กีฬา
“ยุทธจักร-วิจิตรา” พ่ายเต็งหนึ่งจากจีน 1 – 3 เกม คว้าเหรียญเงินปิงปองคู่ผสมพาราลิมปิก 2024 | สวพ.FM91

ความภาคภูมิใจของชาวไทยในเหรียญเงินของคู่นักแข่งพาราลิมปิก

ในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 ได้เกิดการแข่งขันเทเบิลเทนนิสอย่างดุเดือด ในรอบชิงชนะเลิศประเภทคู่ผสม คลาส XD7 โดยคู่นักแข่งจากประเทศไทย ยุทธจักร-วิจิตรา ได้ลงสู่สนามพบกับคู่แข็งแกร่งจากจีน ซึ่งผลการแข่งขันแม้จะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่ก็ถือว่าทั้งคู่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยด้วยการคว้าเหรียญเงินมาครอง

คู่นักแข่งพาราลิมปิกไทยสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

ประวัติการแข่งขัน

การแข่งขันเทเบิลเทนนิสในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของประเภทคู่ผสม คลาส XD7 ซึ่งเป็นการประลองความสามารถระหว่างนักกีฬาที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ทั้งจากประเทศไทย และประเทศจีน โดยคู่จากไทย คือ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น และ วิจิตรา ใจอ่อน ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นตัวแทนของประเทศ

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

ในรอบชิงชนะเลิศนั้น ยุทธจักร และ วิจิตรา ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับคู่แข็งอย่างคู่มือ 1 จากจีน ในสกอร์ 1-3 เกม ด้วยคะแนน 13-11, 11-7, 11-9, 11-8 ซึ่งแม้ว่าจะไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ แต่ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากที่ทั้งคู่สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และคว้าเหรียญเงินมาได้

ความภาคภูมิใจของชาวไทย

ความสำเร็จของยุทธจักรและวิจิตรา ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นตัวแทนประเทศไทยลงแข่งขันในเวทีระดับโลก และสามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้แล้ว ยังถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการกีฬาพาราลิมปิกของไทย เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยมักจะได้เหรียญทองแดงเป็นหลัก แต่ครั้งนี้ได้เหรียญเงินซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกขั้น นอกจากนี้ ผลงานของยุทธจักรและวิจิตราในการสู้อย่างเต็มที่จนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักกีฬาพาราลิมปิกรุ่นต่อไป
“รุ่งโรจน์-พิสิษฐ์” ต้านไม่ไหวพ่ายคู่แข่งจากจีน 1-3 เกม คว้าเหรียญเงินปิงปองชายคู่พาราลิมปิกเกมส์ | สวพ.FM91

การแข่งขันแข่งขันเทเบิลเทนนิสพาราลิมปิกคู่ชายคว้าเหรียญเงิน

การแข่งขันเทเบิลเทนนิสในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 โดยในรายการชิงชนะเลิศประเภทชายคลาส MD14 นั้น ทีมคู่ของนักกีฬาชาวไทยได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ

ความหวังใหม่สู่เหรียญเงิน

คู่ชายไทยยานทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศ

ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ทีมคู่ของรุ่งโรจน์ ไทยนิยม และ พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ ได้เอาชนะแชมป์เก่าจากสหราชอาณาจักรไปด้วยคะแนน 3-0 เกม เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาจะต้องเจอกับทีมคู่จากประเทศจีน คือ เฉา หยัน-เคลี เหลียว

ความเข้มข้นใน 4 เกมสุดท้าย

ในรอบชิงชนะเลิศ ทีมคู่ของรุ่งโรจน์-พิสิษฐ์ ได้สู้อย่างเต็มที่แต่ในที่สุดพ่ายให้กับคู่แข่งจากประเทศจีนด้วยสกอร์ 1-3 เกม โดยได้คะแนนเป็น 11-6, 8-11, 9-11, 7-11 อย่างไรก็ตาม การคว้าเหรียญเงินในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายินดีของนักกีฬาชาวไทย และยังถือเป็นเหรียญเงินที่ 2 ของทัพพาราลิมปิกไทยในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งรวมแล้วมีเหรียญเงิน 2 เหรียญ และเหรียญทองแดง 3 เหรียญ
See More
ทำไมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกถึงอันตรายกว่ากีฬาทั่วไป ?

