การเลื่อนและยกเลิกการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

การเลื่อนและยกเลิกการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

ความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติของประเทศไทยก่อให้เกิดความกังวลและข้อถกเถียงมาโดยตลอด หลังจากการประกาศให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6 ในปี 2567 โดยสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA)

ความท้าทายในการจัดการแข่งขัน กีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6

การเลื่อนกำหนดการจัดการแข่งขัน

การแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพนั้น เดิมกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 แต่ถูกเลื่อนไปเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 และล่าสุดถูกเลื่อนอีกครั้งเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเข้าร่วมของนักกีฬาชั้นนำซึ่งอาจจะต้องเก็บตัวเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันโอลิมปิก

การลดจำนวนชนิดกีฬา

ความกังวลในเรื่องงบประมาณและการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันทำให้มีการพิจารณาลดจำนวนชนิดกีฬาที่จะแข่งขันลง โดยตัดออกไป 14 ชนิดกีฬา อย่างไรก็ตาม มีการคัดค้านจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ซึ่งประกาศว่าจะจัดการแข่งขันครบทุกชนิดกีฬาที่กำหนดไว้เดิม

ความไม่แน่นอนในการตัดสินใจ

ความขัดแย้งและความไม่แน่นอนในการตัดสินใจจัดการแข่งขันยังคงเกิดขึ้น โดยมีการเปลี่ยนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำให้คณะรัฐมนตรีเป็นเพียง "รักษาการ" และความไม่ชัดเจนในการบริหารจัดการ ส่งผลให้การติดต่อสื่อสารและการเตรียมความพร้อมกับ OCA เป็นไปด้วยความล่าช้า

การถูกยึดสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ

ในที่สุด OCA ได้มีมติยกเลิกการจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยอ้างเหตุผลว่าประเทศไทยไม่สามารถเตรียมความพร้อมตามข้อกำหนดได้ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และการทำสัญญากับผู้ให้บริการต่างๆ รวมถึงความล่าช้าในการดำเนินการ ทำให้ OCA ไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงในครั้งนี้ได้

โอลิมปิคไทยเจอวิกฤตถูกลิขสิทธิ์ยึด แต่ยังมั่นใจคืนสู่ความยิ่งใหญ่

คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ออกแถลงการณ์ กรณีที่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ยกเลิกสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันอินดอร์มาเชียลอาร์ทเกมส์ที่ประเทศไทยเคยได้รับ เผยเคยพยายามช่วยยื้อเต็มที่แล้ว แต่ต้องเผชิญความล้มเหลวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติภูมิทางด้านกีฬาของไทยที่สะสมมาอย่างยาวนาน

เพชรน้ำหนึ่งของอุตสาหกรรมกีฬาไทย ถูกรั้วกีดออกจากเวทีโลก

ความพยายามยื้อเวลาที่จบลงด้วยความล้มเหลว

ตามที่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ได้ยกเลิกสิทธิ์ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอินดอร์มาเชียลอาร์ทเกมส์ ระหว่างวันที่ 21 - 30 พฤศจิกายน 2567 นั้น ซึ่งเลื่อนกำหนดการมาแล้ว 4 ครั้ง ทำให้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน คณะกรรมการจัดการแข่งขันก็ยังไม่สามารถดำเนินการตามเงื่อนไขที่ OCA กำหนดได้จนเป็นเหตุให้ต้องถอนสิทธิ์ ทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด พยายามเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างคณะกรรมการจัดการแข่งขันและ OCA เพื่อยื้อเวลาและรักษาชื่อเสียงประเทศ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ภายในเวลาที่กำหนด

จับตาสู่อนาคตอันแจ่มใสของจักรวาลกีฬาไทย

แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านลบต่อความเชื่อมั่นของชื่อเสียงกีฬาไทยในเวทีโลก แต่คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยก็ได้หันมาเจรจากับ OCA เพื่อแสวงหาโอกาสอื่นๆ ให้กับนักกีฬาไทย ได้แก่ การส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาอื่นๆ เช่น กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ณ เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น และการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 ซึ่ง OCA แจ้งว่าเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับการส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน โดยพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ทำให้เกิดความหวังว่า ความเชื่อมั่นในกีฬาไทยจะได้รับการฟื้นฟูและคืนสู่เวทีโลกอีกครั้งในอนาคตอันใกล้

บทบาทกรรมการโอลิมปิคไทยในการยื้อสิทธิ์

ในการที่ OCA ถอนสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอินดอร์มาเชียลอาร์ทเกมส์จากประเทศไทย คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยได้ใช้ทุกวิถีทางยื้อสิทธิ์ไว้ เช่น การขอให้ OCA ชะลอการพิจารณาออกไปก่อน เพื่อให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้มีโอกาสแก้ไขปัญหาต่างๆ ภายในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 รวมทั้งการนำเสนอหลักฐานเอกสารสัญญา และใบเสร็จการจ่ายเงินใน 9 ประเด็นที่ OCA กำหนด แต่สุดท้ายคณะกรรมการจัดการแข่งขันก็ไม่ได้มีการประชุมตามกำหนด และไม่ได้มีการนำเสนอเอกสารหลักฐานใดๆ ต่อ OCA ภายในเวลาที่กำหนด จึงเป็นเหตุให้ถูกยกเลิกสิทธิ์ดังกล่าว

ก้าวต่อไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่แหวกแนว

แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นการเสื่อมเสียต่อความเชื่อมั่นและเกียรติภูมิทางด้านกีฬาของประเทศไทย แต่คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยก็ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมในการฟื้นฟูชื่อเสียงของกีฬาไทยในเวทีโลก โดยการเจรจาประสานงานกับ OCA เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักกีฬาไทย ไม่ว่าจะเป็นการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาอื่นๆ หรือการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้จะประสบความล้มเหลวในครั้งนี้ แต่ความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนกีฬาไทยให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมก็ยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน