ความบันเทิง
ปรับตัวสู้วิกฤต ‘วุธ อัษฎาวุธ’ เชื่อละครไทยไม่ตาย พร้อมสนับสนุนหากลูกสาว ‘น้องสิงห์’ อยากเข้าวงการ

ละครไทยยังมีชีวิตอยู่: การปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัล

ในยุคที่วงการบันเทิงต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค อดีตพระเอกดัง วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ได้แบ่งปันมุมมองและแนวทางในการปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตของวงการละครไทย พร้อมทั้งเปิดเผยเรื่องราวของลูกสาวสายเท่ น้องสิงห์ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

ละครไทยยังมีอนาคตที่สดใส หากปรับตัวให้ทันยุคสมัย

เข้าใจปัญหาและปรับตัวอย่างทันท่วงที

วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ได้กล่าวถึงปัญหาใหญ่ที่กำลังเผชิญอยู่ในวงการละครไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเรตติ้งที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมการรับชมของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป จากการรับชมผ่านทีวีในอดีต มาเป็นการรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบัน ส่งผลให้การวัดเรตติ้งในรูปแบบเดิมไม่สามารถสะท้อนพฤติกรรมการรับชมที่แท้จริงได้อีกต่อไป"ความจริงมันเป็นแค่ส่วนนึงของภาพรวมการเปลี่ยนแปลง เห็นได้ชัดจากเรตติ้งอาจจะ 20 หรืออาจจะง่ายๆ ถึง 10 แบบสมัยก่อนมันอาจจะไม่มีแล้ว เพราะคนดูเขาย้ายแพลตฟอร์ม ถามว่าคนยังดูละครไหม คือดู แต่ไปดูที่อื่น เรตติ้งมันเลยไม่รวมอยู่ในเรียลไทม์ ถ้าเอามารวมกันมันจะถึงสมัยก่อนก็ได้ มันก็เลยสั่นคลอน คนซื้อโฆษณาไม่มาซื้อในทีวี ซื้อกระจายกันไป ค่าใช้จ่ายรายได้ยังเท่าเดิมมันไม่อยู่ที่เราทีเดียว มันกระจายไปหมด"ดังนั้น วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร เชื่อว่า การที่จะรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ได้ ผู้ประกอบการในวงการบันเทิงจำเป็นต้องเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง เพื่อที่จะสามารถปรับตัวและหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุด โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการรับชมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

ละครไทยยังมีชีวิตอยู่และพร้อมปรับตัว

แม้ว่าวงการละครไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน แต่ วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า ละครไทยยังมีชีวิตอยู่และมีอนาคตที่สดใส หากสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค"ไม่ตายครับ คิดว่าเรื่องราวหรือสตอรี่ที่เกิดขึ้นยังเป็นที่ต้องการของคนดู ของคนที่เสพ แต่อย่างที่บอกแพลตฟอร์มของคนดูจะเปลี่ยนไป ระยะเวลาในการเล่าเมื่อก่อนเราอาจจะทนดูในการดู 1 ชั่วโมง แต่ทุกวันนี้มันอาจจะน้อยลงเหลือ 5 นาที เหลือ 30 วินาทีได้ไหม เพราะฉันรีบยังมีคอนเทนต์อื่นรอฉันอยู่ อันนี้คือสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้พฤติกรรมของคนเสพว่าเป็นยังไง เราต้องปรับตัวให้ทัน ถ้ามีความคิดแบบเดิมๆสู้แบบเดิมๆ มันคงไม่ใช่"ดังนั้น การปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมการรับชมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการในวงการบันเทิงจะต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอเนื้อหา หรือการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สนับสนุนลูกสาวสายเท่ น้องสิงห์ ก้าวสู่วงการบันเทิง

