ความบันเทิง
The Tiger Who Came To Tea ละครเวทีสุดฮิตจาก West End ‘เสือที่มาดื่มชา’ เริ่มแสดงที่ไทยแล้ววันนี้

ละครเวทีเรื่อง "เสือที่มาดื่มชา" สร้างความตื่นเต้นและความสนุกสนานให้กับครอบครัวไทย

กรุงเทพฯ, สิงหาคม 2567 – ละครเวทีเรื่อง "The Tiger Who Came To Tea" หรือ "เสือที่มาดื่มชา" ที่ดัดแปลงจากนิทานเด็กสุดคลาสสิกของ Judith Kerr จะเริ่มการแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในวันที่ 18 ถึง 22 กันยายนนี้ ณ โรงละครเอ็ม เธียเตอร์ (ถ.เพชรบุรีตัดใหม่) โดยความร่วมมือระหว่าง Curtain Up Studios และ Bangkok Theatre Project

ละครเวทีเรื่องนี้จะสร้างความตื่นเต้นและความสนุกสนานให้กับครอบครัวไทยอย่างแน่นอน

ความสำเร็จของละครเวทีเรื่อง "เสือที่มาดื่มชา" ในต่างประเทศ

ละครเวทีเรื่อง "The Tiger Who Came To Tea" เป็นละครเพลงชื่อดังระดับโลกจากทาง West End ที่ได้รับการดัดแปลงจากนิทานเด็กสุดคลาสสิกของ Judith Kerr ตั้งแต่เปิดตัวในลอนดอน ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศอังกฤษ ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ เพลงที่ติดหู และการแสดงที่มีชีวิตชีวา ทำให้เป็นรายการโปรดของครอบครัวและเด็กเล็ก นอกจากนี้ ละครของทาง West End ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Olivier Award for Best Family Show อีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพการผลิตที่ยอดเยี่ยมและความน่าดึงดูดของละครเรื่องนี้

การเปิดตัวละครเวทีเรื่อง "เสือที่มาดื่มชา" ในประเทศไทย

การแสดงละครเวที "เสือที่มาดื่มชา" ในประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปิดตัวละครเพลงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังตอกย้ำให้เห็นถึงความชื่นชอบที่เพิ่มขึ้นในด้านการจัดแสดงละครเด็กที่มีคุณภาพในประเทศไทย โดยรูปแบบละครแบบอินเทอร์แอคทีฟและเรื่องราวอันอบอุ่นครั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าจะได้รับการชื่นชมและถูกใจผู้ชมชาวไทย และสามารถประสบการณ์ที่น่าจดจำและมหัศจรรย์สำหรับทุกคน

ความสนใจจากสื่อมวลชนและบุคคลสำคัญในประเทศไทย

การแสดงรอบแรกเมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อมวลชน ผู้มีชื่อเสียง และเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ในประเทศไทย อาทิ ครอบครัวของคุณนุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์, คุณมอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต, น้องชายของคุณพิธา – คุณเทียน ลิ้มเจริญรัตน์, คุณบอย ภิษณุ จุฑานิ่มสกุล, เพจแม่ไหวแหละ, เพจคุณแม่เลอค่า, เพจเด็กซ่า, เพจเวลาเที่ยว ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตื่นเต้นของผู้คนในประเทศไทยที่มีต่อละครเวทีเรื่องนี้

กำหนดการแสดงและราคาบัตร

การแสดงละครเวที "เสือที่มาดื่มชา" จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 22 กันยายน 2567 ณ โรงละครเอ็ม เธียเตอร์ (ถ.เพชรบุรีตัดใหม่) โดยมีรอบการแสดงทั้งหมด 9 รอบ ในช่วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 18:00 น. ราคาบัตรอยู่ในช่วง 1,500 บาท ถึง 2,500 บาท ผู้ที่สนใจสามารถจองบัตรได้ที่ Thaiticketmajor ทุกสาขา หรือผ่านเว็บไซต์ https://www.thaiticketmajor.com/performance/the-tiger-who-came-to-tea.html

เกี่ยวกับละครเวทีเรื่อง "เสือที่มาดื่มชา"

"เสือที่มาดื่มชา" เป็นละครเวทีที่สนุกสนานและน่ารักที่ดัดแปลงจากนิทานเด็กสุดคลาสสิกของ Judith Kerr เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหญิงชื่อ Sophie ที่ได้รับการเยี่ยมเยือนโดยแขกที่ไม่คาดคิด ซึ่งก็คือ "เสือใจดี" เสือที่กินและดื่มทุกอย่างในบ้านของเธอ นับตั้งแต่การตีพิมพ์ครั้งแรกในปีค.ศ. 1968 เรื่องราวของ Kerr ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ตัวละครที่มีความตลกขบขัน และการจัดฉากที่ดึงดูดสายตา ทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่

