ความบันเทิง
ชวนเปิดมุมมองแห่งความหลากหลาย ผ่านเทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+

ประเพณีแห่งความหลากหลาย: ประสบการณ์มุมมองใหม่ที่ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" มอบให้

เมื่อความเท่าเทียมกำลังเบ่งบานอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนกำลังค้นหาความหมายในตัวตนของตัวเอง และพร้อมจะร่วมเฉลิมฉลองพลังแห่งความเท่าเทียมในงาน "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" เทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ ครั้งแรกในประเทศไทย ที่จะนำเสนอเรื่องราวความหลากหลายทางเพศในสังคมผ่านผลงานภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ

เปิดประตูสู่ประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นรอคอยคุณ

ความสำคัญและเป้าหมายของเทศกาล "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024"

เทศกาล "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" มีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างความตระหนักรู้และการยอมรับในความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย พร้อมกับผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก ผ่านการสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และความร่วมมือในระดับนานาชาติ งานเทศกาลนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศผ่านผลงานภาพยนตร์ชั้นนำจากทั่วโลก และเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงทักษะและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิม ๆ

กิจกรรมไฮไลต์ที่ห้ามพลาด

งาน "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" มีกิจกรรมมากมายที่จะสร้างความตื่นเต้นและประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้เข้าร่วม อาทิ การเดินพรมแดงต้อนรับศิลปินและดาราชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ, การเสวนากับผู้กำกับภาพยนตร์ระดับโลก อันจะเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ลึกซึ้งกับความลับและแนวโน้มวงการภาพยนตร์ LGBTQ+, รวมถึงการประกวดภาพยนตร์สั้นที่จะช่วยค้นหาและส่งเสริมศักยภาพของนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้มุมมองแปลกใหม่เกี่ยวกับประเด็นความเท่าเทียมและความหลากหลาย

ภาพยนตร์ LGBTQ+ ชั้นนำจากทั่วโลก

ภายในเทศกาลจะมีการคัดสรรภาพยนตร์ LGBTQ+ คุณภาพสูงจาก 14 ประเทศทั่วโลก อาทิ Before I Change My Mind, Splendid Isolation, Big Boys, Solids by the Seashore, Days และ Vera and the Pleasure of Others ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลชั้นนำ และจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศให้แก่ผู้ชม นอกจากนี้ยังมีการนำภาพยนตร์คลาสสิกของไทยอย่าง "ฉันผู้ชายนะยะ" และ "รักแห่งสยาม" กลับมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอีกครั้ง

บทบาทของ "ไทย" ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับสากล

การจัดงาน "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการยอมรับในความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการผลิตและความร่วมมือระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์และบทบาทของไทยในเวทีสากล
“ดวงใจเทวพรหม” ส่งตัวละครกลับสู่นิยาย ยอมรับมาชอบคู่ไหน!? | daradaily

ละครบันทึกนิทาน "ดวงใจเทวพรหม" ปล่อยพลังอัศจรรย์ครองใจแฟนๆ

ทีวีดรามาซีรีส์ "ดวงใจเทวพรหม" ภาคต่อจากผลงานฮิต "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ได้กลับมาฉายเรียกเสียงเชียร์คึกคักจากแฟนๆ อีกครั้ง โดยนำนักแสดงระดับดาวมาประชันบทบาทแบบสุดมันส์ ทั้งความรัก ความผูกพัน และความขัดแย้งระหว่างตัวละคร ส่งผลให้ละครเรื่องนี้ทำกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม

คู่จิ้นที่ครองใจแฟนๆ ไปแล้ว!

จุดประกายความรักในละครพาสติ๊ก

เรื่องแรกในซีรีส์ "ดวงใจเทวพรหม" คือ "ลออจันทร์" นำแสดงโดย "กลัฟ คณาวุฒิ" ที่ได้จีน่า ญีนา มาประกบคู่ ซึ่งทั้งคู่สร้างสีสันให้กับละครด้วยเคมีที่ลงตัวและตอบรับแฟนๆ อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ฉากการพบรักระหว่างลออจันทร์และจีน่า เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน ด้วยบทบาทที่สมชื่อและการแสดงที่เนียนตรึงใจ พวกเขาทำให้ความรักของตัวละครเป็นเรื่องที่ใกล้ชิดและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

เคมีระเบิดปล่อยคูณค่าละครจากคนคู่จิ้น

ตอนต่อมาคือ "ขวัญฤทัย" ที่เป็นปรากฏการณ์เด่นของละครชุดนี้ โดยเฉพาะการพบกันของคู่นักแสดง "ไมกี้ ปณิธาน" และ "ญดา นริลญา" ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับละครในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งพวกเขายังผลิตผลงานความคลิกที่จับใจและเข้าถึงแฟนๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการพัฒนาตัวละครและความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างน่าติดตาม จนทำให้ "ปณิดา" กลายเป็นคู่จิ้นสุดฮอตติดริมฝีปากแฟนๆ

ความแตกต่างที่ลงตัวโดนใจในละครดราม่า

ภาคต่อมาคือ "ใจพิสุทธิ์" ที่มีการพบกันของ "เทศน์ ไมรอน" และ "อุ้ม อิษยา" เป็นปมหลักของเรื่อง ความต่างกันของบุคลิกและภูมิหลังที่แตกต่างกันของทั้งคู่ สร้างความขัดแย้งและความรักที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังผสานความเคมีระหว่างทั้งคู่ได้อย่างลงตัวตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ความสัมพันธ์ของเทศน์และอุ้มเป็นอีกหนึ่งคู่จิ้นที่ไม่อาจลืมเลือน

