กีฬา
เผย ‘เสริมศักดิ์’ สั่ง ผู้ว่าฯกกท. ตรวจสอบการใช้งบจัดแข่งขัน AIMAG 980 ล้านบาท

สืบสวน! ค้นหาความจริงเบื้องหลังค่าใช้จ่ายการจัดแข่งขัน AIMAG ถึง 1,200 ล้านบาท

ด้านความคุ้มค่าและความโปร่งใสในการใช้งบประมาณสาธารณะกำลังเป็นที่สงสัยและมีการร้องเรียนจำนวนมาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน 980 ล้านบาทที่เบิกจ่ายไปแล้ว พร้อมยืนยันความพร้อมเป็นเจ้าภาพ AIMAG ครั้งที่ 6

ล้วงลึกความโปร่งใส ค้นหาความคุ้มค่าในการใช้เงินสาธารณะกว่า 1,200 ล้านบาท

อำนาจสั่งการเข้มข้น ตรวจสอบค่าใช้จ่ายกว่า 980 ล้านบานที่เบิกจ่ายไปแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ได้ส่งคำสั่งเข้มงวดไปยังผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ดำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจำนวน 980 ล้านบาท ที่เบิกจ่ายไปแล้วสำหรับการจัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดการใช้งบประมาณในส่วนของค่าเก็บตัวนักกีฬา ค่าเตรียมการจัดการแข่งขัน และค่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับความโปร่งใสและความคุ้มค่านอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ดำเนินการรายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความโปร่งใสต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใน 7 วัน และหากพบความผิดปกติหรือเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยทันที

เผย OCA ยืนยันจัดแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 ที่ไทย

นอกเหนือจากการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังได้สั่งการให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย แจ้งต่อสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ว่าทางการไทยยืนยันจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 ตามพันธะสัญญาอย่างแน่นอน เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยการยืนยันจัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยนับเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่ทำให้เห็นว่าทางภาครัฐมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าภาพอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณในอดีตก็ตาม

ตรวจสอบละเอียด เบิกจ่ายถึง 1,218 ล้านบาท

นอกจากการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ 980 ล้านบาทที่เบิกจ่ายไปแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังได้สั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณที่เสนอขอใช้จัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,218 ล้านบาททั้งนี้ เนื่องจากจำนวนงบประมาณที่มีความแตกต่างจากที่เบิกจ่ายไปแล้วเป็นอย่างมาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงสั่งการให้นำรายละเอียดและเหตุผลความจำเป็นเสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้านการพัฒนากีฬา เพื่อพิจารณาโดยไม่ชักช้า และรายงานยอดงบประมาณที่ผ่านการกลั่นกรองแล้วเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปก่อนที่จะอนุมัติงบประมาณที่เสนอใหม่ ทางกระทรวงจะต้องมั่นใจว่ามีความโปร่งใส คุ้มค่า และปราศจากข้อครหาใดๆ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของสาธารณชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง

สตง.-ปปช. เร่งตรวจสอบการใช้เงินย้อนหลัง 4 ปี

นอกจากตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 แล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังได้แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาดำเนินการตรวจสอบในภาพรวมของการเบิกจ่ายงบประมาณด้านกีฬาในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาการเปิดให้หน่วยงานอิสระเข้ามาตรวจสอบอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ จะช่วยให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารงบประมาณด้านกีฬามากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยให้การจัดการแข่งขัน AIMAG ครั้งที่ 6 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจให้กับทุกฝ่าย
ม.เกษมบัณฑิต ผนึกเครือข่ายจัดคาราวาน ธ.กีฬาสัญจร เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
ห้องเรียนฟุตบอลทั่วประเทศ เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย จัดโครงการ "ธนาคารกีฬาสัญจร (KBU Sport Bank football Clinic On Tour)" เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ และส่งเสริมการพัฒนาและวางรากฐานทางการกีฬาให้กับเด็กและเยาวชน ด้วยการเปิดคลินิกกีฬาฟุตบอลตลอดปี 2567

ยกระดับเยาวชน ด้วยนวัตกรรมการเล่นฟุตบอล

คาราวานธนาคารกีฬาเยือนทั่วไทย

มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิปัญญาวุฒิ, สถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM), บริษัทโรงงานฟุตบอลไทยสปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด ได้กำหนดจัดโครงการ "ธนาคารกีฬาสัญจร (KBU Sport Bank football Clinic On Tour)" เพื่อนำทีมโค้ชหลากประสบการณ์มาถ่ายทอดความรู้และทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนในทุกภูมิภาค โดยเริ่มต้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นการเปิดหน้าปฐมฤกษ์ในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ โรงเรียนเกษมพิทยานอกจากการตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาคนแล้ว โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์สำคัญในการเทิดพระเกียรติยศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ซึ่งถือเป็นปีมหามงคลของประเทศไทยด้วย

วิทยาทานจากหัวหอกตำนาน

ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ได้ระดมกูรูลูกหนังชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ โค้ชหนุ่ย เฉลิมวุฒิ สง่าพล อดีตผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลอายุ 19 ปีทีมชาติไทย, โค้ชหนึ่ง ดร.หนึ่งฤทัย สระทองเวียน อดีตผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย, โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย อดีตผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทย, เสื้อเตี้ย พ.ต.ท.ประสงค์ พันธุ์สวัสดิ์ อดีตแชมป์เดาะบอลโค๊กคัพคนแรกของประเทศไทย และอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย, รวมถึง ร.อ.ธีระพงษ์ ขุนจิตใจ อดีตโค้ชนักฟุตบอลสโมสรอาชีพประเทศภูฏาน และสต๊าฟโค้ชโรงเรียนนายร้อย จปร. ร่วมขนทีมและสต๊าฟมืออาชีพมาให้ความรู้และสาธิตเทคนิคการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่แก่เด็กและเยาวชน แนวทางนี้ไม่เพียงแต่จะพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชนเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังความสำนึกในความเป็นไทย ควบคู่กับการเชิดชูพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกิจกรรมการฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างสร้างสรรค์