เกี่ยวกับ Curtain Up Studios และ Bangkok Theatre Project

Curtain Up Studios มุ่งมั่นที่จะนำละครเวทีระดับโลกมาสู่กรุงเทพฯ พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้ชมทุกวัยได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของการแสดงสด โดยละคร "เสือที่มาดื่มชา" เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ผ่านละครเวทีและศิลปะการแสดง ร่วมกับทาง Bangkok Theatre Project ซึ่งมุ่งสร้าง community ละครเวทีสำหรับเด็กและครอบครัวในกรุงเทพฯ โดยคัดสรรผลงานคุณภาพสูงที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ออกแบบพื้นที่ใช้ชีวิตเพื่อคนรักสัตว์ สมาชิกคนสำคัญของครอบครัว

ศุภาลัย เปิดบ้านต้นแบบ "SUPALAI Pet Friendly Community" ตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง

ในยุคปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงได้กลายเป็นสมาชิกที่สำคัญของครอบครัวมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรักสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาให้รองรับ Pet Friendly มากขึ้น

ศุภาลัย ตอบรับเทรนด์ Pet Humanization ด้วยบ้านต้นแบบ "SUPALAI Pet Friendly Community"

ศุภาลัย ตอบรับเทรนด์ Pet Humanization ด้วยบ้านต้นแบบ "SUPALAI Pet Friendly Community"

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ตอบรับเทรนด์ Pet Humanization ด้วยการออกแบบที่อยู่อาศัยที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ พร้อมตอบโจทย์คนรักสัตว์ ภายใต้โมเดล SUPALAI Pet Friendly Community นำเสนอดีไซน์และฟังก์ชันเพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสุขร่วมกันของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ด้วยบ้านแฝดแบบใหม่สไตล์ทรอปิคอลในโครงการศุภาลัย วิลล์ วงแหวน ลำลูกกา คลอง 7

เทรนด์ Pet Humanization กำลังมาแรง

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงและน่าจับตามองในปัจจุบันคือ Pet Humanization ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมคนยุคใหม่จำนวนมากนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อเข้ามาเติมเต็มครอบครัว และให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองเสมือนเป็นหนึ่งสมาชิกในครอบครัว ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเทรนด์นี้ ได้แก่ คนโสดมากขึ้นและคนมีลูกน้อยลง สังคมผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัดรักษาและคลายเหงา รวมถึงการเติบโตของธุรกิจสุขภาพและบริการเพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

ศุภาลัย ตอบรับเทรนด์ด้วยการออกแบบ "SUPALAI Pet Friendly Community"

ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ อย่างศุภาลัยจึงหันมาให้ความสนใจพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Pet Friendly รองรับกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง โดยได้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Pet Lovers มากมายในโครงการมานานแล้ว ตามคอนเซ็ป "Built for Real Life" บ้านที่คิดจากชีวิตจริง เพื่อสร้างสรรค์ SUPALAI Pet Friendly Community ในโครงการของศุภาลัยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันพื้นที่ Corner สำหรับแมว, การเลือกใช้วัสดุภายในบ้านที่มีความแข็งแรงและป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่ Dog's Park เอาใจน้องหมาได้วิ่งเล่นและมีกิจกรรมร่วมกัน

ทีม "Built for Pet's Life" ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยง

เพื่อการเข้าถึงความต้องการและพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ผู้อาศัยและสัตว์เลี้ยง ศุภาลัยจึงได้มีทีม "Built for Pet's Life" ศึกษาพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่สนใจโครงการและมีสัตว์เลี้ยง พร้อมทั้งประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์ของสมาชิกในทีมอไจล์เอง มาระดมสมองไอเดียจนออกมาเป็นบ้านต้นแบบที่จับต้องได้ ด้วยการดีไซน์พื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันการใช้งาน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัวและมีความสุข

บ้านแฝดในโครงการศุภาลัย วิลล์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7 ตอบโจทย์คนรักสัตว์

ในแนวคิด "Built for Cat's Life" ศุภาลัยได้ออกแบบและจัดสเปซให้ปังกว่าเดิม ด้วยการออกแบบพื้นที่บ้านแฝดในโครงการศุภาลัย วิลล์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7 ให้ตอบโจทย์คนรักสัตว์และเหมาะสำหรับครอบครัวของคนรุ่นใหม่ ด้วยพื้นที่ใช้สอย 133 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ โดยมีความพิเศษของการดีไซน์การตกแต่งภายในบ้าน ให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง และดูแลรักษาง่าย, การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับกิจกรรมของน้องแมวและเจ้าของ, พื้นที่สำหรับเก็บของของน้องแมวและผู้อยู่อาศัย, และพื้นที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานร่วมกันของน้องแมวและคุณ รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ไฮเทคและ Gadget สุดล้ำตัวเลือกใหม่สำหรับคนรักสัตว์
See More
Subaru Crosstrek 2024 bất ngờ xuất hiện tại Việt Nam, giá cao khó cạnh tranh

