สัตว์เลี้ยง
ซื้อ ขายแมวกับ ENNXO แพลตฟอร์มที่ฟาร์มแมวถูกใจ คนหาบ้านให้น้องเหมียวชอบ
ช่องทางการซื้อขายแมวออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น

เปิดโลกการซื้อขายสัตว์เลี้ยงแมวออนไลน์สุดครบวงจร

ในช่วงที่ผ่านมา ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าของผู้บริโภคไปอย่างมาก โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าประเภทสัตว์เลี้ยง อย่างแมวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากความน่ารัก เอาใจใส่ และความเป็นเพื่อนที่ดีของแมว ที่ช่วยให้ผู้เลี้ยงรู้สึกอบอุ่นและลดความเหงาในช่วงกักตัวที่บ้าน

พื้นที่ซื้อขายแมวออนไลน์ที่ครบวงจรที่สุด

แพลตฟอร์มซื้อขายแมวออนไลน์ที่ไม่เหมือนใคร

ENNXO คือแพลตฟอร์มซื้อขายแมวออนไลน์ที่ถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่ทันสมัย สวยงาม และใช้งานง่าย ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหมดสีของแพลตฟอร์มได้ตามความต้องการ ทั้งโหมดสว่าง โหมดมืด หรือตามระบบ เพื่อให้เกิดความสบายตาในการใช้งาน นอกจากนี้ยังได้มีการจัดเรียงฟังก์ชันการใช้งานอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นปุ่มสมัครสมาชิก ปุ่มลงขาย หรือหมวดหมู่ต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย

ENNXO ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของผู้ใช้งาน โดยมีระบบยืนยันตัวตนที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ยังมีระบบแชทที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรง เพื่อสร้างความมั่นใจในกระบวนการซื้อขาย ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การซื้อขายแมวเป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือแล้ว ENNXO ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การซื้อขายแมวเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น การลงขายแมวฟรี ซึ่งช่วยให้ผู้ขายแมวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงประกาศขาย และยังมีฟีเจอร์ "ดันประกาศ" ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายแมวให้กับผู้ขาย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ "ตัวกรอง" ที่จะช่วยให้ผู้ซื้อสามารถค้นหาแมวที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยสามารถกรองตามสายพันธุ์ ราคา และจังหวัดที่ต้องการ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้รับประสบการณ์ที่ดีในการซื้อขายแมว

จุดเด่นที่ทำให้ ENNXO เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการซื้อขายแมว

นอกจากฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายแมวแล้ว ENNXO ยังมีจุดเด่นในด้านอื่นๆ อีก เช่น การมี "เกร็ดความรู้" ท้ายหน้าซื้อขายแมวแต่ละสายพันธุ์ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแมวในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกซื้อ สายพันธุ์แมวที่นิยม หรือแม้กระทั่งราคาแมวในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ซื้อที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ ENNXO ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขายแมวสามารถลงประกาศขายได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนในการขายแมวให้กับผู้ขาย และยังทำให้ผู้ขายแมวสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น

ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายแมว

ด้วยจุดเด่นและฟีเจอร์ต่างๆ ที่กล่าวมา ทำให้ ENNXO เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายแมว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฟาร์มแมวที่ต้องการสร้างรายได้จากการขายแมว หรือกลุ่มคนทั่วไปที่ต้องการหาบ้านใหม่ให้กับน้องเหมียว ก็สามารถใช้บริการ ENNXO ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย เพียงแค่ลงทะเบียนเป็นสมาชิก และเลือกซื้อ หรือลงประกาศขายแมวตรงหมวดหมู่ "แมว" ก็จะพบกับน้องเหมียวสุดน่ารักที่ถูกต้องใจ
BIS งบ Q2/67 ทะยานทำนิวไฮกำไรพุ่ง 54.66% จ่อเปิดแพลตฟอร์ม PADI รับเทรนด์ Pet Humanization : อินโฟเควสท์

แบรนด์สัตว์เลี้ยงครบวงจรของ ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ เติบโตแข็งแกร่ง คว้ารายได้และกำไรสูงสุดในไตรมาสที่ 2

บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ (BIS) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและโภชนาการสำหรับสัตว์ เปิดเผยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 โดยบันทึกรายได้และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตในตลาดสัตว์เลี้ยงและการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศได้ประสบความสำเร็จ

ฟันฝ่าสภาวะเศรษฐกิจที่ทาทันได้ ด้วยสินค้าแบรนด์ BIS ที่โดดเด่นในตลาด

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ที่โดดเด่น

ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ สามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) โดยมีรายได้รวม 603.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 17.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.66% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสารเสริมคุณค่าอาหารสัตว์ อาหารสำเร็จรูป และเวชภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพด้านสถานการณ์ในครึ่งปีแรก ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ สามารถสร้างรายได้รวม 1,177.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.68% และมีกำไรสุทธิ 31.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ

กลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้ไบโอซายน์ฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ตามที่ นายสัตวแพทย์ สุชาติ วรวุฒางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BIS เปิดเผย ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผลประกอบการแข็งแกร่ง ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์สารเสริมคุณค่าอาหารสัตว์ อาหารสำเร็จรูป และเวชภัณฑ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มปศุสัตว์ครบวงจรสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง BIS มุ่งเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่1) การเพิ่มอัตรากำไร โดยเน้นสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ยา สารเสริม และชุดตรวจ และมุ่งเน้นในตลาดที่มีมูลค่าสูง อย่างกลุ่มสัตว์เลี้ยง (Pet) และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโรงงานและสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์2) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการขยายฐานลูกค้ากลุ่มปศุสัตว์ครบวงจร และพัฒนาช่องทางการขายเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (B2C) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของทีมขายและปรับปรุงบริการ เพื่อสร้างความพึงพอใจและรักษาลูกค้า3) การขยายตลาดต่างประเทศ มุ่งเติบโตในตลาด CLMV และเริ่มดำเนินธุรกิจในเวียดนามในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยมุ่งเน้นตลาดสุกรและสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนในอนาคต

