ความบันเทิง

Warner Bros. ยังไม่แผ่ว ส่ง ‘Beetlejuice Beetlejuice’ เปิดตัวทั่วโลก 145 ล้านเหรียญ

การกลับมาของ Beetlejuice ทำสถิติเปิดตัวสูงสุดในรอบ 6 ปีของ Warner Bros. Discovery

หลังจากส่ง Dune: Part Two และ Godzilla x Kong: The New Empire ไปทำรายได้อย่างสูงมหาศาล ล่าสุด Warner Bros. Discovery ก็สามารถสร้างความสำเร็จอีกครั้งจากผลงานล่าสุดของ Tim Burton อย่าง Beetlejuice Beetlejuice ที่ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ สูงถึง 110 ล้านเหรียญ ถือเป็นการทำสถิติใหม่ของผลงานเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนของบริษัท

สร้างความปังทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ภาพยนตร์ทำรายได้เริ่มต้นทั่วโลกอยู่ที่ 145.4 ล้านเหรียญ

ความสำเร็จอย่างงดงามของ Beetlejuice Beetlejuice

ความสำเร็จอย่างงดงามของ Beetlejuice Beetlejuice เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการกลับมารับบทของนักแสดงตัวเอกจากภาพยนตร์ต้นฉบับ อาทิ Michael Keaton, Winona Ryder และ Catherine O'Hara ที่ได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ อย่างอบอุ่น รวมถึงการเสริมทัพด้วยนักแสดงสาวมาแรงอย่าง Jenna Ortega ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจากซีรีส์ Wednesday ของ Netflix ที่กำกับโดย Tim Burton เช่นกัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ อีกครั้งนอกจากนี้ การที่ Tim Burton กลับมากำกับภาพยนตร์ในเรื่องราวโลกวิญญาณสุดแปลกประหลาดอีกครั้ง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Beetlejuice Beetlejuice ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเปิดตัวแกร่งกว่า Dune: Part Two และ Godzilla x Kong: The New Empire ทั้งในตลาดสหรัฐฯ และต่างประเทศ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความต้องการของแฟนๆ ต่อผลงานของ Tim Burton ที่ยังคงแรงม้าอย่างยาวนาน

ตอกย้ำความเป็น Blockbuster ของ Tim Burton กับสถิติที่โดดเด่น

ความสำเร็จของ Beetlejuice Beetlejuice ไม่เพียงทำลายสถิติเปิดตัวในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 2 ของ Tim Burton รองจาก Alice in Wonderland (2010) ที่ทำไว้ 116.1 ล้านเหรียญ และยังเป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดลำดับที่ 2 ของ Jenna Ortega รองจาก Iron Man 3 (2013) ที่ทำไว้ 174.1 ล้านเหรียญ อีกด้วยสถิติดังกล่าวยิ่งเป็นการยืนยันถึงความเป็น Blockbuster ของผลงานของ Tim Burton ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการพิสูจน์ว่า Beetlejuice Beetlejuice ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ ภายหลังจากผ่านไประยะเวลากว่า 35 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ต้นฉบับเข้าฉายเมื่อปี 1988

เตรียมความพร้อมล่าตลาดทั่วโลก หลังกำลังจะเข้าฉายในอีก 7 ประเทศสำคัญ

ความสำเร็จของ Beetlejuice Beetlejuice ในการเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกนั้น ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ตลาดสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังขยายความสำเร็จไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย โดยในสัปดาห์แรกสามารถทำรายได้ในตลาดต่างประเทศไปแล้ว 35.4 ล้านเหรียญ ขึ้นอันดับ 1 ใน 40 ประเทศทั่วโลกทั้งนี้ยังมีแผนที่จะเข้าฉายในอีก 7 ประเทศสำคัญในสัปดาห์หน้า รวมถึงฝรั่งเศส, เยอรมนี และญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้รวมทั่วโลกของ Beetlejuice Beetlejuice เพิ่มขึ้นไปอีก นับเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก้าวขึ้นสู่การเป็น Blockbuster ระดับโลกอย่างแท้จริง

ความสำเร็จงาม "วิมานหนาม" ขึ้นแท่นไอดอลหนังไทยที่สะท้อนความจริงสังคม

กระแสความนิยม "วิมานหนาม" ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างปรากฏการณ์เคลื่อนไหวทางสังคมอย่างมาก ล่าสุดค่าย "จีดีเอช" ร่วมกับ "ใจ สตูดิโอ" จัดงานฉลองความสำเร็จที่กำลังพุ่งทะยานสู่รายได้ 150 ล้านบาท