กีฬาพาราลิมปิก: การค้นพบปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้น และมาตรการลดความเสี่ยง

งานวิจัยเปิดเผยว่านักกีฬาพาราลิมปิกมีความเสี่ยงสูงกว่านักกีฬาโอลิมปิกในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บที่ไหล่ การถูกกระทบกระแทก หรือการเจ็บป่วย ซึ่งสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตของนักกีฬาในระยะยาว นักวิจัยจึงพยายามหาแนวทางลดความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อให้นักกีฬาพาราลิมปิกสามารถปฏิบัติกีฬาที่ชื่นชอบได้อย่างปลอดภัย

เมื่อร่างกายต้องรับน้ำหนักมากมาย

ความเสี่ยงของนักกีฬาพาราลิมปิก

การเข็นรถเข็นวีลแชร์เป็นกิจกรรมหลักของนักกีฬาพาราลิมปิกหลายคน แต่กิจกรรมเหล่านี้กลับเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งมักพบได้ทั่วไปในผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ ทั้งนักกีฬาและคนทั่วไป เนื่องจากต้องใช้ไหล่รับน้ำหนักทุกครั้งในการเข็นรถ เข้าออกจากรถ และกิจกรรมอื่นในชีวิตประจำวัน ในการแข่งขันพาราลิมปิก นักกีฬาที่ใช้รถเข็นวีลแชร์มีความเสี่ยงสูงที่จะบาดเจ็บที่ไหล่เกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับนักกีฬาที่ไม่ใช้รถเข็น นอกจากนี้ นักกีฬาพาราลิมปิกยังมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยมากกว่านักกีฬาโอลิมปิกมากกว่าสองเท่าด้วย เนื่องจากความบกพร่องที่หลากหลายซึ่งเพิ่มความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น การเสียดสีของอวัยวะเทียมที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง

การติดตามการบาดเจ็บและเจ็บป่วย

เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงของการบาดเจ็บและดูแลสุขภาพนักกีฬาได้ดีขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มติดตามข้อมูลการบาดเจ็บและการเจ็บป่วยของนักกีฬาพาราลิมปิกอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี 2012 รวมทั้งหมดประมาณ 5,000 คน ในการแข่งขันทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยใช้ระบบการติดตามทางเว็บจากการติดตามข้อมูลนี้ พบรูปแบบของการบาดเจ็บและการเจ็บป่วยบางอย่างที่ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกการแข่งขัน เช่น ความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการบาดเจ็บที่ไหล่สำหรับผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ และความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยมากกว่านักกีฬาโอลิมปิก

ความท้าทายในการวินิจฉัยการถูกกระทบกระแทก

ปัญหาของการถูกกระทบกระแทก (concussion) ยังเป็นความท้าทายที่สำคัญในกีฬาพาราลิมปิก โดยเฉพาะกีฬาที่มีการปะทะกันบ่อย เช่น ฟุตบอล 5 คน ซึ่งผู้เล่นจะสวมผ้าปิดตาเพื่อปิดการมองเห็น ทำให้การชนกันและการกระแทกศีรษะเป็นเรื่องปกติการวินิจฉัยการถูกกระทบกระแทกในนักกีฬาที่มีความพิการนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะการทดสอบมาตรฐานที่ใช้ตรวจสอบอาการ เช่น การมองเห็นสองภาพหรือการสูญเสียการทรงตัว อาจใช้ไม่ได้กับนักกีฬาบางประเภท จึงอาจไม่ได้รับการรายงานอย่างเพียงพอ ผู้จัดการแข่งขันจึงควรนำการตรวจสุขภาพก่อนแข่งมาใช้เพื่อกำหนดค่าพื้นฐานของนักกีฬา

การปรับปรุงกีฬาเพื่อความปลอดภัย

ผลการวิจัยและการดำเนินการของผู้จัดการแข่งขันช่วยทำให้กีฬาบางประเภทปลอดภัยขึ้นแล้ว เช่น การเล่นสกีอัลไพน์ ซึ่งจากเดิมมีอัตราการบาดเจ็บสูง แต่หลังจากมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์และสภาพแวดล้อมในการแข่งขัน อัตราการบาดเจ็บลดลงอย่างมากในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2018 ที่พย็องชังนอกจากนี้ ความพยายามในการออกกำลังกายและใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บ โดยเฉพาะที่ไหล่ซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ การเสริมสร้างความแข็งแรงและการใช้อุปกรณ์ที่ลดภาระบนไหล่จะช่วยให้นักกีฬาสามารถเล่นกีฬาด้วยความปลอดภัยและดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

การส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างปลอดภัย

นักวิจัยเน้นว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพของผู้ที่มีความพิการ ไม่เฉพาะแค่ในระดับกีฬาระดับมืออาชีพ แต่รวมถึงการออกกำลังกายในระดับชุมชนด้วย การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งก่อนและหลังการแข่งขันจะช่วยให้นักกีฬาสามารถรักษาสุขภาพที่ดีและสามารถมีส่วนร่วมในกีฬาที่ชื่นชอบได้อย่างยาวนาน
See More