สัตว์เลี้ยง
“เลขาธิการ TSPCA” ติดตามการแก้ไขปัญหาเพลิงไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยงจตุจักร
อาการรอเจือจางของความเจ็บปวดจากเหตุการณ์แห่งความพลั้งพลาดความเศร้าโศกอันเนื่องมาจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนั้น ณ ตลาดศรีสมรัตน์ ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับบรรดาผู้รักสัตว์และประชาชนทั่วไป เพราะมีสัตว์จำนวนมากถูกไฟคลอกจนสูญเสีย มากกว่า 5,000 ชีวิต แม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือน แต่ก็ยังไม่เห็นการดำเนินการใด ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอันน่าเศร้านี้

การเปิดทางสู่การเยียวยาสวัสดิภาพสัตว์ที่ยั่งยืน

ติดตามสถานการณ์และวางแผนป้องกัน

ทางสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และองค์กรเครือข่าย ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางในการร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหา ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ให้เกียรติเชิญตัวแทนขององค์กรเครือข่ายเข้าร่วมประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังป้องกันเหตุการณ์ที่คล้ายกันจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแผนงานพัฒนา

นอกจากการติดตามสถานการณ์แล้ว สมาคมฯ และองค์กรเครือข่าย ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์เพลิงไหม้ ตลอดจนแผนการดำเนินการพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานที่ขายสัตว์เลี้ยง ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น รวมถึงมาตรการและแผนระงับเหตุป้องกันอัคคีภัยและด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำอีก

สนับสนุนองค์ความรู้ด้านสวัสดิภาพสัตว์

ทางสมาคมฯ และองค์กรเครือข่าย พร้อมที่จะให้การสนับสนุนองค์ความรู้ทางวิชาการด้านการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ในการจัดทำคู่มือแนวทางการปฏิบัติมาตรฐาน ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2561 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการขายสัตว์เลี้ยง สามารถขออนุญาตและดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังจะสนับสนุนให้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์ และการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีสัตว์ประสบภัย เพื่อพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย

นอกจากนี้ สมาคมฯ และองค์กรเครือข่าย จะร่วมกันติดตามให้มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ที่ดียิ่งขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย
Pet Us จับมือพันธมิตรแบรนด์อาหารสัตว์ชั้นนำ จัดกิจกรรม “Pet Us พันธุ์ทางพันธุ์เท่” เปิดพื้นที่ชวนคนรักสัตว์ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์เลี้ยง
ธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงครบวงจร จาก 'เพ็ทอัส' ภายใต้ 'โลตัส''เพ็ทอัส' (Pet Us) เป็นธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงครบวงจร ภายใต้ 'โลตัส' ที่จับมือพันธมิตรแบรนด์อาหารสัตว์ชั้นนำ จัดกิจกรรม "Pet Us พันธุ์ทางพันธุ์เท่" เพื่อตอกย้ำจุดยืนในการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงทุกรูปแบบ และส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือแก่มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ทั่วประเทศ

เพ็ทอัส...ธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงที่แตกต่าง ด้วยความใส่ใจที่ครบวงจร

ภารกิจสำคัญที่ 'เพ็ทอัส' มุ่งมั่นดำเนินการ

'เพ็ทอัส' มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจร โดยการจัดกิจกรรม "Pet Us พันธุ์ทางพันธุ์เท่" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหญ่ในการฉลองครบรอบ 3 ปี โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์และความพิเศษที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการมุ่งเป็นผู้นำเทรนด์ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ด้วยการศึกษารูปแบบและพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างประสบการณ์ประทับใจที่โดดเด่นและแตกต่าง พร้อมกับการส่งเสริมคอมมูนิตี้คนรักสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ

การสานต่อความมุ่งมั่นให้ครบวงจร

ภายใต้กิจกรรม "Pet Us พันธุ์ทางพันธุ์เท่" 'เพ็ทอัส' ได้ดำเนินการหลากหลายโครงการ อาทิ การเปิดพื้นที่ให้คนรักสัตว์ได้ซื้อสินค้าในราคาพิเศษจากแบรนด์พันธมิตร เพื่อร่วมบริจาคอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงให้กับมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ 8 แห่งทั่วประเทศ การบริการฉีดวัคซีนฟรีให้กับสุนัขและแมวในชุมชน กิจกรรมตัดขนสุนัข และการให้บริการช่วยหาบ้านให้สัตว์จรจัด รวมถึงจัดให้มีสินค้าราคาพิเศษจากพันธมิตร และเชิญ 2 อินฟลูเอนเซอร์ที่มีใจรักสัตว์มาร่วมสร้างความสนุกสนานให้แก่คนรักสัตว์ที่มาร่วมงานด้วย

การขยายสาขาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้าถึง

ปัจจุบัน 'เพ็ทอัส' มีสาขาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย กระจายอยู่ใน 18 สาขาของ 'โลตัส' ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด อาทิ สาขาพัฒนาการ สาขาบางนา สาขาลาดกระบัง สาขารัตนาธิเบศร์ สาขาบางใหญ่ สาขานอร์ธราชพฤกษ์ สาขานครอินทร์ สาขาขอนแก่น 2 สาขาอุบลราชธานี สาขาถลาง (ภูเก็ต) สาขาสามกอง (ภูเก็ต) สาขาเชียงใหม่ (คำเที่ยง) สาขานครปฐม สาขาหัวหิน สาขาโคราช สาขาศรีนครินทร์ สาขาสุขุมวิท 50 และสาขาพระราม 4 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและเข้าถึงสำหรับลูกค้าและผู้ที่มีความรักและหวงแหนสัตว์เลี้ยงทุกคน

การขับเคลื่อนธุรกิจสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง

'เพ็ทอัส' ไม่ได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจเพียงเพื่อจำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและประทับใจให้แก่ลูกค้า อีกทั้งยังมุ่งส่งเสริมคอมมูนิตี้ของคนรักสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในธุรกิจและการดูแลสัตว์เลี้ยงในระยะยาว
See More
มูลค่าตลาด “สัตว์เลี้ยง” ปี’67 ชะลอการเติบโต “รพส.ทองหล่อ” ชี้คนรับเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่น้อยลง

แนวโน้มตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงไทยค้างวงงบน้อยลง แต่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมธุรกิจสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปีนี้ แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงรักษาระดับการขยายตัวได้อย่างน่าพอใจ ตามการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้

ช่องทางการเติบโตของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในอนาคตที่น่าจับตามอง

ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการขยายตัวจะชะลอตัวลง

สพญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับ "สัตว์เลี้ยง" ซึ่งรวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยง จะเติบโตแตะ 1.12 แสนล้านบาทภายในปี 2567 โดยมีอัตราเติบโตประมาณ 6-8% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าจะถือว่าเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปีในอดีตการชะลอตัวในอัตราการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงนี้ เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายในหมวดอาหารสัตว์เลี้ยงลูกสุนัขและลูกแมว ตลอดจนยอดขายจากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงลดลง ขณะที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่แล้วก็ไม่มีการเพิ่มเติม และคนที่ยังไม่มีสัตว์เลี้ยงก็เลือกที่จะไม่รับเลี้ยงในปีนี้

ในระยะยาว กระแสการเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหลานคนหนึ่งยังคงเป็นเทรนด์หลัก

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแล้ว สพญ.กฤติกา มองว่า กระแสการเลี้ยงสัตว์เสมือนเป็นลูกหลานคนหนึ่ง (Pet Humanization) จะยังคงเป็นเทรนด์หลักในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ต้องการมีคู่แต่ไม่มีลูก (DINK) และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสังคมไทย ซึ่งมักจะเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้ปัญหาความเหงาพูลเพิ่ม ทองเจริญพูลพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน รพส.ทองหล่อ กล่าวเสริมว่า เมื่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงให้ความสำคัญกับน้องๆ สุนัขและแมวมากขึ้น ก็จะยินดีใช้จ่ายมากขึ้นในการดูแลเช่นกัน โดยจากการวิจัยพบว่า เจ้าของสุนัขพันธุ์ใหญ่จะใช้จ่ายในการดูแลเฉลี่ย 28,000 บาทต่อปี และเจ้าของสุนัขพันธุ์เล็กจะใช้จ่ายเฉลี่ย 24,000 บาทต่อปี

รพส.ทองหล่อเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ

จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ รพส.ทองหล่อ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ในไทย มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 จะมีการเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ สาขาเชียงใหม่แอร์พอร์ตที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี และสาขาอโศก-ประสานมิตร ที่จะเปิดตัวช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ รพส.ทองหล่อ มีครบทั้งหมด 21 สาขาในปีนี้ส่วนในปีถัดไป (2568) แม้จะไม่มีการเปิดสาขาใหม่ แต่ รพส.ทองหล่อ จะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในการย้ายและขยายพื้นที่สาขาปิ่นเกล้า จากเดิมเป็นตึกแถวพื้นที่เล็กเพียง 600-700 ตารางเมตร ไปยังทำเลใหม่ที่ตรงข้ามตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี พื้นที่ใหญ่ขึ้นเป็น 4,500 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทนอกจากการขยายธุรกิจในประเทศไทยแล้ว รพส.ทองหล่อ ยังมีการลงทุนในประเทศเวียดนามอีกด้วย โดยปัจจุบันได้เปิดโรงพยาบาลแห่งแรกที่เมืองโฮจิมินห์ และอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรร่วมทุนเพื่อเปิดสาขาที่ 2 ในเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นที่กรุงฮานอยหรือขยายไปยังเมืองอื่นๆขณะเดียวกัน รพส.ทองหล่อ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านบุคลากรและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยมีการจัดตั้ง "Thonglor Academy" เพื่อฝึกอบรมและพัฒนานิสิตนักศึกษาในการเป็นสัตวแพทย์ พยาบาลสัตว์ และเปิดโอกาสให้สัตวแพทย์จากต่างประเทศเข้ามาอบรมเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการลงทุนในอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และระบบเทคโนโลยีในส่วนของ "หลังบ้าน" เพื่อช่วยให้บุคลากรทำงานได้สะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น
See More