มุ่งเป้าเติบโตตลาดสัตว์เลี้ยง (Pet) ในไทยผ่านนวัตกรรมบริการครบวงจร

ด้วยเทรนด์ Pet Humanization หรือการมองสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงดังนั้น ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จึงเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเทรนด์นี้ ด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มสัตว์เลี้ยง (Pet) และขยายตลาดสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไร และตอบสนองความต้องการของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงได้อย่างตรงจุดนอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม PADI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ให้บริการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา คำแนะนำการวางแผนประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงการเชื่อมโยงเจ้าของสัตว์เลี้ยงกับผู้ให้บริการต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นช่องทางในการขยายตลาดสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ของ BIS ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
See More
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดโผ Gross Rental Yield ตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้โตต่อเนื่อง
การเติบโตของคอนโดมิเนียมสำหรับเลี้ยงสัตว์: โอกาสและศักยภาพที่น่าสนใจจากรายงานของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พบว่า ในปี 2566-2567 มีความต้องการเช่าคอนโดมิเนียมสำหรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากผู้เช่ากลุ่มผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง (Pets Parents) ซึ่งรวมทั้งคนทำงานและนักศึกษา ท่ามกลางการเติบโตของไลฟ์สไตล์เมืองใน 3 พื้นที่ยอดฮิต คือ รามคำแหง ลาดพร้าว และพัฒนาการ"แม่พิมพ์ของการใช้ชีวิตที่โดดเด่น"

ยกระดับความต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับเลี้ยงสัตว์

ด้วยวิสัยทัศน์ของ "CRAFTING LIFESCAPE TO EXCELLENCE" เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สะท้อนความเป็นเลิศด้าน Craft & Quality เพื่อตอบโจทย์ Lifescape ในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ได้รับการออกแบบให้เป็น Pet Family Residences รองรับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ทั้งหมด 100% เพื่อสร้างความสุขอย่างเท่าเทียม ทำให้ได้รับการตอบรับสูงจากลูกค้าถึง 43% ที่เลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัย และอีก 37% ที่เป็นการซื้อเพื่อการลงทุน ทั้งในรูปแบบของการขายและการให้เช่า

3 ทำเลศักยภาพคอนโดสำหรับเลี้ยงสัตว์

โซนรามคำแหง: ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์และความเชื่อมต่อที่ครบครัน

ย่านรามคำแหงกำลังพัฒนาเป็น "ครีเอทีฟ ฮับ (Creative HUB)" ที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักศึกษาและผู้อยู่อาศัย ประกอบกับการเชื่อมต่อด้วยเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยและการรองรับแรงงานสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรา Gross Rental Yield ในย่านนี้อยู่ที่ 4.6% - 6.0% โดยเฉพาะโครงการ เมทริส พระราม 9 – รามคำแหง (METRIS Rama 9 – Ramkhamhaeng) ที่ได้รับความสนใจจากผู้เช่าเป็นจำนวนมาก

โซนลาดพร้าว: ใจกลางธุรกิจศูนย์กลางที่เติบโต

พื้นที่ลาดพร้าวกำลังเป็นย่าน NEW CBD ใหม่ของกรุงเทพฯ ที่รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์ราชการ สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า พร้อมทั้งการเชื่อมต่อด้วยระบบรถไฟฟ้าที่สะดวกสบาย ส่งผลให้อัตรา Gross Rental Yield ในปี 2567 อยู่ที่ 4.7% - 5.0% โดยเฉพาะโครงการ เมทริส ลาดพร้าว (METRIS Ladprao) ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบแนว Modernist และ Retro ที่ผสานกลมกลืน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งสำหรับผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง

โซนพัฒนาการ: ศูนย์กลางการคมนาคมและการใช้ชีวิต

พื้นที่พัฒนาการเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุน โดยมีความสะดวกสบายในการเข้าถึงกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ ควบคู่ไปกับการเชื่อมต่อด้วยระบบรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และศูนย์การค้า รวมถึงสถานศึกษานานาชาติ ส่งผลให้อัตรา Gross Rental Yield ในพื้นที่นี้อยู่ที่ 5% - 6% โดยเฉพาะโครงการ เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย (METRIS Pattanakarn – Ekkamai) ที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้เช่า

อนาคตสดใสของที่อยู่อาศัยสำหรับเลี้ยงสัตว์

คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การมีสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวนั้น ส่งผลให้ความต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดเพียงแค่ 3 ทำเลข้างต้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในใจกลางเมือง เช่น สีลม พญาไท สาทร และอนุเสาวรีย์ ที่มีดีมานด์จากผู้เช่าที่ต้องการคอนโดมิเนียมสำหรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในระยะยาวเช่นกัน ซึ่งมีค่า Gross Rental Yield สูงกว่าตลาดดังนั้น สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับ 2 โครงการยอดฮิต ได้แก่ โครงการ เมทริส พัฒนาการ – เอกมัย (METRIS Pattanakarn – Ekkamai) ที่มาพร้อมรูปแบบสไตล์ Mid-Century Modern และคอนโดน้องใหม่ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว (METRIS District Ladprao) ที่มอบฟังก์ชั่นครบครันทั้งผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง
See More