สัตว์เลี้ยง
เซเว่นฯ ปูพรม ‘Happy Pets‘ มุมขายอาหารสัตว์เลี้ยง 24 ชั่วโมง กว่า 5,700 สาขา

เปลี่ยนสัตว์เลี้ยงให้เป็นสมาชิกในครอบครัว: การยกระดับการดูแลของคนรักสัตว์และโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในวิธีที่คนจำนวนมากมองและปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยง ปรากฏการณ์ "Pet Humanization" นี้ได้สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อภาคธุรกิจ และก่อให้เกิดการเติบโตอย่างมหาศาลในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มในการเลี้ยงสัตว์เป็นของตนเองมากขึ้น

เมื่อสัตว์เลี้ยงคือสมาชิกในครอบครัว: ความผูกพันที่ลึกซึ้งและการยอมจ่ายอย่างไม่อั้น

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในยุคใหม่: จากเพื่อนคู่ใจสู่สมาชิกคนสำคัญในครอบครัว

ในอดีต การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมักจะถูกมองว่าเป็นการเพิ่มความสนุกสนานหรือเพื่อเป็นเพื่อนคู่ใจ แต่ในปัจจุบัน เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีที่คนรุ่นใหม่มองและปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยง ด้วยการยกระดับให้สัตว์เลี้ยงกลายเป็นสมาชิกที่สำคัญของครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของคนโสดหรือคู่รักที่ยังไม่มีบุตร การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้กลายเป็นทางเลือกในการสร้างความผูกพันและความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

การเติบโตของ "Pet Humanization": ทาสหมา ทาสแมวยอมจ่ายอย่างไม่อั้นเพื่อตอบสนองความปรารถนา

ตัวเลขจากการศึกษาวิจัยของ Krungthai COMPASS มีการระบุว่า เกือบ 70% ของผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว และอีกกว่า 66% มีความรักและความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงของตนมาก ซึ่งปรากฏการณ์ "Pet Humanization" นี้พบมากที่สุดในกลุ่มคนอายุ 18-34 ปี หรือที่เรียกว่ากลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นอีกถึง 65% ภายใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยการยอมจ่ายอย่างไม่อั้นเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของตนได้รับการดูแลเสมือนสมาชิกในครอบครัว

ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวรับมือ "Pet Humanization": โอกาสที่ทองคำแท้สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

ปรากฏการณ์ "Pet Humanization" ได้สร้างโอกาสทางการตลาดที่น่าตื่นเต้นสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งวันนี้คนเลี้ยงสัตว์รุ่นใหม่ไม่ต้องเตรียมนานหรือตุนยาวแล้ว แต่สามารถหาซื้อได้สะดวกใกล้บ้านและเสิร์ฟแบบ 24 ชั่วโมง โดยมีผู้บริหารชั้นนำของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำเชื่อว่า พื้นที่จำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้ชื่อ "Happy Pets" จะกลายเป็น "จุดหมายปลายทาง" ของคนรักสัตว์เลี้ยงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การปรับตัวเพื่อรับมือกับเมกะเทรนด์ใหม่: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับเมกะเทรนด์ "Pet Humanization" นี้ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์รุ่นใหม่ และออกแบบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา ดังเช่นการเปิดพื้นที่ขาย "Happy Pets" ในร้าน 7-Eleven เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่มีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสอันทองคำสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลาย
เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมกับ PCG เอาใจ Pet Parents เปิดตัว  “Happy Pets” มุมจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ในร้าน 7-11 สะดวก สบาย ใกล้บ้าน  – บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน)
ร้านค้าสะดวกซื้อแห่งอนาคตสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงเปิดมุมจำหน่าย "Happy Pets" ในร้าน 7-Eleven ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเลี้ยงสัตว์ ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นในปัจจุบัน เทรนด์ "Pet Humanization" กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มสูงขึ้นในหมู่วัยคนรุ่นใหม่ ซึ่งมักเป็นกลุ่มที่ยังโสด ไม่แต่งงาน หรือมีบุตร จึงมองหาสัตว์เลี้ยงเป็นทางเลือกและทดแทนการมีครอบครัว โดยมีการเอาใจใส่ดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้เกิดความผูกพันระหว่างผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้นกลิบหัวใจคนรักสัตว์เลี้ยงเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยง ทางเซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้เปิดมุม "Happy Pets" ภายในร้าน คือมุมจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ที่สร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้สนับสนุน

ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต

จากปรากฏการณ์ของ "Pet Humanization" ที่กำลังเป็นแนวโน้มสำคัญในตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ความใส่ใจและความผูกพันระหว่างผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้อุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังเน้นรูปแบบสินค้าที่มอบความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เลี้ยง

เซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งตอบสนองความต้องการนี้

ทางเซเว่น อีเลฟเว่น โดยมีการสนับสนุนจาก บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ครบวงจร ได้เล็งเห็นโอกาสและความต้องการของตลาด จึงได้เปิดมุม "Happy Pets" ภายในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ เพื่อมอบความสะดวกสบายแก่ผู้เลี้ยงสัตว์ด้วยการจัดหาสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพและครบวงจรในทุกร้าน

ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากผู้นำตลาด

ภายในมุม "Happy Pets" จะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ สมาร์ทฮาร์ทและมีโอ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่าง เจมส์ - จิรายุ และ เจเจ - กฤษณภูมิ มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจในผลิตภัณฑ์นอกจากนี้ ทางบริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จำหน่ายเฉพาะใน 7-Eleven เท่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์ในทุกช่วงวัยและทุก Segment อย่างครบถ้วน โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา "Happy Pets" ให้เป็น Destination สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงที่ให้ความสุข ความอร่อย และสุขภาพที่ดีแก่สัตว์เลี้ยง

ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว

จากผลการวิจัยของ Krungthai COMPASS พบว่า เกือบ 70% ของผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว และอีก 66% มีความรักและความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงของตนมาก โดยกลุ่มที่แสดงพฤติกรรม "Pet Humanization" มากที่สุดคือวัยคน Gen Y หรือมิลเลนเนียล ซึ่งมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองถึง 75% และมีแนวโน้มที่จะเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าถึง 65%ด้วยเหตุนี้ เซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้เปิดมุม "Happy Pets" เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านี้ ด้วยการจัดหาสินค้าคุณภาพสูงและหลากหลายรูปแบบ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความสุขเล็ก ๆ ให้กับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง

เซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งมั่นพัฒนามุม "Happy Pets"

ในปัจจุบัน ทาง 7-Eleven ได้เปิดมุม "Happy Pets" ให้บริการแล้วกว่า 5,700 สาขา ทั่วประเทศ และมีแผนที่จะยกระดับการให้บริการ โดยจะมีการจัดกิจกรรมโปรโมชันพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์และสัตว์เลี้ยง ทั้งในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน 7-Eleven TH และแฟนเพจ 7-Eleven Thailand เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทางการเข้าถึงคนรักสัตว์เลี้ยงได้อย่างรอบด้าน อีกทั้งยังเป็นการส่งมอบความสุขเล็ก ๆ ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน
See More
บริษัทในออสเตรเลียให้พา ‘น้องหมา’ มาทำงานด้วย ช่วยลดความเครียดพนักงาน
การเปลี่ยนสำนักงานให้เป็น "พื้นที่ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง" ทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น

สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับพนักงานออฟฟิศ

ในปัจจุบัน แนวคิดของการพาสัตว์เลี้ยงมาทำงานร่วมกับพนักงานในออฟฟิศเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในออสเตรเลีย ซึ่งได้มีบริษัทต่างๆ นำแนวคิดนี้มาใช้อย่างแพร่หลาย ผลที่ตามมาคือ พนักงานที่ได้ทำงานร่วมกับสัตว์เลี้ยงมีความสุขในการทำงานมากขึ้น ความเครียดลดลง และประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มสูงขึ้น