Subaru Crosstrek: Chiếc Crossover Đa Năng Đáng Chú Ý Trong Phân Khúc Hạng B Tại Việt Nam

Subaru Crosstrek, trước đây được biết đến với tên gọi XV, đã từng được giới thiệu tại thị trường Việt Nam cách đây 6 năm với mức giá từ 1,5 - 1,7 tỷ đồng. Với sự ra mắt của thế hệ mới, mẫu xe này được dự đoán sẽ có mức giá bán rẻ hơn, tuy nhiên vẫn khó có thể ở dưới 1 tỷ đồng, khiến việc cạnh tranh với các đối thủ SUV hạng B trở nên thách thức hơn.

Chiếc Crossover Đa Dụng Đầy Tiềm Năng

Nền Tảng Toàn Cầu Mạnh Mẽ

Subaru Crosstrek 2024 sẽ tiếp tục sử dụng nền tảng Subaru Global Platform (SGP), nhưng với những cải tiến nhằm nâng cao khả năng vận hành. So với thế hệ trước, thân xe của Subaru Crosstrek 2024 được thiết kế chắc chắn hơn, tương tự như các mẫu xe anh em Subaru Levorg và WRX.Xe được trang bị mâm 18 inch và có khoảng sáng gầm xe tối thiểu 200 mm, đảm bảo khả năng vượt địa hình. Tùy thuộc vào phiên bản, Subaru Crosstrek 2024 có trọng lượng từ 1.540 - 1.620 kg. Với kích thước dài 4.480 mm, rộng 1.800 mm, Crosstrek 2024 dài hơn 15 mm so với thế hệ trước. Chiều cao xe là 1.580 mm và chiều dài cơ sở 2.670 mm. Đáng chú ý, ở thế hệ thứ 3 này, Crosstrek được trang bị đèn pha LED hoàn toàn cũng như đèn LED chiếu sáng góc cua, lần đầu tiên xuất hiện trên các mẫu xe của Subaru.

Nội Thất Được Nâng Cấp Toàn Diện

Trong khi thiết kế ngoại thất của Subaru Crosstrek 2024 vẫn giữ vẻ cứng cáp và nam tính, nội thất của mẫu xe này đã trải qua một cuộc "đại phẫu" để phù hợp với hệ thống thông tin giải trí mới. Crosstrek 2024 sử dụng một màn hình cảm ứng 11,6 inch đặt dọc, tương tự như các mẫu xe khác của Subaru ra mắt gần đây, nhưng không có cụm đồng hồ kỹ thuật số hoàn toàn giống với Levorg hoặc WRX S4 phiên bản Nhật.Hãng xe Nhật Bản cũng đã thiết kế lại ghế ngồi trên Subaru Crosstrek 2024 để cải thiện sự thoải mái và giảm độ rung lắc. Các kỹ sư của Subaru đã lắp đặt các vật liệu giảm âm mới, đồng thời thực hiện những tinh chỉnh cho hệ thống lái trợ lực điện và gói công nghệ an toàn EyeSight mới nhất.

Sức Mạnh Từ Động Cơ Hybrid và Dẫn Động 4 Bánh

Tất cả các phiên bản Subaru Crosstrek tại Nhật Bản đều được trang bị động cơ Boxer 2.0 hybrid. Động cơ này kết hợp giữa máy xăng 2.0 lít, sản sinh công suất 145 mã lực tại 6.000 vòng/phút và mô-men xoắn cực đại 188 Nm tại 4.000 vòng/phút, cùng với mô-tơ điện 13,6 mã lực và mô-men xoắn 65 Nm. Động cơ này kết hợp với hộp số tự động vô cấp và hệ dẫn động 4 bánh toàn thời gian AWD.Theo một số đại lý, Subaru Crosstrek/XV sẽ chính thức ra mắt thị trường Việt Nam vào cuối năm 2024 hoặc đầu năm 2025. Hiện tại, lô xe Subaru Crosstrek đầu tiên đã cập cảng Việt Nam và đang chờ hoàn thiện các thủ tục tiếp theo để có thể được giới thiệu và bán ra. Các đối thủ cạnh tranh chính của Crosstrek trong phân khúc SUV hạng B tại Việt Nam bao gồm Honda HR-V, Toyota Yaris Cross, Skoda Karoq và Lynkco 06.
See More