ONE ชูศิลปะการต่อสู้สู่จอภาพยนตร์ระดับโลก

องค์กรศิลปะการต่อสู้ชั้นนำของโลก ONE ได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ Broken Open Pictures เพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่อง "The Beast In Me" ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของวงการ MMA ในแนวแอ็กชัน-ดรามา โดยมีกำหนดเริ่มถ่ายทำในช่วงปลายปีนี้ และจะใช้การแข่งขันในศึก ONE ลุมพินีเป็นฉากสำคัญในเรื่อง

ความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะยกระดับศิลปะการต่อสู้สู่วงการภาพยนตร์ระดับโลก

ดาราชื่อดังร่วมสร้างสรรค์ภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่อง "The Beast In Me" จะได้ "รัสเซล โครว์" นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่องดัง Gladiator, A Beautiful Mind และ Cinderella Man มารับบทนักแสดงนำ และร่วมเขียนบทภาพยนตร์ ร่วมด้วย "แดเนียล แม็คเฟอร์สัน" นักแสดงชื่อดังจากเรื่อง Land of Bad, Foundation และ Infini และนักแสดงฝีมือดีอีกหลายคน

ONE ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ คาดว่าจะมีนักกีฬา ONE บางส่วน รวมถึงนาย "ชาตรี ศิษย์ยอดธง" ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ ONE ร่วมปรากฏตัวในภาพยนตร์ด้วย ซึ่งนาย ชาตรี ได้กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า "ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงและทีมงานผู้สร้าง 'The Beast in Me' ที่ล้วนแต่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ผมมั่นใจว่า ONE คือแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่จะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของความอดทน อุตสาหะ และมุมานะของนักกีฬา เราแทบรอไม่ไหวที่จะต้อนรับทีมงานทั้งหมด ในรายการ ONE ลุมพินี ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ในเดือนมกราคมนี้"

ภาพยนตร์ที่จะสะท้อนแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้

ด้าน "เดวิด ฟริเจอริโอ" ผู้อำนวยการสร้างและผู้ร่วมเขียนบท "The Beast In Me" กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ ONE ในการสร้างภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงแฟน ๆ เพื่อเชิดชูจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน ความอดทน และการแสวงหาความยิ่งใหญ่ ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายนักกีฬาและการแข่งขันอันกว้างขวางของ ONE เราพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งสะท้อนถึงแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้"

เนื้อหาของภาพยนตร์ที่น่าจับตามอง

สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง The Beast In Me "แดเนียล แม็คเฟอร์สัน" จะรับบทเป็นอดีตนักกีฬา MMA ที่ตกงาน และต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับพี่ชายของเขา ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากเทรนเนอร์มากประสบการณ์ ที่รับบทโดย "รัสเซล โครว์" ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจที่จะล้างแค้นให้พี่ชาย ด้วยการกลับมาลงแข่งอีกครั้งในรายการ ONE หลังจากแขวนนวมไปแล้ว

ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ชั้นนำ

"ไทเลอร์ แอตกินส์" จะรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และ "ฟริเจอริโอ", "ทิม โอแฮร์" และ "จอห์น ชวาร์ตซ์" รับหน้าที่ผู้ผลิต ขณะที่ "เชน แอ็บเบสส์" และ "เบร็ตต์ ธอร์นเควสต์" รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งทีมงานชั้นนำเหล่านี้จะร่วมกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่จะสะท้อนแก่นแท้ของศิลปะการต่อสู้ให้ปรากฏบนจอภาพยนตร์ระดับโลก

เกษตรกรเพชรบูรณ์ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด: ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาตกต่ำ จี้รัฐบาลเร่งพยุงราคา

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ท้าทายความอยู่รอดของพวกเขา เมื่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำอย่างรวดเร็วและผิดปกติ จากราคาราว 110 บาทต่อถัง เหลือเพียง 94 บาท หรือประมาณ 6.33 บาทต่อกิโลกรัม ภายในเวลาเพียง 10 วัน เกษตรกรจึงได้ร่วมกันชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพยุงราคาและกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำที่ 7.50 บาทต่อกิโลกรัม

เกษตรกรเพชรบูรณ์ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด: ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาตกต่ำ จี้รัฐบาลเร่งพยุงราคา

ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำอย่างรวดเร็วและผิดปกติ

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ท้าทายความอยู่รอดของพวกเขา เมื่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำอย่างรวดเร็วและผิดปกติ จากราคาราว 110 บาทต่อถัง เหลือเพียง 94 บาท หรือประมาณ 6.33 บาทต่อกิโลกรัม ภายในเวลาเพียง 10 วัน ซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างมากและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เกษตรกรจะรับได้ ส่งผลให้พวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิตและการดำเนินธุรกิจ

เกษตรกรชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพยุงราคา

เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนกว่า 800 คน จึงได้ร่วมกันชุมนุมพร้อมชูป้ายเรียกร้องรัฐบาลให้ช่วยพยุงราคาข้าวโพด โดยขอให้รัฐบาลกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำที่ 7.50 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับข้าวโพดที่มีความชื้นไม่เกิน 30% เพื่อให้เกษตรกรสามารถดำรงชีวิตและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

ต้นทุนการผลิตสูง แต่ราคาขายต่ำกว่าต้นทุน

ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ รวมถึงค่าแรงมีราคาสูงมาก และทางโรงงานอาหารสัตว์ ยังนำเข้าข้าวสาลีและข้าวโพดจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้ราคาข้าวโพดในประเทศลดลงอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกษตรกรต้องเผชิญและส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำรงชีพของพวกเขา

รัฐบาลเตรียมเพิ่มช่องทางรับซื้อและคงราคาไว้

ในขณะที่ทางกรมการค้าภายในได้รับหนังสือเรียกร้องจากเกษตรกร และได้พูดคุยกับโรงงานอาหารสัตว์ ซึ่งตกลงจะคงราคารับซื้อในปัจจุบันไว้ โดยไม่ปรับลดลงอีก นอกจากนี้ทางกรมการค้าฯ เตรียมนำผู้ซื้อจากนอกพื้นที่มาเพิ่มช่องทางรับซื้อ เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เกษตรกรยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำที่ 7.50 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตและดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน