นักกีฬาทีมชาติไทยคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ 2024 รับเงินสนับสนุนกว่า 3.2 ล้านบาทจากโอสถสภา

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย ได้จัดงานต้อนรับและมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อแสดงความยินดีและสนับสนุนความสำเร็จของนักกีฬาเหล่านี้

โอสถสภาสร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาและเยาวชนไทยด้วยการมอบรางวัลเงินสนับสนุนอย่างสุนทริยะ

การต้อนรับและมอบเงินสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทย

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย "บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ได้จัดงานต้อนรับและมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทย ที่บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่หัวหมาก อาคาร 5 ชั้น 1 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมโอสถสภาได้จัดขบวนแห่ฉลองเพื่อต้อนรับนักกีฬาฮีโร่โอลิมปิกทีมชาติไทย และได้มอบเงินรางวัลอัดฉีดรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,200,000 บาท ให้แก่นักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีคณะผู้บริหารระดับสูง พนักงาน ตัวแทนจากสมาคมกีฬา นักกีฬา พันธมิตรและคู่ค้าของบริษัทเข้าร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

เงินรางวัลอัดฉีดที่มอบให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทย

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินรางวัลแห่งความสำเร็จให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ดังนี้"เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองเทควันโด 1,000,000 บาท"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เหรียญเงินแบดมินตัน 500,000 บาท "ฟ่าง" ธีรพงศ์ ศิลาชัย เหรียญเงินยกน้ำหนักชาย 500,000 บาท"เวฟ" วีรพล วิชุมา เหรียญเงินยกน้ำหนักชาย 500,000 บาท"บี" จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เหรียญทองแดงมวยสากลหญิง 300,000 บาท"ออย" สุรจนา คำเบ้า เหรียญทองแดงยกน้ำหนักหญิง 300,000 บาทนอกจากนี้ บริษัทยังได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้กับ "ส้ม" ดวงอักษร ใจดี นักยกน้ำหนัก รุ่นมากกว่า 81 กก.หญิง ที่ไม่ได้เหรียญรางวัล และ พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยหญิงของไทย อีกคนละ 50,000 บาท

ความมุ่มุ่นทุ่มเทของนักกีฬาทีมชาติไทย สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทย

นางวรรณิภา ภักดีบุตร เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 40 ปี โอสถสภาได้ให้การสนับสนุนวงการกีฬาในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ มวยสากล, ยกน้ำหนัก, จักรยาน, ตะกร้อ, เทเบิลเทนนิส และกีฬาทางอากาศและการบิน ผ่านการทำ Sport Sponsorship ภายใต้แบรนด์ "เอ็ม-150" และ "เอ็ม-สปอร์ต" เนื่องจากบริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของกีฬา จึงมีนโยบายในการสนับสนุนวงการกีฬาและนักกีฬาไทยให้มีโอกาสและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยและประเทศไทยนางวรรณิภากล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของนักกีฬาทุกคนในครั้งนี้ได้สร้างความสุขให้กับคนไทยและสร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬา รวมถึงเยาวชนที่มีความชื่นชอบและมีความใฝ่ฝันเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในอนาคต โอสถสภาจึงขอมอบเงินรางวัลนี้เพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเทของนักกีฬา โดยพร้อมยืนหยัดเป็นพลังสนับสนุนวงการกีฬาและนักกีฬาไทยทุกคนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยและนำความสุขมาสู่คนไทยทุกคน

นักกีฬาทีมชาติไทยแสดงความขอบคุณ

ขณะที่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวฮีโร่เหรียญทอง กล่าวว่า ขอบคุณทางโอสถสภาที่มอบเงินสนับสนุนให้กับนักกีฬาไทย และตนเองที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 3 รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มาที่นี่ และต้องขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังเชียร์ตลอดมาส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่หนุ่มเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 กล่าวว่า ต้องขอบคุณโอสถสภาที่มอบเงินอัดฉีดให้กับตนเอง และในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งหน้าในปี 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ตั้งเป้าหมายที่จะคว้าเหรียญทองกลับมาให้ได้

ตำนานแห่งการแสดงศิลปะการต่อสู้ เฉินหลง กลับมารับหน้าที่ผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิกอีกครั้ง

แจ็กกี้ ชาน หรือ เฉินหลง นักแสดงศิลปะการต่อสู้ชาวฮ่องกงและดาราฮอลลีวูดวัย 70 ปี ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะผู้แทนถือคบเพลิงพาราลิมปิกไปยัง 50 เมืองทั่วประเทศฝรั่งเศส ก่อนการแข่งขันพาราลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะเปิดฉากขึ้นหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน 2567

ตำนานแห่งการต่อสู้ ที่คงไว้ซึ่งตำแหน่งผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิก

ตำนานการแสดงศิลปะการต่อสู้ของ เฉินหลง

เฉินหลง หรือที่รู้จักในนาม "แจ็กกี้ ชาน" เป็นตำนานแห่งการแสดงศิลปะการต่อสู้ในวงการภาพยนตร์ระดับโลก นอกจากทักษะอันโดดเด่นในด้านการต่อสู้แล้ว เขายังเป็นนักแสดงที่มีความสามารถในการกำกับภาพยนตร์และผลิตภาพยนตร์ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในดาราชื่อดังจากวงการฮอลลีวูดที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ใหม่ให้กับภาพยนตร์แอ็กชั่น ก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ถือคบเพลิงพาราลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ในครั้งนี้