นอกจากการปรับตัวของวงการละครไทยแล้ว วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ยังได้กล่าวถึงเรื่องของลูกสาวสายเท่ น้องสิงห์ ที่ตอนนี้กำลังได้รับความสนใจจากสังคมโซเชียล และเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนหากลูกสาวของเขาต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง"ตอนนี้อายุ 15 แล้วครับ เวย์ก็มาทางนี้ เขาเห็นเราทำงานมาตั้งแต่เด็ก แรกๆ ก็ไม่สนใจแต่หลังๆ มีความชอบ แอบไปสมัครคอนเทสต์อะไรต่างๆ สมัครอันนั้นเอง อันนี้เอง มีให้เราช่วยเตรียมไฟล์งาน แต่ว่าเราไม่ได้เป็นคนบังคับเขา ทุกอย่างคือให้เขาอยากเอง อันนี้ไม่ได้ผลักดันนะ เพียงแต่ว่าสนับสนุน ต้องให้เขารับผิดชอบสิ่งที่เขาชอบ อย่างถ้าเราดันเขาแล้วสุดท้ายมันไม่ใช่เราจะกลายเป็นคนผิด เพราะฉะนั้นให้เขามีโอกาสตัดสินใจเลือกเอง"จากการให้สัมภาษณ์ของ วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร จะเห็นได้ว่า แม้ว่าวงการละครไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน แต่เขายังคงเชื่อมั่นว่า ละครไทยยังมีชีวิตอยู่และมีอนาคตที่สดใส หากสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน เขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนลูกสาวสายเท่ น้องสิงห์ ในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง โดยให้เธอมีอิสระในการตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง
อสส. ประสานอัยการฯเจอร์ซีย์ เดินหน้าติดตามเงิน 10.46 ล.คดีสินบนเทศกาลหนัง กรุงเทพ

ไล่ล่าเงินสินบนคดีเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพฯ กลับคืนประเทศไทย

สำนักงานอัยการสูงสุดประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ ดำเนินการติดตามเงินสินบนจำนวน 10.46 ล้านบาท ที่ถูกโอนไปยังหลายประเทศ เพื่อให้ได้รับคืนและนำเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน หลังจากที่อัยการสหรัฐฯ ได้ยึดเงินจากธนาคารในเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร

ไล่ล่าเงินสินบนคดีเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพฯ กลับคืนประเทศไทย

การติดตามเงินสินบนจากคดีเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพฯ

สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับเรื่องจาก ป.ป.ช. เกี่ยวกับการกล่าวหานางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท. และบุตรสาว ร่วมกันทุจริตโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2545 - 2550 โดยรับสินบน จากการสืบสวนของอัยการสหรัฐฯ พบเส้นทางการเงินของสินบนส่วนหนึ่งถูกส่งไปยังเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักรสำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ทางการเกาะเจอร์ซี่ย์ดำเนินการริบเงินสินบนของนางจุฑามาศ และส่งคืนให้ประเทศไทย หลังจากนั้นทางการเกาะเจอร์ซี่ย์ได้ดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาริบทรัพย์สิน และมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินดังกล่าว

การประสานงานกับหน่วยงานต่างประเทศ

เมื่อทางการเกาะเจอร์ซี่ย์มีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดได้ประสานงานกับพนักงานอัยการสหรัฐอเมริกา และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้สหรัฐอเมริกาได้ส่งเงินจำนวน 10.46 ล้านบาท คืนให้กับประเทศไทย ตามข้อตกลงภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกานอกจากนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดยังได้ยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งริบและส่งคืนทรัพย์สินที่ถูกโอนไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์ กลับมายังประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาในประเทศนั้น ๆ

ความสำเร็จจากการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

ความสำเร็จในการติดตามเงินสินบนคืนมายังประเทศไทย เป็นผลโดยตรงจากการประสานงานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดของประเทศไทย สำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา และสำนักงานอัยการสูงสุดเกาะเจอร์ซี่ย์ ซึ่งถือเป็นภารกิจโดยตรงของสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะที่อัยการสูงสุดเป็นผู้ประสานงานกลางตามกฎหมายของประเทศไทย

คำพิพากษาคดีทุจริตเทศกาลหนังนานาชาติกรุงเทพฯ

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท. และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว จากกรณีรับเงินตอบแทนจากสามี-ภรรยาชาวสหรัฐอเมริกา นักธุรกิจภาพยนตร์ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ พ.ศ. 2545-2550 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยให้จำคุกนางจุฑามาศ 50 ปี และ น.ส.จิตติโสภา 40 ปี ซึ่งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
See More
เกมฮิตห้องคอม “Little Fighter” เปิดตัวภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชัน ฉายปี 2025