ความลงตัวของคู่ขัดแย้งที่แฝงด้วยความหวานชื่น

ต่อมาคือ "ดุจอัปสร" ที่มีการประชันบทบาทระหว่าง "กองทัพ พีค" และ "มิ้นท์ รัญชน์รวี" ซึ่งแม้จะเป็นตัวละครที่มีอุปนิสัยตรงกันข้ามกัน แต่เมื่อได้มาพบปะและรู้จักกัน กลับพัฒนาความสัมพันธ์เป็นความรักที่ลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ ฉากแรกๆ ที่มีการชกต่อยและข่มขู่กันของพวกเขาสร้างความตื่นเต้นและเร้าใจแฟนๆ ไปตลอดจนจบเรื่อง

เคมีบวกเรตติ้งไม่เบาในละครโรแมนติกคอมเมดี้

ตอนสุดท้ายคือ "พรชีวัน" ที่มีการโคจรมาพบกันของ "เก้า นพเก้า" และ "พีพี ปุญญ์ปรีดี" เป็นอีกหนึ่งคู่จิ้นที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับละคร ด้วยความเคมีที่ลงตัวและการแสดงที่สุดประทับใจ ทั้งยังยกระดับความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้เรตติ้งของทุกตอนของละครดีเยี่ยม ซึ่งยิ่งทำให้ "ชีวีน" เป็นที่ติดตามของแฟนๆ ไปตลอดการออกอากาศแม้ละครชุด "ดวงใจเทวพรหม" จะมาจบลงแล้ว แต่คู่นักแสดงและความสัมพันธ์ต่างๆ ในละครจะยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ ไปอีกนาน เนื่องจากความเคมี ความสนุก และความประทับใจที่พวกเขาสร้างขึ้นมา จะไม่มีวันลบเลือนจากใจแฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
See More
ฟังหูไว้หู! เพจดังแฉตลกขายรถผิดกฎหมายเรื่องนี้บอกเลยแซ่บ

รอดรุ่นได้หรือเปล่า? เมื่อตลกดังกลายเป็นตลกขายรถผิดกฎหมาย

วงการตลกเป็นวงการหนึ่งที่เริดได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยความสามารถในการสร้างความบันเทิงและความสนุกสนานให้กับผู้คน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข่าวว่ามีตลกดังคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเข้าขายหลอกลวงในเรื่องธุรกิจขายรถ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากสังคมในแง่ของการเชื่อถือและความน่าเชื่อถือของวงการตลกโดยรวม

ตลกดังตกอับ? ใช่เวลาที่จะต้องเอาฝืดทีจะเป็นขึ้นมาพิสูจน์ตัวเอง!

ตลกขายรถยนต์ผิดกฎหมายหรือไม่?

ตามที่เจ๊มอย 108 V1 เผยแพร่ข้อมูลผ่านเพจดังของเธอ ระบุว่า มีตลกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการหลอกลวงหรือการกระทำที่ผิดกฎหมายในเรื่องการขายรถยนต์ โดยกล่าวว่า เมื่อลูกค้าไม่ซื้อรถ เขาก็จะยึดเงินมัดจำเอาเปรียบลูกค้าอย่างไม่มีความปรานี ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แม้ว่าตลกคนนี้จะมีชื่อเสียงในวงการก็ตามจากการที่มีผู้ติดตามเพจ เจ๊มอย 108 V1 หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เคยเห็นตลกขายรถคนหนึ่งในวงการ ตต. แต่ยังไม่มั่นใจว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ และได้เตือนว่า แทนที่จะใช้ชื่อเสียงในทางที่ผิด กลับควรใช้ชื่อเสียงนั้นไปในทางที่ดีและสร้างสรรค์ให้กับสังคมมากกว่า เพราะตลกที่ขายรถผิดกฎหมายมีไม่มากนักจะเห็นได้ว่า การที่ตลกคนนี้ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายการหลอกลวงในการขายรถยนต์นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของวงการตลกโดยรวมได้ หากข้อกล่าวหาเป็นจริง ตลกคนนี้ก็จะต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

ตลกดังควรใช้ชื่อเสียงในทางที่ถูกต้อง

จากกรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ตลกที่มีชื่อเสียงนั้น ควรใช้ชื่อเสียงและความนิยมของตนเองในทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ควรนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายหรือทำให้ตนเองและวงการตลกโดยรวมเสื่อมเสียดังนั้น หากข้อกล่าวหาเป็นจริง ตลกคนนี้ก็ควรมีความรับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์และชี้แจงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการหลอกลวงแต่อย่างใด และเพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงของตัวเองและวงการตลกโดยรวมด้วย

ความน่าเชื่อถือของวงการตลกถูกตั้งคำถาม

ประเด็นนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดผลกระทบกับชื่อเสียงของตลกคนนี้เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของวงการตลกโดยรวมด้วย เพราะหากมีตลกคนอื่นๆ ที่ถูกพบว่ามีพฤติกรรมในทำนองเดียวกัน ก็อาจส่งผลให้สาธารณชนลดความเชื่อมั่นในวงการนี้ลงดังนั้น ตลกที่มีชื่อเสียงในวงการ ควรตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของตนเองและวงการโดยรวม เพื่อให้สาธารณชนยังคงให้การยอมรับและไว้วางใจต่อไป ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงการตลกได้ในระยะยาว
See More