ประวัติความเป็นมาของ เฉินหลง

เฉินหลง เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ปี 1954 ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางในย่านโปโลกราว เมืองฮ่องกง เขาเป็นบุตรชายของเฉินฮาว ซึ่งเป็นโรงแรมพื้นเพจีน และแม่ของเขาคือ เฉินลีรุ่น เมื่ออายุ 7 ขวบ เขาได้เริ่มเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ตามความต้องการของพ่อซึ่งต้องการให้เขาเป็นนักต่อสู้ที่มีฝีมือ ในขณะเดียวกัน เฉินหลงก็มีความสนใจในการแสดงและภาพยนตร์เป็นอย่างมาก จนในที่สุดเขาก็ได้เปลี่ยนเส้นทางจากนักต่อสู้มาเป็นนักแสดง

ความสำเร็จในวงการฮอลลีวูดของเฉินหลง

เฉินหลงเริ่มต้นอาชีพการแสดงครั้งแรกในปี 1976 เขาแสดงบทบาทเล็กๆ ในภาพยนตร์ชื่อว่า "The New Fist of Fury" ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ต่อมาเขาก็ได้รับบทบาทที่โดดเด่นในภาพยนตร์เรื่อง "Drunken Master" ในปี 1978 ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ของเขา หลังจากนั้นเฉินหลงก็ได้รับบทบาทนำในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงอย่าง "Police Story" และ "Rumble in the Bronx" ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในดาราชื่อดังของวงการภาพยนตร์แอ็กชั่นระดับโลก

การมีส่วนร่วมในการแข่งขันโอลิมปิกของ เฉินหลง

นอกจากความสำเร็จในวงการภาพยนตร์แล้ว เฉินหลงยังมีส่วนร่วมในพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยเข้าร่วมพิธีในโอลิมปิก เอเธนส์ 2004, ปักกิ่ง 2008, โอลิมปิกฤดูหนาวพยองชาง 2018 และโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 ในฐานะผู้ถือคบเพลิง ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับเขา และเป็นการแสดงถึงการยอมรับในชื่อเสียงและความสามารถของเขาในฐานะตำนานแห่งวงการศิลปะการต่อสู้จากทั่วโลก

การได้รับเลือกเป็นผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024

ในครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานพาราลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ได้ประกาศว่า เฉินหลง จะถือคบเพลิงในช่วงบ่ายวันพุธที่ 28 สิงหาคมนี้ ณ กรุงปารีส เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนพิธีเปิดการแข่งขันจะเปิดเริ่มขึ้น นับเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับเขาที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ถือคบเพลิงโอลิมปิกครั้งนี้ โดยนอกเหนือจาก เฉินหลง แล้ว ยังมีนักแสดง นักเต้น และนักบินอวกาศที่มีชื่อเสียงร่วมเป็นผู้ถือคบเพลิงในครั้งนี้ด้วย

โอสถสภายืนหยัดเป็นพลังสนับสนุนอัดฉีดเงินรางวัลแก่ฮีโร่โอลิมปิก

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท โอสถาสภา จำกัด (มหาชน) จัดงานต้อนรับและมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับคณะนักกีฬาทีมชาติไทย ทั้ง 6 คน ที่คว้าเหรียญจากศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส โดยมีผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น

ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพรายใหญ่ของไทย พร้อมส่งกำลังใจให้นักกีฬาได้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ชื่อดังมอบเงินรางวัลแห่งความสำเร็จแก่นักกีฬาโอลิมปิก 2024

บริษัท โอสถาสภา จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญจากศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในปารีส ฝรั่งเศส โดยมอบเหรียญทอง 1,000,000 บาท เหรียญเงิน 500,000 บาท และเหรียญทองแดง 300,000 บาท รวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 3,200,000 บาท ให้แก่ 6 นักกีฬา ได้แก่ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์, "ฟ่าง" ธีรพงศ์ ศิลาชัย, "เวฟ" วีรพล วิชุมา, "บี" จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง และ "ออย" สุรจนา คำเบ้า นอกจากนี้ยังมอบเงินพิเศษให้กับ "ส้ม" ดวงอักษร ใจดี และ พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ อีกคนละ 50,000 บาท

องค์กรชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพติดตามและสนับสนุนกีฬาไทยอย่างต่อเนื่อง

นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท โอสถาสภา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนวงการกีฬาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนสมาคมกีฬาต่างๆ ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สมาคมกีฬามวยสากล, สมาคมกีฬายกน้ำหนัก, สมาคมกีฬาจักรยาน, สมาคมกีฬาตะกร้อ, สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส และสมาคมกีฬาทางอากาศและการบิน ผ่านการทำ Sport Sponsorship เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญของกีฬา และมีนโยบายสนับสนุนนักกีฬาไทยให้มีโอกาสและเติบโตทั้งในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับคนไทย

ความสำเร็จของนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2024 สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชน

ความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทยในการคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ได้สร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่มีความชื่นชอบและมีความฝันที่จะเป็นตัวแทนของทีมชาติไทยในอนาคต บริษัท โอสถาสภา จึงได้มอบเงินรางวัลแห่งความสำเร็จนี้เพื่อตอบแทนความทุ่มเทและพลังใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดของนักกีฬาทั้ง 6 คน

นักกีฬาแสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนของโอสถาสภา

"น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงที่คว้าเหรียญทอง กล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นและขอบคุณทางโอสถาสภาที่มอบเงินสนับสนุนให้กับนักกีฬาไทย โดยเฉพาะตัวเธอที่คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 3 สมัย ในขณะที่ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวที่ได้เหรียญเงิน ก็ได้แสดงความขอบคุณต่อโอสถสภาที่มอบเงินอัดฉีด และตั้งเป้าหมายไว้ว่าในศึกโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไปในปี 2028 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เขาจะพยายามคว้าเหรียญทองกลับมาให้ได้