กีฬา
“สุจิรัตน์” พ่ายเต็งหนึ่งญี่ปุ่น คว้าเหรียญเงินแบดมินตันพาราลิมปิก 2024

ปุกคำคว้าเหรียญเงินพาราลิมปิก แชมป์เก่าญี่ปุ่นเอาชนะอย่างหวุดหวิด

ในการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งล่าสุดที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส นักกีฬาแบดมินตันจากไทยทั้งชายและหญิงได้ลงแข่งขันโดยมีโอกาสคว้าเหรียญรางวัล สำหรับในประเภทหญิงเดี่ยว "ปุ๊" สุจิรัตน์ ปุกคำ ก็มีโอกาสเป็นแชมป์เกมส์ แต่ในที่สุดต้องพ่ายให้กับแชมป์เก่าจากญี่ปุ่น ทำให้ได้รับเพียงเหรียญเงินเท่านั้น ส่วนในประเภทชายเดี่ยว มงคล บุญสุน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ

ท้าทายแชมป์เก่าอย่างสูสี สุจิรัตน์ คว้าเหรียญเงินพาราลิมปิก

นักกีฬาแบดมินตันสาวอย่าง "ปุ๊" สุจิรัตน์ ปุกคำ ให้โอกาสตัวเองในการเข้าไปรีแมตช์กับ "ซารินะ ซาโตมิ" จากญี่ปุ่น แชมป์เก่าจากพาราลิมปิกครั้งที่แล้ว

สุจิรัตน์ ปุกคำ เป็นนักกีฬาแบดมินตันหญิงวัย 38 ปี มือลำดับ 2 ของประเทศไทย ในรอบก่อนหน้านี้เธอสามารถเอาชนะ TO Man-Kei จากเบลเยียมได้อย่างสบาย ทำให้ได้ไปเจอกับ "ซารินะ ซาโตมิ" ผู้ครอบครองเหรียญทองจากการแข่งขันพาราลิมปิกที่ผ่านมาในรอบชิงชนะเลิศสุจิรัตน์เริ่มต้นได้อย่างดี สามารถเอาชนะแชมป์เก่าจากญี่ปุ่นในเกมแรกไปได้ 21-18 แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถรักษาสมดุลของการเล่นไว้ได้ ทำให้ต้องพ่ายไป 2 เกมต่อมา 13-21 และ 18-21 ส่งผลให้สุจิรัตน์ต้องพอใจกับเหรียญเงินในครั้งนี้แม้ว่าสุจิรัตน์จะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ แต่ผลงานที่ผ่านมาของเธอก็นับว่าน่าประทับใจอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้เธอเคยได้รับเหรียญเงินจากการแข่งขันโตเกียวเกมส์ 2020 (ที่จัดในปี 2021) มาแล้ว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

มงคล บุญสุน โชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรง คว้าเหรียญทองแดงพาราลิมปิก

ในขณะเดียวกัน นักกีฬาแบดมินตันชายเดี่ยวประเภท SL3 อย่าง "มงคล บุญสุน" ก็สามารถคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันในครั้งนี้ได้สำเร็จ โดยในรอบชิงเหรียญทองแดง เขาสามารถเอาชนะ "ไดสึเกะ ฟูจิฮาระ" จากญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดายด้วยคะแนน 2-0 เกม (21-15, 21-15)มงคล บุญสุน เป็นนักกีฬาที่มีผลงานในการแข่งขันที่ผ่านมาอย่างยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้เขายังคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันพาราลิมปิกที่ริโอเมื่อปี 2016 อีกด้วย ดังนั้นการคว้าเหรียญทองแดงในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมของนักกีฬาคนนี้เป็นอย่างดีเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาพาราลิมปิกจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำหนดว่านักกีฬาที่คว้าเหรียญทองจะได้รับเงินรางวัล 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ทันที 50% ส่วนอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือนภายใน 4 ปี ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่สำคัญสำหรับนักกีฬาที่จะต้องทุ่มเทและสร้างผลงานอย่างเต็มที่ในอนาคตต่อไป
ชัยวัฒน์ ทุบสถิติคว้าทองวีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร พาราลิมปิก 2024

สถิติ เส้นทางสู่ความสำเร็จของนักกีฬาพาราลิมปิกไทย

ความสำเร็จของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยในเกมส์ปารีส 2024 ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑา วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร คลาส T34 ของ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 3 ให้กับทีมไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้