ตำนานเกมแอ็คชันคลาสสิก "Little Fighter" กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง

เกมแอ็คชันมัลติเพลเยอร์ "Little Fighter" ที่เคยสร้างความฮือฮาในยุค 2000 กำลังจะกลับมาสร้างความสนใจอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชันในปี 2025 ซึ่งจะสร้างขึ้นโดยทีมงานชื่อดังจากฮ่องกง และมีการปล่อยคลิปพรีวิวให้แฟนๆ ได้ลิ้มลองความสนุกก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ย้อนรอยตำนานเกมแอ็คชันคลาสสิกที่จะกลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง

ย้อนรอยความสำเร็จของ "Little Fighter"

"Little Fighter" เป็นเกมแอ็คชันแนวข้างมุมมองที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงยุค 2000 เป็นเกมที่มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวละครที่มีให้เลือกเล่นหลากหลายแบบ แต่ละตัวละครจะมีท่าโจมตีเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน และสามารถเล่นพร้อมกันได้หลายคนในเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังมีความกระทัดรัดของไฟล์เกม และเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ทำให้ตัวเกมได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียนที่นิยมแอบติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเพื่อเล่นในคาบว่างหลังจากความสำเร็จของ "Little Fighter" ในปี 1995 ก็ได้มีการพัฒนาภาคต่อออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น "Little Fighter 2" ในปี 1999, "Little Fighter Online" ในปี 2004 (ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว), "Hero Fighter" ในปี 2009 และ "Hero Fighter X" ในปี 2015 นอกจากนี้ยังมี "Little Fighter 2 Remastered" ที่กำลังจะเปิดตัวบน Steam ภายในปี 2025 เพื่อให้แฟนๆ ได้ย้อนรอยความสนุกของเกมคลาสสิกในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น

ความคาดหวังกับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชัน "Little Fighter"

หลังจากที่ "Little Fighter" ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงยุค 2000 ล่าสุดก็ได้มีการประกาศเปิดตัวภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชันในปี 2025 ซึ่งจะสร้างขึ้นโดยทีมงานชื่อดังจากฮ่องกง อย่าง One Cool Film ที่มีผลงานอย่าง "Twilight of the Warriors: Walled In", "Warriors of Future" และ "Raging Fire" ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์แอ็คชันที่มีคุณภาพในคลิปพรีวิวที่ปล่อยออกมา แม้จะยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ของ "Little Fighter" ได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้โลโก้ภาพยนตร์และเสียงบรรยายที่กล่าวถึงเสียงสะท้อนในวัยเยาว์และการต่อสู้เพื่ออะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกับแฟนๆ ของเกมนี้เป็นอย่างดีด้วยการสร้างภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชันในแนวแอ็คชันสไตล์ฮ่องกง ภายใต้การอำนวยการผลิตของทีมงานชื่อดัง คาดว่าภาพยนตร์ "Little Fighter" จะสามารถสร้างความฮือฮาและตอบสนองความคาดหวังของแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านการถ่ายทอดความสนุกและความเข้มข้นของการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกมนี้

โอกาสการเข้าถึงภาพยนตร์ "Little Fighter" ในประเทศไทย

ภาพยนตร์ "Little Fighter" จะเริ่มฉายในฮ่องกงในปี 2025 ส่วนการเข้าถึงของประเทศไทยนั้นยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครซื้อลิขสิทธิ์นำเข้ามาฉายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ในประเทศไทยสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ "Little Fighter" ได้ผ่านทางแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊ก เพื่อรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการเข้าถึงภาพยนตร์ในประเทศไทยนอกจากนี้ แฟนๆ ที่คิดถึงหรืออยากลองเล่นเกม "Little Fighter" ก็สามารถดาวน์โหลดเกม "Little Fighter 2" และ "Hero Fighter X" ได้ฟรีที่เว็บไซต์หลักของเกมเหล่านั้น เพื่อย้อนรอยความสนุกของเกมคลาสสิกในยุค 2000 ก่อนที่จะได้ชมภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชันในปี 2025
See More