ไอดอลใหม่ของหนังไทยที่เปลี่ยนแปลงวงการ

ปรากฏการณ์คนบอกต่อยังคงแรง

ไม่เพียงแค่ความสำเร็จทางด้านรายได้เท่านั้น แต่ "วิมานหนาม" ยังกลายเป็นหนังไทยที่สร้างปรากฏการณ์อินเกินต้านด้วยกระแสบอกต่อที่ยังคงดุเดือด หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายเต็มโรงแน่นรอบ ล่าสุดนักแสดงนำ เจฟ, อิงฟ้า และเก่ง ได้ขึ้นเวทีเพื่อขอบคุณแฟนๆ ที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ โดยยอมรับว่าตอนแรกไม่คิดว่าจะทำรายได้ถึงขนาดนี้ เป็นเพราะกระแสบอกต่อที่แรงกล้าเกินคาด ซึ่งส่งผลให้หนังเรื่องนี้ทะยานขึ้นที่สูงได้อย่างน่าทึ่ง

ความเท่าเทียมทางสังคม ปัญหาเจ้าขุนมูลนายที่ยังคงอยู่

นอกจากความสำเร็จทางด้านรายได้แล้ว "วิมานหนาม" ยังเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างชัดเจน โดยมีการกล่าวถึงปัญหาดังกล่าวที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลอย่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างคนในเมืองและในชนบทอย่างมาก อาทิ ระบบสาธารณูปโภค และโอกาสทางการศึกษา รวมถึงการเข้าถึงสื่อบันเทิงอย่างโรงภาพยนตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ยังคงดำรงอยู่ในสังคมไทย ซึ่งเป็นประเด็นที่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์ได้สะท้อนและเน้นย้ำออกมาอย่างชัดเจน

ก้าวไกลสู่ตลาดโลก

ความสำเร็จของ "วิมานหนาม" ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เมื่อล่าสุดภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ไปฉายเป็น International Premiere ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 49 ที่ประเทศแคนาดา และจะมีการฉายยังประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งถือเป็นอีกขั้นของความสำเร็จที่พิสูจน์ว่า "วิมานหนาม" ไม่ใช่เพียงหนังไทยแต่เป็นหนังที่มีศักยภาพสามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้อย่างแท้จริง

เกม Dragon Ball Sparking! Zero เผยตัวละครใหม่ก่อนเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

เมื่อใกล้เวลาวางจำหน่ายเกม Dragon Ball Sparking! Zero แล้ว ทางทีมงานก็ยังคงเปิดเผยตัวละครใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตื่นเต้นและสร้างความคาดหวังให้กับแฟนๆ ทั้งนี้ ตัวละครที่ถูกเปิดเผยในครั้งนี้ไม่เพียงแต่มาในร่างเดิมๆ แต่ยังมีรูปแบบที่หลากหลายและน่าสนใจอีกด้วย

แฟนเกม Dragon Ball ห้ามพลาด เกม Dragon Ball Sparking! Zero เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้!

สรุปตัวละครใหม่ที่จะปรากฏในเกม Dragon Ball Sparking! Zero

ในการเปิดเผยครั้งล่าสุดนี้ ทางทีมงานได้มีการประกาศตัวละครใหม่ที่จะปรากฏในเกม Dragon Ball Sparking! Zero ดังนี้:- เกรทไซย่าแมน ในร่างสวมแว่นและผ้าโพกหัว พร้อมท่าทางการแนะนำตัวที่ทำให้หลายคนต้องย่น- โกฮัง ในร่างอันติเมท ที่ได้รับพลังจากผู้เฒ่าไคโอชิน- ฉากการต่อสู้ของโกคูในร่างซูเปอร์ไซย่า 3 กับจอมมารบูร่างอ้วน- ฉากการต่อสู้ของเบจิโต้ กับจอมมารบูที่ดูดซับพลังของโกฮังอันติเมทลงไป- ฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของโกคู กับจอมมารบูร่างเด็กนอกจากนี้ ยังมีตัวละครใหม่อื่นๆ ที่จะปรากฏในเกมอีกหลายตัว อาทิ พ่อมดบาบิดี้และลูกสนุนปุยปุย, เบจิต้าที่ถูกบาบีดี้ดึงพลัง, และจอมมารบูในหลากหลายร่าง ไม่ว่าจะเป็นร่างอ้วน ร่างผอมตัวดำ ร่างผมตัวชมพู และแม้แต่ร่างเด็ก ซึ่งเป็นรูปแบบที่ปรากฏในเรื่องราวของ Dragon Ball

ความพิเศษของเกม Dragon Ball Sparking! Zero

เกม Dragon Ball Sparking! Zero นับเป็นเกมต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 ที่รวบรวมตัวละครในซีรีส์ Dragon Ball มาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตัวหลัก ตัวประกอบ หรือตัวเสริม ซึ่งทุกตัวละครจะได้รับการนำมาใส่ในเกมนี้ตามที่ปรากฏในเรื่องราวนอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มโหมดเนื้อเรื่องใหม่เข้ามาในเกมด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับฉากการต่อสู้ที่สนุกและน่าติดตาม อาทิ ฉากที่โกคูในร่างซูเปอร์ไซย่า 3 ต่อสู้กับจอมมารบูร่างอ้วน, ฉากที่เบจิโต้ต่อกรกับจอมมารบูที่ดูดซับพลังของโกฮังอันติเมท, และฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างโกคูกับจอมมารบูร่างเด็กเกม Dragon Ball Sparking! Zero จะวางจำหน่ายในวันที่ 11 ตุลาคม 2567 บน PlayStation 5, Xbox Series และ PC ดังนั้น แฟนๆ ของ Dragon Ball ไม่ควรพลาดที่จะได้ลองเล่นเกมนี้ เพื่อสัมผัสกับการต่อสู้ที่สุดเหนือจินตนาการของตัวละครแบบ 1 ต่อ 1 อย่างแน่นอน

จุดเด่นของจอมมารบูในเกม Dragon Ball Sparking! Zero

หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของเกม Dragon Ball Sparking! Zero คือการที่ทางทีมงานได้นำเสนอจอมมารบูในหลากหลายรูปแบบ ตามที่ปรากฏในเรื่องราวของ Dragon Ballไม่เพียงแต่จอมมารบูในร่างอ้วน แต่ยังมีจอมมารบูในร่างผอมตัวดำ ซึ่งปรากฏตัวออกมาเมื่อจอมมารบูร่างอ้วนโกรธสุดขีด จนทำให้น้องหมาและมิสเตอร์ซาตานถูกคนร้ายยิงนอกจากนี้ ยังมีจอมมารบูร่างผมตัวชมพู ที่เกิดจากการที่จอมมารบูร่างอ้วนถูกกิน อีกทั้งยังมีจอมมารบูที่ดูดซับร่างของโกเท็นคูสลงไป และจอมมารบูในร่างที่ดูคล้ายโกฮังอันติเมทปิดท้ายด้วยจอมมารบูร่างเด็ก ซึ่งเป็นร่างสุดท้ายในเรื่องราวของ Dragon Ball ทำให้ผู้เล่นได้เห็นจอมมารบูในรูปแบบที่หลากหลายและน่าสนใจ

โหมดเนื้อเรื่องในเกม Dragon Ball Sparking! Zero

นอกจากการเพิ่มตัวละครใหม่แล้ว เกม Dragon Ball Sparking! Zero ยังมีการเพิ่มโหมดเนื้อเรื่องใหม่เข้ามาด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับฉากการต่อสู้ที่สนุกและน่าติดตามอาทิ ฉากการต่อสู้ของโกคูในร่างซูเปอร์ไซย่า 3 กับจอมมารบูร่างอ้วน, ฉากการต่อสู้ของเบจิโต้กับจอมมารบูที่ดูดซับพลังของโกฮังอันติเมทลงไป, และฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของโกคูกับจอมมารบูร่างเด็กซึ่งฉากการต่อสู้เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความสนุกและเร้าใจให้กับผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการชมฉากการต่อสู้ที่สุดเหนือจินตนาการ หรือการได้ลองเล่นด้วยตัวเองด้วยเหตุนี้ เกม Dragon Ball Sparking! Zero จึงเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนๆ ของ Dragon Ball ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 แล้ว ยังจะได้สัมผัสกับฉากการต่อสู้ที่สุดเหนือจินตนาการอีกด้วย