สุนัขในออฟฟิศ ทำให้พนักงานมีสมาธิมากขึ้น ลดความกังวลและเพิ่มผลผลิต

ออฟฟิศเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ดึงดูดและรักษาพนักงานไว้ได้ดี

การศึกษาวิจัยของ Human Animal Bond ในปี 2018 พบว่า บริษัทที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มที่จะดึงดูด จูงใจ และรักษาพนักงานไว้ได้มากกว่าบริษัทอื่นๆ นอกจากนี้ รายงานของ PetSure ในปี 2024 ยังระบุว่า การมีสัตว์เลี้ยงในสำนักงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มการทำงานร่วมกัน และลดความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งสอดคล้องกับประสบการณ์ของ RACT ในออสเตรเลีย ที่ได้เปิดโครงการ "Furry Friday" ขึ้นมา

ประโยชน์ที่พนักงานได้รับจากการทำงานร่วมกับสุนัข

พนักงาน RACT จำนวนมากรายงานว่า พวกเขาได้รับประโยชน์มากมายจากการมีสุนัขอยู่ในสำนักงาน โดยแอนนิต้า วิลเลียมส์ บอกว่า การที่เธอพา "เบิร์ต" สุนัขตัวน้อยของเธอเข้ามาที่ออฟฟิศด้วยนั้น ช่วยลดความเครียดลงได้อย่างแน่นอน และทำให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น ในขณะที่มอร์แกน ลอว์เลอร์ กล่าววา่ การมีเพื่อนที่ดีที่สุดอย่าง สเตลล่า สุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์อยู่เคียงข้างเขาในที่ทำงาน ทำให้เกิดบรรยากาศที่ "เงียบสงบ" สำหรับ คริสตี้ สโตน ยังมองว่า การที่เธอมีสุนัขพันธุ์เคลปี้ชื่อโกโก้อยู่ด้วยในออฟฟิศ ช่วยให้เธอสามารถสร้างความสัมพันธ์ภายในธุรกิจได้ดีขึ้น ทำให้หลายคนเข้ามาทักทายและพูดคุยเรื่องต่างๆ กับเธอมากขึ้น

การบริหารจัดการให้สำนักงานเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

ในการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในสำนักงาน RACT ได้มีการกำหนดมาตรการที่ชัดเจน เช่น มีการจัดทำ "บัญชีรายชื่อสุนัข" เพื่อบริหารจัดการจำนวนสุนัขที่จะเข้ามาในออฟฟิศในแต่ละวัน และมีการขยายโครงการจาก 1 วันเป็น 5 วัน เพื่อให้พนักงานทุกคนได้มีโอกาสเข้าร่วม นอกจากนี้ ยังต้องมีการพูดคุยกับพนักงานทุกคน และตรวจสอบความเหมาะสม ก่อนอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามา เช่น ตรวจสอบการแพ้ขนหรือการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ข้อควรพิจารณาในการเลือกสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมสำหรับออฟฟิศ

นอกจากการจัดการภายในให้เป็นระบบแล้ว ยังต้องพิจารณาเรื่องชนิดของสัตว์เลี้ยงที่จะนำมาทำงานในออฟฟิศด้วย ซึ่งทางผู้บริหาร CANA ระบุว่า สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมที่สุด ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละที่ ทั้งนี้ไม่ควรนำ "Exotic pet" เช่น งู แมงมุม หรือกระต่าย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงและเป็นที่รังเกียจ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการนำสุนัขและแมวมารวมกันในห้องเดียวกัน เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น

การสร้างสมดุลระหว่างความต้องการของพนักงานและการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์เลี้ยง

การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในสำนักงานต้องอาศัยความระมัดระวังและการสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความยุติธรรมทั้งต่อพนักงานและสัตว์เลี้ยง ซึ่งบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมีมาตรการรองรับ เช่น จัดเตรียมพื้นที่ภายในที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยง ตลอดจนการฝึกฝนให้สัตว์เลี้ยงมีพฤติกรรมที่เหมาะสมต่อการอยู่ร่วมกับมนุษย์ในบริบทของสำนักงาน
See More