ความบันเทิง
เทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ สร้างปรากฏการณ์ใหญ่! ปลุกกระแสความเท่าเทียมผ่านภาพยนตร์
ภาพยนตร์ไทยก้าวสู่เวทีโลก ในเทศกาลภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีเทศกาลภาพยนตร์ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ปิดฉากลงอย่างสวยงาม หลังจากสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอด 5 วันเต็ม ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เทศกาลนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ให้กับวงการภาพยนตร์ไทย ด้วยการปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก และการต่อยอดความร่วมมือระดับโลก เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก

ภาพยนตร์ไทยก้าวสู่เวทีโลก ด้วยความหลากหลายและความเท่าเทียม

ปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก

เทศกาลภาพยนตร์ "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ได้เปิดพื้นที่ให้ภาพยนตร์ไทยอันทรงคุณค่าในอดีตได้กลับมาสร้างแรงบันดาลใจและถูกพูดถึงอีกครั้ง เช่น ภาพยนตร์ในตำนานอย่าง "ฉันผู้ชายนะยะ" ของหม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล ศิลปินแห่งชาติ และ "รักแห่งสยาม" ที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้ายอมรับตัวตนของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตและก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางการยอมรับจากคนรุ่นใหม่และผู้ชมทั่วโลก

ต่อยอดความร่วมมือระดับโลก เปิดประตูสู่โอกาสใหม่

การนำภาพยนตร์ LGBTQ+ จาก 14 ประเทศทั่วโลกมาฉาย อาทิ Before I Change My Mind, Splendid Isolation, Big Boys และ Vera and the Pleasure of Others นับเป็นการขยายเครือข่ายความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ LGBTQ+ ระดับโลก พร้อมต่อยอดโอกาสให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดและสัมผัสวัฒนธรรมไทย ผ่านเวทีเสวนาพิเศษร่วมกับผู้กำกับชั้นนำมากมาย เช่น Tsai Ming Liang, Trevor Anderson และ Corey Sherman ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ทั้งทางธุรกิจและศิลปวัฒนธรรม

สร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายคลื่นลูกใหม่ด้วยรางวัลอันทรงคุณค่า

การประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นไทย และหนังสั้นต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าแสดงออก และถ่ายทอดมุมมองใหม่ ๆ เรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียม โดยผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นไทยรางวัลชนะเลิศ Grand Jury Prize คือภาพยนตร์เรื่องแด่เธอที่รัก (Happiness Belongs To You) กำกับและควบคุมการผลิตโดย คณิน บำรุงวงศ์สิริ, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 จากภาพยนตร์เรื่อง Motherland กำกับและควบคุมการผลิตโดย แพรวา ชำปฏิ, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 จากภาพยนตร์เรื่อง Auganic กำกับภาพยนตร์ โดยกฤษฏิ์ คมกริชวรากูล ควบคุมการผลิตโดย คิง ลูอี พาโลโม และภาพยนตร์เรื่อง 30 Days Before I'm Dead กำกับและควบคุมการผลิตโดย ศศิชา ศิริอัศวกุล สำหรับผู้ชนะการประกวดภาพยนตร์สั้นในสายประกวดหนังสั้นต่างประเทศรางวัลชนะเลิศGrand Jury Prize คือภาพยนตร์เรื่อง Dildotectonics (Dildotectónica) จากประเทศโปรตุเกส กำกับและควบคุมการผลิตโดย Tomás Paula Marques, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 จากภาพยนตร์เรื่อง Everybody's Gotta Love Sometimes จากประเทศเมียนมา กำกับภาพยนตร์โดย Sein Lyan Tun ควบคุมการผลิตโดย Angele de Lorme, John Badalu, รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 จากประเทศฝรั่งเศสทั้ง 2 เรื่องได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง The Red Panda Temptation (La tentation du panda roux) กำกับภาพยนตร์ โดย Haïga Jappain ควบคุมการผลิตโดย Marthe Lamy และภาพยนตร์เรื่อง Bolero กำกับภาพยนตร์ โดย Nans Laborde-Jourdàa ควบคุมการผลิตโดย Margaux Lorier, Guillaume Bassoความสำเร็จของเทศกาล "THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2024" ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจดจำให้ผู้คนมากมาย และเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ สะท้อนถึงศักยภาพความสร้างสรรค์ของประเทศไทย ที่พร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ LGBTQ+ ที่ได้รับความร่วมมือระดับโลก ด้วยการปลุกกระแสภาพยนตร์ไทยให้กลับมาคึกคัก การต่อยอดความร่วมมือระดับโลก และการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ผ่านรางวัลอันทรงคุณค่า เทศกาลนี้ได้เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ทั้งทางธุรกิจและศิลปวัฒนธรรม สำหรับภาพยนตร์ไทยในอนาคต
“เยริ Red Velvet” รับบทนำ ในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรก ‘Next’ | BRIGHTTV.CO.TH

