กีฬา
ชัยวัฒน์ ทุบสถิติคว้าทองวีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร พาราลิมปิก 2024

สถิติ เส้นทางสู่ความสำเร็จของนักกีฬาพาราลิมปิกไทย

ความสำเร็จของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยในเกมส์ปารีส 2024 ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑา วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร คลาส T34 ของ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 3 ให้กับทีมไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้

ก้าวสู่ความสำเร็จบนเส้นทางกีฬาพาราลิมปิก

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยทำสถิติใหม่

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ปารีส 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันกรีฑา วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร คลาส T34 ที่ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ สามารถทุบสถิติเดิมของตนเองและคว้าเหรียญทองแห่งความสำเร็จ ด้วยเวลา 14.76 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่สร้างสถิติพาราลิมปิกใหม่อีกครั้ง นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ

ก้าวสู่เส้นชัยอย่างสง่างาม

นอกจากความสำเร็จของ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ แล้ว ยังมีนักกีฬาพาราลิมปิกอีกหลายคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อาทิ "กร" พงศกร แปยอ ที่ทำได้ในประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.T53 และ "เจมส์" วรวุฒิ แสงอำภาในการแข่งขัน บอคเซีย บุคคล BC2 โดยนักกีฬาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นแบบที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วประเทศ

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

การที่นักกีฬาพาราลิมปิกไทยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 นั้น ก็เป็นผลมาจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทางภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬาพาราลิมปิก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาเหล่านี้ในการพัฒนาตนเอง และยกระดับการแข่งขันให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กกท. จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลก “Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT”

ตื่นตาตื่นใจกับการแข่งขันกรีฑาระดับโลก "Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024" ที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่

ประเทศไทยยืนหยัดอย่างมั่นคงในเวทีการกีฬาระดับโลก โดยล่าสุด การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลกรายการ "Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT" ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 3 ในประเทศไทย

สะท้อนความพร้อมและศักยภาพการจัดการแข่งขันระดับโลกของไทย

สนามกรีฑาเคลื่อนที่ระดับโลก "The FlySwat"

การแข่งขันครั้งนี้จะใช้อุปกรณ์พิเศษ "The FlySwat" ซึ่งเป็นสนามกรีฑาเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬากรีฑาโลก WA มีความยาวสูงสุดถึง 83.30 เมตร และน้ำหนักรวมทรายกว่า 25 ตัน เทียบเท่ารถบัสสองชั้นสองคัน ซึ่งจะช่วยสร้างความตื่นเต้นและความยิ่งใหญ่ให้กับการแข่งขัน

นวัตกรรมทันสมัยเพื่อความแม่นยำและความสนุกสนาน

นอกจากสนามแข่งขันที่ทันสมัยแล้ว การแข่งขันยังใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยช่วยวัดผลและแสดงผลการแข่งขัน อาทิ เลเซอร์ "PrimeLine" ที่ใช้แสดงระยะกระโดดในการแข่งขันกระโดดไกล เพื่อความแม่นยำและความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น โดยเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงาน Golden Fly Series ร่วมกับบริษัท MediaLas จากเยอรมนี

ดึงดูดนักกีฬาและนักท่องเที่ยวระดับโลก

การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการกีฬาและนวัตกรรมระดับโลก โดยจะดึงดูดนักกีฬาระดับโลกและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังเชียงใหม่ พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน

แรงบันดาลใจสู่นักกีฬารุ่นใหม่และเยาวชน

การแข่งขันในครั้งนี้ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่และเยาวชนทั่วประเทศ ได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของกีฬากรีฑาในระยะประชิด และเห็นศักยภาพของนักกีฬาระดับโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาหันมาสนใจกีฬากรีฑามากขึ้น

ผลการแข่งขัน: นักกีฬาระดับโลกพร้อมจัดเต็ม

ในการแข่งขันครั้งนี้ ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทประกอบด้วย นักกีฬาชั้นนำจากหลากหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง สาธารณรัฐเช็ก สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้ได้รับความสนใจและการให้ความสำคัญจากนักกีฬาระดับโลกเป็นอย่างมาก