ตอบโจทย์ความต้องการสังคม

โครงการ "ธนาคารกีฬาสัญจร" นอกจากจะเป็นการส่งเสริมทักษะกีฬาฟุตบอลสำหรับเด็กและเยาวชนแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตยังตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างโอกาสและพัฒนาทักษะทางกีฬาให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการยกระดับการกีฬาของประเทศในระยะยาว โดยโครงการฯ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค เพื่อให้เด็กๆ ได้รับโอกาสและพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่
See More
ผลบอล : ปรเมศย์ ซัดจุดโทษนำชัย เมืองทอง เปิดรังเชือด ลำพูน
หมาดอีเกมส์แห่งการแข่งขัน: ไทยลีก 2024-25 ร่วมผจญภัยสู่ความเปลี่ยนแปลงการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2024-25 นัดที่ 2 ประจำวันอาทิตย์ 18 ส.ค. 2567 ที่สนาม ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ได้เปิดฉากขึ้นระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด และ "ราชันโคขาว" ลำพูน วอริเออร์ ที่มาพร้อมกับ 3 แต้มจากเกมแรกฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีพลวัตต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และในฤดูกาล 2024-25 นี้ ไทยลีกก็กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งด้านการบริหารจัดการ รูปแบบการแข่งขัน และการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของมวลรวม

ความพยายามต่อฟันฝ่ายอุปสรรคสู่ความสำเร็จ

บทพิสูจน์ครั้งสำคัญของเมืองทองฯ สู่การครองตำแหน่ง การปลดล็อกความเชื่อมั่นและความยิ่งใหญ่เก่าแก่จะนำทัพ "กิเลนผยอง" ไปไกลแค่ไหน การเปิดฉากนัดที่ 2 ด้วยการเผชิญกับคู่แข่งเดก่อกระเป๋าอย่างลำพูน วอริเออร์ จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์ความพร้อมและแผนการเล่นในฤดูกาลนี้ เมืองทองฯ ภายใต้การคุมทีมของ จักรพันธ์ ไพรสุวรรณ บุคลากรระดับตำนานของสโมสร เริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านต้อนรับทีมจากโคขาวที่อันตรายจากเกมแรก ด้วยสภาพความพร้อมที่ยังไม่สุกงอมเต็มที่ทั้งทางร่างกายและทักษะการเล่น การจัดการสถานการณ์ในเกมนี้จึงต้องอาศัยความสุขุม ระมัดระวัง และความสามารถในการควบคุมเกมของเจ้าถิ่น

เกมดึงดันของตายาคอยนิ้วที่จาง

ครึ่งแรกเป็นการดึงอออกของฝ่ายเมืองทองฯ ที่ครองบอลพยายามเปิดเกม แต่กลับพบปัญหาในการบุกเข้าทำประตู จังหวะโดดเด่นที่สุดของทีมคือในนาทีที่ 15 จาก คคนะ คำยก แต่โดนไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ทำให้ผู้ตัดสินต้องเช็กกับระบบ VAR ก่อนตัดสินไม่ให้ประตู เกมยังเสมออยู่ที่ 0-0ฝั่งลำพูน วอริเออร์ ก็มีจังหวะเข้าทำประตูในนาทีที่ 30 จาก จูเนียร์ บาติสต้า แต่กลับถูกดับคาน ทำให้เกมยังคงสู้กันอย่างเท่าทัน ในช่วงท้ายครึ่งแรก เมืองทองฯ เกือบบุกมาได้ประตูนำจาก เดนิส บุชน์ยา แต่บอลยังติดบล็อกผู้เล่นลำพูน สุดท้ายครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ที่เสมอกัน 0-0

กรรมสนามลูกหนังแห่งชะตา

ในครึ่งหลัง เมืองทองฯ ได้เติมเต็มกำลังความพร้อมด้วยการส่ง เฟลิซิโอ บราวน์ ลงมาทดแทน วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ขณะที่ ลำพูน วอริเออร์ ก็ปรับเกมด้วยการส่ง ริคาโด้ โลเปซ และ นพพล เกิดแก้ว ลงสนามแม้เริ่มต้นครึ่งหลังมาได้ไม่ดีนักสำหรับ เมืองทองฯ เมื่อต้องมาตามตีเสมอจาก ลำพูน วอริเออร์ในนาทีที่ 67 จาก อนันต์ ยอดสังวาลย์ กระนั้น ก็พบกับจังหวะคัมแบ็คในนาทีที่ 76 เมื่อ ริคาโด้ โลเปซ กระทำความผิดในกรอบเขตโทษ ทำให้ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้ซัดจุดโทษนำเมืองทองฯ ขึ้นนำ 1-0ในช่วงเวลาที่เหลือ ลำพูน วอริเออร์ พยายามที่จะทวงคืนประตูเพื่อเอาใจ 3 แต้มกลับมา แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งส่งผลให้ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะเหนือ ลำพูน วอริเออร์ 1-0 ในนัดประเดิมสนามไปได้สำเร็จ
See More