เยริ Red Velvet รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรก 'Next' ท้าทายความสามารถครั้งใหม่

แฟนคลับของศิลปินสาว "เยริ Red Velvet" ต่างตื่นเต้นและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้รับข่าวว่าเธอได้รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกของเธอ ภายใต้ชื่อเรื่อง 'Next' ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในอาชีพการแสดงของเธอ

ศิลปินสาวผู้มีเสน่ห์ล้นเหลือ พร้อมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการภาพยนตร์

### เยริ Red Velvet รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'Next'"เยริ Red Velvet" ได้รับเลือกให้รับบทนำในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 'Next' ซึ่งกำกับโดย ซนดงวาน ผู้กำกับหน้าใหม่ที่มีผลงานภาพยนตร์สั้นที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ อย่าง 'Cabinet' และ 'I Heard You' มาแล้ว โดยเรื่อง 'Next' จะเป็นเรื่องราวสยองขวัญลึกลับ เกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เข้าร่วมในพิธีกรรมเรียกวิญญาณ และเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติที่ตามมา"คิมเยริ" ถูกรับเลือกให้รับบทเป็น "พัคจายอง" ซึ่งเป็นประธานนักเรียนชั้นปี 3 ที่รับผิดชอบห้อง 5 และเป็นตัวละครที่มีส่วนร่วมในพิธีกรรมเรียกวิญญาณ เพื่อค้นหาที่อยู่ของน้องสาวที่หายไปของเธอ เมื่อพิธีกรรมได้เริ่มต้นขึ้นและสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น เธอต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเพื่อนร่วมพิธีกรรมเรียกวิญญาณ### ความท้าทายครั้งใหม่ของ "เยริ" ในฐานะนักแสดงการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ "เยริ" นับตั้งแต่เดบิวต์เป็นนักแสดง เนื่องจากเธอจะต้องถ่ายทอดบทบาทของตัวละครที่มีความเข้มข้นและซับซ้อนมากกว่าที่เคยแสดงมาก่อน แต่แฟนๆ ก็เชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน"เยริ" ได้แสดงความตื่นเต้นและกล่าวว่า "ฉันสนใจแนวสยองขวัญมาโดยตลอด และรู้สึกว่าตื่นเต้นมากที่จะได้รับความท้าทายครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้แสดงในภาพยนตร์นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นนักแสดง ดังนั้นฉันจึงตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงคนอื่น ๆ เพื่อสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม"### ผู้กำกับหน้าใหม่ "ซอนดงวาน" กับความท้าทายครั้งใหม่ผู้กำกับหน้าใหม่ "ซอนดงวาน" ที่ได้รับความสนใจจากผลงานภาพยนตร์สั้นเรื่อง 'Cabinet' และ 'I Heard You' จะมาร่วมงานกับ "เยริ" ในภาพยนตร์เรื่อง 'Next' ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับความคาดหวังสูงมากจากแฟนๆ เนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญที่เข้มข้น และยังได้รับการคาดหวังสูงมากยิ่งขึ้น เมื่อ "เยริ" ได้เป็นนักแสดงหลักในเรื่องนี้อีกด้วยการร่วมงานกันระหว่าง "เยริ" และ "ซอนดงวาน" ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่น่าติดตามอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองคนต่างก็เป็นหน้าใหม่ในวงการภาพยนตร์ แต่ด้วยความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ จึงทำให้แฟนๆ ตั้งตารอคอยผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างมาก### ความสำเร็จของ "เยริ" ในฐานะนักแสดงนอกจากการเป็นศิลปินขวัญใจแฟนๆ K-pop แล้ว "เยริ" ยังได้แสดงฝีมือการแสดงในโปรเจกต์ต่างๆ เช่น 'Mint Condition' และ 'Blue Birthday' ซึ่งได้รับการชื่นชมจากผู้ชมเป็นอย่างมาก และล่าสุดในเรื่อง 'BITCH X RICH' ก็ได้แสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมและเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจแฟนๆ จนทำให้ทุกคนต่างตั้งตารอคอยผลงานภาพยนตร์ครั้งใหม่ของเธอด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นในการแสดง ทำให้ "เยริ" ได้รับความรักและการยอมรับจากแฟนๆ ทั่วโลกมากมาย และการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง 'Next' ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในอาชีพการแสดงของเธอ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ไทย
See More
เรื่องย่อ “หลานม่า” หนังไทยพันล้าน เล่าชีวิตครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน

ครอบครัวจีนไทย: การเดินทางสู่ความสำเร็จและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง

ในช่วงเวลาแห่งวันสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง เรามีภาพยนตร์ใหม่ที่จะมาเติมเต็มความอบอุ่นในใจของคนไทย นั่นคือ "หลานม่า (LAHN MAH)" ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งสร้างโดย จอกว้าง ฟิล์ม และจัดจำหน่ายโดย จีดีเอช ห้าห้าเก้า กำกับโดย "พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์" และอำนวยการสร้างโดย "วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ จิระ มะลิกุล" กำหนดฉายวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

ค้นหาความสำเร็จและความหมายที่แท้จริงของชีวิต

เรื่องย่อ: การเดินทางสู่ความสำเร็จและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง

เรื่องราวของ เอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับ อาม่า (อุษา เสมคำ) ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัว ในตอนแรกดูเหมือนว่า เอ็ม จะมาดูแลอาม่าในบั้นปลายชีวิต แต่แท้จริงแล้ว เอ็ม มีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่ เมื่อรู้ว่า มุ่ย (ตู ต้นตะวัน) จะได้รับมรดกก้อนใหญ่เป็นบ้านราคาสิบล้านบาทจากอากง เอ็มจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้อาม่าไว้ใจ แต่กำแพงที่อาม่าตั้งไว้ ทำให้เอ็มได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย จนอะไรบางอย่างถูกอามาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

นักแสดงภาพยนตร์ หลานม่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงที่น่าจับตามอง ได้แก่ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล รับบท เอ็ม, แต๋ว อุษา เสมคำ รับบท อาม่าเหม้งจู, ครูเจีย สฤญรัตน์ โทมัส รับบท ซิว (แม่ของเอ็ม), ดู๋ สัญญา คุณากร รับบท กู๋เคี้ยง (ลุงของเอ็ม), เผือก พงศธร จงวิลาส รับบท กู๋โส่ย (น้าของเอ็ม), และ ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุล รับบท มุ่ย (ลูกพี่ลูกน้องของเอ็ม)

การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว

ภาพยนตร์เรื่อง "หลานม่า" ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งภายในครอบครัว และการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตร่วมกัน เอ็ม ผู้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลอาม่า ได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย และค้นพบสิ่งที่แท้จริงของชีวิตที่มากกว่าเพียงแค่ความสำเร็จทางวัตถุ ในขณะที่อาม่าก็ได้เปิดใจและเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวและการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว

การค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต

ในขณะที่เอ็มมีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนอยู่ในการกลับมาดูแลอาม่า แต่เมื่อเขาได้เริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตไปทีละน้อย และเปิดใจรับฟังอาม่า เขาก็ได้ค้นพบสิ่งที่แท้จริงของชีวิตที่มากกว่าเพียงแค่ความสำเร็จทางวัตถุ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่การไล่ตามความสำเร็จทางวัตถุ แต่เป็นการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งผ่านความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเปิดใจรับฟังผู้อื่น
See More