กีฬา
บิ๊กหยิม ร่วมหารือกระทรวงมหาดไทยหาแนวทางร่วมพัฒนาบอลเยาวชน

ช่วยพัฒนาเยาวชนผ่านกีฬาฟุตบอลและการศึกษา

สมาคมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สบท.) ได้เดินทางไปเข้าพบหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและขอรับการสนับสนุนในการจัดการศึกษาพิเศษด้านกีฬาฟุตบอล โดยมีเป้าหมายช่วยพัฒนาเยาวชนไทยให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา พร้อมเรียนรู้ทักษะกีฬาฟุตบอลเพื่อเป็นอาชีพในอนาคต

ฟุตบอลคือเครื่องมือช่วยเหลือและพัฒนาเยาวชน

ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย

"บิ๊กหยิม" ยุทธนา หยิมการุณ นายกสมาคมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สบท.) และคณะกรรมการสมาคม ได้เดินทางไปเข้าพบ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ต้อนรับ เพื่อแนะนำภารกิจของสมาคม ซึ่งมุ่งสนับสนุนช่วยเหลือสังคมและชุมชนทั่วประเทศผ่านกีฬาฟุตบอล และขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย สมาคมฯเชื่อว่าการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ จะส่งผลให้พวกเขาสามารถเดินหน้าภารกิจด้านกีฬาและการศึกษาได้อย่างเต็มศักยภาพ

หารือความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้

ต่อจากนั้น "บิ๊กหยิม" และคณะได้เดินทางไปหารือกับนายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อขอรับการสนับสนุนภารกิจของสมาคม ในด้านการจัดการศึกษาสำหรับเยาวชนที่เข้าศึกษาวิชาชีพฟุตบอล ผ่านศูนย์ TFCA โดยเยาวชนจะได้เรียนจนจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา พร้อมทั้งได้รับความรู้ด้านวิชาชีพกีฬาฟุตบอลด้วย ซึ่งจะทำให้เยาวชนมีโอกาสในการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลในอนาคต

เปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้ฟุตบอลและศึกษาต่อ

ในปีการศึกษาหน้า สมาคมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (สบท.) จะเปิดโครงการศึกษาสำหรับเยาวชนที่สนใจเรียนในหลักสูตรทางด้านกีฬาฟุตบอล โดยหลักสูตรนี้ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ เน้นการเรียนรู้ในแขนงต่างๆ ของวงการฟุตบอล แม้จะใช้เวลาเรียนระยะสั้นกว่าปกติ แต่จะให้ความรู้และประสบการณ์อย่างเข้มข้น เพื่อให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองจนมีโอกาสเป็นนักฟุตบอลและประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬานี้ในอนาคต

สร้างโอกาสอบรมเยาวชนและผู้ฝึกสอน

ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ได้เปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนอายุ 8-15 ปี ตั้งแต่วันที่ 21-31 สิงหาคม 2567 เพื่อเข้ารับการอบรมทักษะกีฬาฟุตบอล โดยจะมีโค้ชที่ผ่านการรับรองจากเอเอฟซี เป็นผู้สอน ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเยาวชนในการพัฒนาทักษะและเรียนรู้วิชาชีพโค้ชฟุตบอล โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกกว่าอะคาเดมีอื่นๆ และจะเริ่มเปิดสอนในวันที่ 1 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
เสริมศักดิ์ แถลงยกเลิกจัดอินดอร์เกมส์ เตรียมนำงบฯลงซีเกมส์ 2568 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
การยุติการจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์เกมส์ครั้งที่ 6: ก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จในซีเกมส์ 2568กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวยืนยันความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 (AIMAG 6th) ที่ประเทศไทยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567 แต่เนื่องจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ได้มีมติยกเลิกการแข่งขัน ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถจัดการแข่งขันดังกล่าวได้ตามกำหนด

ปรับเปลี่ยนมุมมองสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า

เตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2568

ถึงแม้จะเกิดการยกเลิกการจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ครั้งที่ 6 แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 อย่างเต็มรูปแบบ โดยจะนำงบประมาณที่เตรียมไว้สำหรับการจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ไปสมทบในการจัดการแข่งขันซีเกมส์ เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในระดับสากล

เดินหน้าเตรียมความพร้อมสำหรับ AIMAG ครั้งต่อไป

ถึงแม้จะไม่สามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ตามที่กำหนดไว้ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและรัฐบาลไทยยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 7 ที่จะจัดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบีย ตามปกติ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักกีฬาไทยในการแสดงความสามารถและแข่งขันในระดับนานาชาติ

ดูแลและสนับสนุนสมาคมกีฬาที่ได้เตรียมความพร้อมนักกีฬา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า จะเชิญ 38 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้เตรียมนักกีฬาสำหรับ AIMAG เข้ารับฟังนโยบายและแผนการดำเนินงานต่อไป เพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนานักกีฬาไทยให้มีความพร้อมในการแข่งขันต่อไป ทั้งในการแข่งขันซีเกมส์ 2568 และการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ในอนาคต
See More
Rocket Media Lab: กรุงเทพฯ มีลานกีฬาที่ไหน แล้วเล่นกีฬาอะไรได้บ้าง

กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยลานกีฬาที่น่าค้นหา

กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่มีความหลากหลายทางกีฬาสำหรับประชาชนให้เข้าถึงและออกกำลังกายได้อย่างมากมาย แต่ลักษณะและการเข้าถึงลานกีฬาแต่ละแห่งนั้นแตกต่างกัน บางแห่งเข้าถึงได้ง่าย บางแห่งอาจมีเงื่อนไข บางแห่งเข้าถึงไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างกันในประเภทกีฬาที่สามารถเล่นได้ในแต่ละลานอีกด้วย เราจึงมาลองไขข้อมูลกันว่ากรุงเทพฯ มีลานกีฬาอยู่ที่ไหนบ้าง สามารถเล่นกีฬาอะไรได้บ้าง และการเข้าถึงเป็นอย่างไร

ค้นหาลานกีฬาในกรุงเทพฯ เป็นความท้าทายที่น่าสนใจ

กรุงเทพฯ มีลานกีฬามากกว่า 1,100 แห่ง

จากการรวบรวมข้อมูลของกรุงเทพมหานคร และกรมพลศึกษา พบว่ากรุงเทพฯ มีลานกีฬาทั้งหมด 1,126 แห่ง โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในสถานศึกษา ซึ่งมีถึง 419 แห่ง หรือคิดเป็น 37.21% ของลานกีฬาทั้งหมด ในขณะที่ลานกีฬาสาธารณะมีเพียง 107 แห่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลานกีฬาในชุมชน 324 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลานอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับกิจกรรมกีฬาและนันทนาการ

การเข้าถึงลานกีฬาต่างกันไปในแต่ละพื้นที่

เมื่อพิจารณาความสามารถในการเข้าถึงลานกีฬาในกรุงเทพฯ พบว่า จากทั้งหมด 1,126 แห่ง มีลานกีฬาที่เข้าถึงได้ 521 แห่ง เข้าถึงได้แบบมีเงื่อนไข 410 แห่ง และเข้าถึงไม่ได้ 195 แห่ง แม้จะมีลานกีฬาที่เข้าถึงได้มากที่สุด แต่เมื่อพิจารณาด้านพื้นที่แล้ว กลับพบว่าลานกีฬาที่เข้าถึงได้แบบมีเงื่อนไขมีพื้นที่รวมกันมากที่สุดในกรุงเทพฯ

ลานกีฬาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สถานศึกษา

เมื่อแยกพื้นที่ตั้งของลานกีฬาในกรุงเทพฯ จะพบว่า ลานกีฬาที่มีจำนวนและพื้นที่รวมมากที่สุด คือ ลานกีฬาในพื้นที่สถานศึกษา ซึ่งมีถึง 419 แห่ง และพื้นที่รวม 2,891,012 ตร.ม. รองลงมาคือลานกีฬาชุมชนที่มีจำนวน 324 แห่ง และพื้นที่รวม 639,141.52 ตร.ม. ส่วนลานกีฬาสาธารณะแม้จะมีเพียง 107 แห่ง แต่มีพื้นที่รวมมากเป็นอันดับสอง คือ 907,476.76 ตร.ม. นอกจากนั้น ก็ยังมีลานกีฬาในพื้นที่เอกชน กองทัพ/ตำรวจ หน่วยงานรัฐ/รัฐวิสาหกิจ และวัด/มัสยิด ในสัดส่วนที่น้อยลงตามลำดับ

กีฬาหลากหลายให้เลือกเล่นในลานกีฬาของกรุงเทพฯ

เมื่อพิจารณาถึงประเภทกีฬาที่สามารถเล่นได้ในลานกีฬาของกรุงเทพฯ พบว่า กีฬาที่มีจำนวนลานกีฬารองรับมากที่สุดคือ แบดมินตัน 570 แห่ง รองลงมาคือ ฟุตบอล 539 แห่ง ตะกร้อ 532 แห่ง บาสเก็ตบอล 430 แห่ง และสนามเด็กเล่น 395 แห่ง ในส่วนของลานกีฬาที่เข้าถึงได้ก็พบว่ามีกีฬาที่สามารถเล่นได้ในลักษณะเดียวกัน โดยมีแบดมินตัน 265 แห่ง ตะกร้อ 245 แห่ง ฟุตบอล 229 แห่ง สนามเด็กเล่น 167 แห่ง และฟุตซอล 154 แห่ง เป็นกีฬาที่พบมากที่สุด

ข้อมูลลานกีฬาของกรุงเทพฯ ถูกเก็บรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ

ข้อมูลลานกีฬาทั้งหมดในกรุงเทพฯ ถูกรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ โดยทาง 'กองสารสนเทศภูมิศาสตร์ สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กรุงเทพมหานคร' ได้เก็บข้อมูล 'ลานกีฬา' ในแต่ละพื้นที่ทั้ง 50 เขต ซึ่งมีจำนวน 935 แห่ง และกรมพลศึกษาได้เก็บข้อมูลไว้อีก 247 แห่ง เมื่อนำมาบูรณาการและตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว จึงได้จำนวนลานกีฬาในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 1,126 แห่ง

กรุงเทพฯ มีแผนพัฒนาปรับปรุงลานกีฬาอย่างต่อเนื่อง

กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการพัฒนาลานกีฬาเป็นอย่างมาก โดยในงบประมาณปี 2567 ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 982,035,780 บาท เพื่อใช้ในการจัดการดูแลลานกีฬาต่างๆ ในพื้นที่ของกรุงเทพฯ และมีโครงการที่จะปรับปรุงลานกีฬา 43 แห่ง ใน 16 เขต ในปี 2566-2569 รวม 554 แห่ง เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 และเพื่อให้มีลานกีฬาที่มีมาตรฐานและเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ทั้งยังมีนโยบายการพัฒนาลานกีฬา 1 เขต 1 ลาน และการพัฒนาลานกีฬานำร่อง เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีต่อไป
See More