ก้าวสู่ความสำเร็จบนเส้นทางกีฬาพาราลิมปิก

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยทำสถิติใหม่

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ปารีส 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันกรีฑา วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร คลาส T34 ที่ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ สามารถทุบสถิติเดิมของตนเองและคว้าเหรียญทองแห่งความสำเร็จ ด้วยเวลา 14.76 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่สร้างสถิติพาราลิมปิกใหม่อีกครั้ง นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ

ก้าวสู่เส้นชัยอย่างสง่างาม

นอกจากความสำเร็จของ "บีม" ชัยวัฒน์ รัตนะ แล้ว ยังมีนักกีฬาพาราลิมปิกอีกหลายคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อาทิ "กร" พงศกร แปยอ ที่ทำได้ในประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.T53 และ "เจมส์" วรวุฒิ แสงอำภาในการแข่งขัน บอคเซีย บุคคล BC2 โดยนักกีฬาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นต้นแบบที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วประเทศ

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

การที่นักกีฬาพาราลิมปิกไทยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 นั้น ก็เป็นผลมาจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทางภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬาพาราลิมปิก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาเหล่านี้ในการพัฒนาตนเอง และยกระดับการแข่งขันให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
See More
กกท. จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลก “Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT”

ตื่นตาตื่นใจกับการแข่งขันกรีฑาระดับโลก "Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024" ที่ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่

ประเทศไทยยืนหยัดอย่างมั่นคงในเวทีการกีฬาระดับโลก โดยล่าสุด การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดการแข่งขันกรีฑาระดับโลกรายการ "Golden Fly Series Qualifier Chiang Mai 2024 presented by SAT" ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 3 ในประเทศไทย

สะท้อนความพร้อมและศักยภาพการจัดการแข่งขันระดับโลกของไทย

สนามกรีฑาเคลื่อนที่ระดับโลก "The FlySwat"

การแข่งขันครั้งนี้จะใช้อุปกรณ์พิเศษ "The FlySwat" ซึ่งเป็นสนามกรีฑาเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬากรีฑาโลก WA มีความยาวสูงสุดถึง 83.30 เมตร และน้ำหนักรวมทรายกว่า 25 ตัน เทียบเท่ารถบัสสองชั้นสองคัน ซึ่งจะช่วยสร้างความตื่นเต้นและความยิ่งใหญ่ให้กับการแข่งขัน

นวัตกรรมทันสมัยเพื่อความแม่นยำและความสนุกสนาน

นอกจากสนามแข่งขันที่ทันสมัยแล้ว การแข่งขันยังใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยช่วยวัดผลและแสดงผลการแข่งขัน อาทิ เลเซอร์ "PrimeLine" ที่ใช้แสดงระยะกระโดดในการแข่งขันกระโดดไกล เพื่อความแม่นยำและความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น โดยเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงาน Golden Fly Series ร่วมกับบริษัท MediaLas จากเยอรมนี

ดึงดูดนักกีฬาและนักท่องเที่ยวระดับโลก

การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการกีฬาและนวัตกรรมระดับโลก โดยจะดึงดูดนักกีฬาระดับโลกและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังเชียงใหม่ พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดเชียงใหม่อย่างยั่งยืน

แรงบันดาลใจสู่นักกีฬารุ่นใหม่และเยาวชน

การแข่งขันในครั้งนี้ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่และเยาวชนทั่วประเทศ ได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของกีฬากรีฑาในระยะประชิด และเห็นศักยภาพของนักกีฬาระดับโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาหันมาสนใจกีฬากรีฑามากขึ้น

ผลการแข่งขัน: นักกีฬาระดับโลกพร้อมจัดเต็ม

ในการแข่งขันครั้งนี้ ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทประกอบด้วย นักกีฬาชั้นนำจากหลากหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง สาธารณรัฐเช็ก สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้ได้รับความสนใจและการให้ความสำคัญจากนักกีฬาระดับโลกเป็นอย่างมาก

การถ่ายทอดสดสู่ 150 ล้านคนทั่วโลก

นอกจากนี้ การแข่งขัน Golden Fly Series ยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยมียอดผู้ชมเฉลี่ยกว่า 150 ล้านคนต่อการแข่งขันแต่ละรายการ และมีเวลาออกอากาศเฉลี่ย 800 ชั่วโมงต่อรายการ ผ่านช่องโทรทัศน์กว่า 80 ช่องทั่วโลก ซึ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการกีฬาของประเทศไทย และกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่
See More