กีฬา
ทองเหรียญที่ 3 ของ ‘สายสุนีย์’ ในการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาส B พาราลิมปิกเกมส์ 2024 | สวพ.FM91

นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองที่สามในพาราลิมปิก

สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบคนพิการของไทย ได้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาส B ด้วยคะแนนการแข่งขัน 15-7 ต่อคู่แข่งชาวจีน

ฟื้นขึ้นอีกครั้ง ฝ่าฟันอุปสรรค คว้าเหรียญทองพาราลิมปิก

การเดินทางสู่ความสำเร็จ

สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอได้เริ่มต้นการฝึกซ้อมกีฬาวีลแชร์ฟันดาบตั้งแต่อายุยังน้อย และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อม ทำให้เธอสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถในกีฬาชนิดนี้ได้อย่างก้าวหน้า จนในที่สุดก็ได้รับโอกาสในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกหลายครั้งสายสุนีย์ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาส B ซึ่งเป็นความถนัดของเธอ เธอเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ปี 2016 และเหรียญเงินในปี 2020 มาแล้ว ดังนั้น การคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติการณ์ของนักกีฬาคนนี้

การแข่งขันที่น่าเร้าใจ

การแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาส B ในพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส นั้น ถือเป็นการแข่งขันที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการลุ้นของนักกีฬาคนโปรดของคนไทย อย่างสายสุนีย์ จ๊ะนะ ในการปะทะกับนักกีฬาระดับโลกชาวจีนในการแข่งขันครั้งนี้ สายสุนีย์ได้แสดงฝีมือการเล่นแบบเต็มที่ ด้วยการโจมตีอย่างดุดันและแม่นยำ รวมถึงการใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่น่าทึ่ง ทำให้เธอสามารถขึ้นนำคะแนนไปได้ตลอด และในที่สุดก็สามารถเอาชนะคู่แข่งจากจีนด้วยคะแนน 15-7 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครองการคว้าเหรียญทองนี้นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบไทย และยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของกีฬาประเภทนี้ในเวทีพาราลิมปิกอีกด้วย

ความหมายและความภาคภูมิใจ

การคว้าเหรียญทองครั้งนี้ของสายสุนีย์ จ๊ะนะ มีความหมายและคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาคนนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเหรียญทองพาราลิมปิกที่สามแล้ว ยังเป็นการพิสูจน์ความสามารถและการพัฒนาของเธอในกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ รวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการในประเทศไทยและทั่วโลกสายสุนีย์ มีประวัติการแข่งขันและคว้าเหรียญรางวัลที่โดดเด่นมาโดยตลอด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายาม ความมุ่งมั่น และเจตจำนงที่แน่วแน่ในการพัฒนาตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นับเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนพิการทั่วไปการคว้าเหรียญทองในครั้งนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของตัวสายสุนีย์เอง รวมทั้งเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว ทีมงาน และแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน ที่ได้ติดตามและชื่นชมในความสำเร็จของนักกีฬาคนนี้ตลอดมา
ผลพาราลิมปิก วิสิทธิ์ คว้าเหรียญเงิน วีลแชร์ฟันดาบเอเป้

สร้างตำนานบนลู่วีลแชร์ฟันดาบ: เรื่องราวของวิสิทธิ์ กิ่งมะนาว ที่กวาดเหรียญเงินในพาราลิมปิก 2024

ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วีลแชร์ฟันดาบ ประเภทเอเป้ชาย คลาส B นักกีฬาไทยวิสิทธิ์ กิ่งมะนาว วัย 35 ปี มือ 4 ของรายการ ได้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศหลังผ่านคู่แข่งจากจีน แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับดิมิทรี คุตย่า จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมือ 2 ของรายการ ด้วยคะแนน 15-10 คุตย่าคว้าเหรียญทองไป ส่วนวิสิทธิ์กลับได้เพียงเหรียญเงินแทน

สร้างตำนานสุดยอดนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบของเมืองไทย

มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จบนลู่วีลแชร์ฟันดาบ

วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว เป็นหนึ่งในนักกีฬาไทยที่มีชื่อเสียงในกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ เขาเริ่มต้นการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2557 และได้รับการฝึกฝนจนมีทักษะและความชำนาญในกีฬานี้เป็นอย่างมาก ในการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ เขาได้ก้าวขึ้นสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจสำหรับนักกีฬาวัย 35 ปีแห่งนี้ แม้ว่าวิสิทธิ์จะไม่ได้คว้าเหรียญทองกลับมา แต่การที่เขาสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของกีฬาระดับโลกอย่างพาราลิมปิกได้ ถือเป็นผลงานที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง เขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ความพากเพียร และความสามารถในการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง การคว้าเหรียญเงินนับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว คือหนึ่งในนักกีฬาไทยที่มีศักยภาพสูง และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลกได้

