของผู้ชม โดยเรตติ้งที่เคยสูงถึง 20 หรือ 10 ในอดีตนั้นอาจลดลงเหลือเพียง 5 นาที หรือ 30 วินาทีเท่านั้น เนื่องจากผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์มากขึ้น และมีความสนใจที่จะเปลี่ยนไปดูคอนเทนต์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ผลิตละครจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการปรับรูปแบบการเล่าเรื่องและการนำเสนอให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมในยุคปัจจุบัน

ปรับตัวสู่แพลตฟอร์มใหม่

วุธ อัษฎาวุธ กล่าวว่า ในการปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อวงการละครไทย ผู้ผลิตละครจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอและการเล่าเรื่องให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ผู้ชมนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น การปรับเนื้อหาให้กระชับและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อให้ผู้ชมสามารถติดตามได้ในระยะเวลาสั้นๆ หรือการนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น การปรับตัวในลักษณะนี้จะช่วยให้ละครไทยสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลักดันลูกสาวสายเท่ สู่วงการบันเทิง

นอกจากการปรับตัวในการผลิตละครแล้ว วุธ อัษฎาวุธ ยังได้เปิดเผยถึงการผลักดันลูกสาวของตน ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "น้องสิงห์" ให้เข้าสู่วงการบันเทิง โดยเห็นว่าลูกสาวมีความสามารถและมีความพร้อมที่จะก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงในวงการ ซึ่งการสนับสนุนลูกสาวในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสร้างความต่อเนื่องและความยั่งยืนให้กับวงการบันเทิงไทย

ความเชื่อมั่นในอนาคตของละครไทย

แม้ว่าวงการละครไทยจะเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสื่อ แต่วุธ อัษฎาวุธ ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าละครไทยยังไม่ตาย เนื่องจากเรื่องราวและสตอรี่ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ชม อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตละครจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการรับชมของผู้ชม โดยการปรับรูปแบบการเล่าเรื่องและการนำเสนอให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมในยุคปัจจุบัน เพื่อให้ละครไทยสามารถดำรงอยู่และเติบโตต่อไปในอนาคต