สัตว์เลี้ยง

ไม่มีสลด! หนุ่มจับแมวล็อคคอ ก่อนให้สาวพ่นบุหรี่ไฟฟ้าใส่ สุดท้ายทัวร์ลง | BRIGHTTV.CO.TH

ความโหดร้ายที่ไม่อาจยอมรับได้: เมื่อบุหรี่ไฟฟ้าถูกใช้เป็นอาวุธทรมานสัตว์เลี้ยง

เหตุการณ์น่าสลดใจที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้สร้างความตื่นตระหนกและความโกรธเกรี้ยวในหมู่ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เมื่อมีคลิปวิดีโอปรากฏออกมาแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่โหดร้ายของคู่รักหนุ่มสาวที่พ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าใส่แมวอย่างเป็นอารมณ์ และยังหัวเราะชอบใจในการกระทำนั้น ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจและความสงสารต่อสัตว์เลี้ยงที่ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายเช่นนี้

ความโหดร้ายที่ไม่อาจยอมรับได้

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอาวุธทรมานสัตว์เลี้ยง

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอาวุธในการทรมานสัตว์เลี้ยงนั้น เป็นการกระทำที่โหดร้ายและไม่อาจยอมรับได้ในสังคมที่มีความเมตตาและความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง สารพิษในควันบุหรี่ไฟฟ้าสามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ทั้งในด้านระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท และระบบอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ในที่สุด การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้สัตว์เลี้ยงได้รับความทุกข์ทรมานเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์อีกด้วย

ผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

ตามที่สัตวแพทย์หญิงภาวิตา ลาวัณยกุล จากกรมปศุสัตว์ได้เปิดเผยว่า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินซึ่งเป็นสารพิษอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ และยังเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงด้วย เนื่องจากสัตว์เลี้ยงเช่นหมาและแมวมีโพรงจมูกที่สั้นกว่ามนุษย์ ทำให้ได้รับสารนิโคตินได้ง่ายกว่า หากเจ้าของสูบบุหรี่ในบ้าน หรือแม้แต่สูบใกล้ๆ กับสัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ที่ติดบนเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านก็จะส่งผลให้สัตว์เลี้ยงได้รับอันตรายเช่นกัน โดยจะมีอาการไอ เหนื่อยหอบ คลื่นไส้ อาเจียน และหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งแมวจะพบอาการได้เร็วกว่าสุนัข เนื่องจากมีโพรงจมูกสั้นกว่า ตัวเล็กกว่า และมีพื้นที่ในร่างกายน้อยกว่า จึงทนต่อพิษได้น้อยกว่า

ความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์เลี้ยง

ดังนั้น หากผู้ที่เลี้ยงหมาหรือแมวยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ ควรสูบให้ห่างจากสัตว์เลี้ยง หรือเลือกสูบบริเวณนอกบ้าน เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงได้รับสารนิโคตินโดยตรง แต่ดีที่สุดคือ เลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยง เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้น ผู้เลี้ยงต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี ไม่ควรกระทำการใดๆ ที่จะส่งผลเสียหายต่อสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือสิ่งอื่นใดก็ตาม

การเรียกร้องให้มีการลงโทษผู้กระทำ

จากกรณีดังกล่าว ได้มีการเรียกร้องจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากให้มีการลงโทษผู้กระทำการทารุณกรรมสัตว์เลี้ยงในลักษณะนี้ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์ และควรได้รับการลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าสังคมไทยไม่อาจยอมรับการกระทำที่โหดร้ายเช่นนี้ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ภัยพิบัติน้ำท่วมในภาคเหนือ: เชียงใหม่และเชียงรายเผชิญวิกฤต

ภัยพิบัติที่ไม่อาจมองข้าม

สถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือ

ในช่วงนี้ ภาคเหนือของประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยที่รุนแรง จากพายุ "ยางิ" ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักพยากรณ์อากาศระบุว่า ในช่วงนี้ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มเติม

การระดมกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือ

ในสถานการณ์ดังกล่าว หน่วยงานต่างๆ ได้เร่งระดมกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งได้ปล่อยขบวนคาราวาน "เทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมใจสู้ภัยน้ำท่วม" ประกอบด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น รถยนต์กู้ภัย เรือท้องแบน รถบรรทุกน้ำ รถเครน รถขุด รถบรรทุก รถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อเดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ ภายใต้การนำของรองอธิการบดี ดร.อลงกร นำบุญจิตต์ ก็ได้เปิดบ้านต้อนรับคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ ลำพูน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกีฬาชุคบอลและกีฬาเทคบอล นอกจากนี้ยังได้ร่วมสนับสนุนสิ่งของและเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่

ความพร้อมของหน่วยงานในการรับมือ

ในขณะที่สถานการณ์อุทกภัยยังคงดำเนินอยู่ หน่วยงานต่างๆ ก็ได้เร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะ "ว่าที่ ดร.บอม ธนกร ปัญญาวงศ์" หัวหน้าสำนักงานกีฬา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ ซึ่งต้องเร่งตรวจงานและเตรียมงานวันสถาปนาพลศึกษาเชียงใหม่ ครบรอบ 54 ปี ในวันที่ 17 กันยายน 2567 ซึ่งจะมีพิธีมอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาด้วยทั้งนี้ ความพร้อมและการระดมกำลังของหน่วยงานต่างๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่ให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว

การศึกษาดูงานและเข้าชมชนิดกีฬาของคณะครูและนักเรียนโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ ลำพูน ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่

คณะครูและนักเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ ลำพูน ได้มีโอกาสเข้าศึกษาดูงานและเข้าชมชนิดกีฬาต่างๆ ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้บริหารและบุคลากรของมหาวิทยาลัย

ประสบการณ์ที่มีคุณค่าสำหรับนักเรียนและครู

การเยี่ยมชมสาขากีฬาชุคบอล

การเยี่ยมชมสาขากีฬาชุคบอลนั้น เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับคณะครูและนักเรียน โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ฝึกสอนกีฬาชุคบอล ซึ่งได้แนะนำและสาธิตเทคนิคการเล่นกีฬาชุคบอลอย่างละเอียด นักเรียนได้มีโอกาสทดลองเล่นและฝึกทักษะต่างๆ ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจกีฬาชุคบอลอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ ยังได้เห็นถึงความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากเข้ามาศึกษาต่อในสาขานี้ในอนาคต

การเยี่ยมชมสาขากีฬาเทคบอล

การเยี่ยมชมสาขากีฬาเทคบอลก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับคณะครูและนักเรียน โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ฝึกสอนกีฬาเทคบอล ซึ่งได้แนะนำและสาธิตเทคนิคการเล่นกีฬาเทคบอลอย่างละเอียด นักเรียนได้มีโอกาสทดลองเล่นและฝึกทักษะต่างๆ ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจกีฬาเทคบอลอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ ยังได้เห็นถึงความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากเข้ามาศึกษาต่อในสาขานี้ในอนาคต

การต้อนรับและการดูแลอย่างอบอุ่น

การเข้าศึกษาดูงานและเข้าชมชนิดกีฬาในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับและการดูแลอย่างอบอุ่นจากผู้บริหารและบุคลากรของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่ โดยมีรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจการพิเศษ ดร.อลงกร นำบุญจิตต์ เป็นผู้กล่าวต้อนรับและมอบหมายให้ผู้ช่วยอธิการบดีและบุคลากรที่เกี่ยวข้องดูแลการเยี่ยมชมอย่างใกล้ชิด ซึ่งทำให้คณะครูและนักเรียนรู้สึกอบอุ่นและประทับใจในการมาเยือนครั้งนี้