ความท้าทายที่ท้ายที่สุดของการแข่งขัน

แม้ว่าวิสิทธิ์ จะเป็นนักกีฬาที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจสูง แต่ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบ ประเภทเอเป้ชาย คลาส B เขาก็ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เมื่อต้องพบกับคู่แข่งอย่างดิมิทรี คุตย่า จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมือ 2 ของรายการ ตลอดการแข่งขัน 3 ยกๆ ละ 3 นาที คุตย่าอาศัยความเร็วและความคล่องตัวในการบุกและทำแต้มต่อเนื่องจนสามารถทำคะแนนนำ 15-10 และคว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนวิสิทธิ์ต้องพอใจกับเพียงเหรียญเงินเท่านั้นแม้ว่าในที่สุดแล้ว วิสิทธิ์ จะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ แต่การที่เขาสามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของการแข่งขันพาราลิมปิกได้นั้น ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากสำหรับเขา และเป็นที่ประจักษ์ว่าเขาคือหนึ่งในนักกีฬาไทยที่มีความสามารถโดดเด่น

ภารกิจต่อไปสู่ความยิ่งใหญ่

ถึงแม้ว่านักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบอย่างวิสิทธิ์ กิ่งมะนาวจะไม่สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ได้ แต่เขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถและแสดงให้เห็นถึงแววของนักกีฬาชั้นนำระดับโลกภารกิจต่อไปของวิสิทธิ์ก็คือ การไต่ระดับและพัฒนาทักษะการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งต่อไปได้ เขายังอายุเพียง 35 ปี และมีเวลาอีกหลายปีข้างหน้าในการฝึกฝนและวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในครั้งต่อไปสำหรับวิสิทธิ์ กิ่งมะนาว การคว้าเหรียญเงินในครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอนาคต เขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และมีศักยภาพที่จะสามารถยกระดับไปสู่การคว้าเหรียญทองในการแข่งขันในครั้งต่อไปได้ คงไม่ยากสำหรับเขาหากเขาสามารถพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง
See More
รุ่งโรจน์ พ่ายคู่แข่งอิตาลี คว้าเหรียญเงินปิงปองพาราลิมปิก 2024

การคว้าเหรียญเงินในความฝันที่ปารีส 2024

การแข่งขันพาราลิมปิก "ปารีส 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ยังคงเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของนักกีฬาพาราไทย โดยเฉพาะในการแข่งขันเทเบิลเทนนิส ซึ่งนักกีฬาชาวไทยได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนกีฬาพาราทั่วประเทศ

การเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ดีที่สุดในโลก

ก้าวสู่รอบชิงชนะเลิศ

นักกีฬาเทเบิลเทนนิสชายเดี่ยว คลาส MS6 ของทีมชาติไทย รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ได้ก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันปารีส 2024 หลังจากเอาชนะเตอร์ โรเซนเมียร์ มือ 1 โลกจากเดนมาร์กเข้ามาชิงเหรียญทอง นับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาคนนี้

การพบหน้าคู่แข่งจากอิตาลี

ในรอบชิงชนะเลิศ รุ่งโรจน์ได้พบหน้ากับมัตเตโอ พาเรนซาน นักกีฬาเทเบิลเทนนิสชั้นนำจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ยากท้าทายเป็นอย่างมาก โดยรุ่งโรจน์ได้สู้อย่างเต็มที่แต่ก็แพ้ให้กับคู่แข่งจากอิตาลี 0-3 เกม

การคว้าเหรียญเงินที่ภูมิใจ

แม้จะแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ แต่รุ่งโรจน์ก็ยังสามารถคว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักกีฬาคนนี้ และเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่แฟนกีฬาพาราไทยทั่วประเทศ

รางวัลเงินสนับสนุนนักกีฬาพาราลิมปิก

นอกจากความสำเร็จในสนามแข่งขัน นักกีฬาพาราลิมปิกที่ได้เหรียญจะได้รับรางวัลเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจที่สำคัญสำหรับนักกีฬาในการมุ่งมั่นฝึกฝนและแสดงศักยภาพให้ปรากฏในเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ
See More