การถ่ายทอดสดสู่ 150 ล้านคนทั่วโลก

นอกจากนี้ การแข่งขัน Golden Fly Series ยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยมียอดผู้ชมเฉลี่ยกว่า 150 ล้านคนต่อการแข่งขันแต่ละรายการ และมีเวลาออกอากาศเฉลี่ย 800 ชั่วโมงต่อรายการ ผ่านช่องโทรทัศน์กว่า 80 ช่องทั่วโลก ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการกีฬาของประเทศไทย และกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่
See More
โปรแกรมนักกีฬาไทยแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ประจำวันจันทร์ที่ 2 ก.ย.67

พาราลิมปิกปารีส 2024: การเดินทางสู่ความเป็นเลิศของนักกีฬาแห่งชาติไทย

การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 11 กำลังจะจัดขึ้นในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน 2567 ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญสำหรับนักกีฬาพาราทีมชาติไทย ที่จะได้แสดงศักยภาพและความสามารถในเวทีระดับโลก หลังจากที่สามารถผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ได้จำนวน 79 คน จาก 15 ชนิดกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการเข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์ของประเทศไทย

พลังแห่งความสำเร็จ: ไทยขึ้นแท่นอันดับ 20 ในตารางเหรียญรางวัล

เก็บเกี่ยวความสำเร็จในวันแรก

ทีมพาราไทยสร้างผลงานทุ่มเทที่น่าประทับใจในวันแรกของการแข่งขัน โดยสามารถคว้ารางวัลเหรียญทองได้ 2 เหรียญ จากวีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T53 โดย พงศกร แปยอ และรางวัลเหรียญทองคะแนนบุคคล BC2 จาก "เจมส์" วรวุฒิ แสงอำภา ในกีฬาบอคเซีย นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลเหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 5 เหรียญ รวมทั้งสิ้น 10 เหรียญ ทำให้ทัพพาราไทยอยู่ในอันดับที่ 20 ของตารางเหรียญรางวัล

โปรแกรมการแข่งขันของนักกีฬาไทยในวันที่ 2 กันยายน

วันที่ 2 กันยายน ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับทัพพาราไทย โดยมีนักกีฬาที่จะลงแข่งขัน ได้แก่ แบดมินตัน ในรอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยว คลาส WH1 ที่ 17.00 น. ตัวแทนจากไทย คือ สุจิรัตน์ ปุกคำ ประเดิมศึกในรอบชิงชนะเลิศด้วยการพบกับผู้เล่นจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีกรีฑา ในรายการวีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตรชาย คลาส T34 ที่ 16.24 น. มีตัวแทนจากไทย คือ ชัยวัฒน์ รัตนะ และ เทเบิลเทนนิส ใน รอบ 16 คนบุคคลชาย คลาส MS7 ที่ 15.00 น. โดยมี เฉลิมพงศ์ พันภู่ ทำการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีรอบ 16 คนบุคคลชาย คลาส MS6 ที่ 16.30 น. โดยมี รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ลงแข่งขัน และรอบ 16 คนบุคคลชาย คลาส MS4 ที่ 22.00 น. มี วันชัย ชัยวุฒิ ลงแข่งขัน และรอบ 16 คนบุคคลหญิง คลาส WS1-20 ที่ 01.45 น. มี ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา ลงแข่งขัน

ห้าว! ลุ้นเหรียญรางวัลเพิ่มเติมจากวันสองของการแข่งขัน

หลังจากที่ทีมพาราไทยสามารถคว้ารางวัลได้ในวันแรก ทั้งเหรียญทอง 2 เหรียญ เหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 5 เหรียญ ในวันที่ 2 กันยายน นักกีฬาไทยก็มีลุ้นที่จะสร้างความสำเร็จเพิ่มเติมจากการแข่งขันในรายการต่างๆ ที่กล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันในกีฬาแบดมินตัน และวีลแชร์เรซซิ่ง ซึ่งเป็นจุดแข็งของนักกีฬาไทยในการคว้ารางวัลมาครองเช่นเคย จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยให้ทีมพาราไทยเพิ่มผลงานเหรียญรางวัลมากขึ้นอีก
See More