น้องแมวสุดน่ารักชวนหาห้องพักรับใช้

อย่าโฟกัสผิดจุด! มาดูเรื่องจริงของสาวหาห้องรับเลี้ยงสัตว์ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังภาพน้องแมวน่ารักๆ ที่กลายเป็นไฮไลท์เด่นในโลกโซเชียล

เจ้าของโพสต์สุดประชันมาเอาเข้าจริง

สร้างความฮือฮาด้วยโพสต์ขอความช่วยเหลือหาห้องพักที่รับเลี้ยงสัตว์ได้ สาวเจ้าของโพสต์กลับกลายเป็นที่จับตามองในโลกโซเชียล เมื่อคนสนใจมาที่ภาพของน้องแมวในโพสต์มากกว่าข้อมูลห้องพักโพสต์ดังกล่าวเป็นการอัพเดตสถานการณ์ของสาวที่กำลังมองหาห้องพักที่รับเลี้ยงสัตว์ได้ซึ่งถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่หลายคนประสบในปัจจุบัน แต่กลับกลายเป็นว่าโซเชียลมีเดียต่างสนใจไปที่ภาพของน้องแมวสองตัวในโพสต์มากกว่าเรื่องราวและข้อมูลห้องพักที่แท้จริง

ภาพน้องแมวเรียกความสนใจชิงบทบาท

ทั้งนี้ จากการสอบถามของผู้สื่อข่าว พบว่า สาวเจ้าของโพสต์ตั้งใจจะหาห้องพักที่รับเลี้ยงสัตว์ได้เพื่อให้น้องแมวสองตัวของเธอ คือ "กุมภา" และ "โบตั๋น" มีที่พักอาศัย แต่กลับกลายเป็นว่าภาพน้องแมวน่ารักๆ กลับสร้างความฮือฮาและชิงบทบาทเป็นไฮไลท์ของโพสต์ไปน้องแมวตัวแรกเป็นแมวสีขาวชื่อ "กุมภา" อายุ 1 ปี 6 เดือน เพศผู้ ส่วนน้องแมวตัวที่สองเป็นแมวสีบลู ชื่อ "โบตั๋น" อายุ 1 ปี 3 เดือน เพศเมีย ซึ่งต่างก็เป็นมิตรและน่ารักตามธรรมชาติของพวกมัน

โซเชียลแห่แซวน้องแมว ลืมไปว่ามีปัญหาเร่งด่วนรออยู่

เมื่อโพสต์ดังกล่าวออกมาสู่สายตาสาธารณะ กลับพบว่ามีเพียงบางส่วนที่ให้ความช่วยเหลือและแนะนำข้อมูลห้องพักให้กับสาวเจ้าของโพสต์ ในขณะที่คนส่วนใหญ่กลับมุ่งความสนใจไปที่ภาพน้องแมวน่ารักๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างสนุกสนานตัวอย่างความคิดเห็นที่ให้ความสนใจน้องแมว เช่น "น้องตัวเทา หน้าตาใส่ใจเรื่องชาวบ้านมากเลยค่า", "55555เอ็นดูน้อน", "ตัวเทาไม่ซน แต่ตัวขาวไม่แน่", "โอ๊ยย แต่ละนาง", "มักแฮงๆ หน้าตาน้องคือจึ้ง", "เชื่อแล้วค่ะ ว่าทำหน้างงๆ จริงๆ 5555 เอ็นดูมากไอ้ต้าว"จะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ต่างมุ่งโฟกัสไปที่ภาพน้องแมวน่ารักๆ เป็นหลัก แทนที่จะให้ความช่วยเหลือหรือให้ข้อมูลในส่วนที่สาวเจ้าของโพสต์ต้องการ

แค่ขอความช่วยเหลือเรื่องที่พัก ก็ดันโดนแซวน้องแมว

จากการสัมภาษณ์สาวเจ้าของโพสต์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ท่านเปิดเผยว่า ตอนนี้ข้อมูลเกี่ยวกับห้องพักที่รับเลี้ยงสัตว์มีน้อยมาก ส่วนมากคนจะสนใจไปที่หน้าน้องๆ ของเธอแทน"ตอนนี้ข้อมูลเกี่ยวกับห้องพักน้อยมากค่ะ ส่วนมากคนจะสนใจไปที่หน้าน้องๆ น้องสีขาวชื่อ "กุมภา" อายุ 1 ปี 6 เดือน เพศผู้ ตัวสีบลูชื่อ "โบตั๋น" อายุ 1 ปี 3 เดือน เพศเมีย ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ที่ให้ความสนใจน้อง แล้วก็เอ็นดูน้องทั้ง 2 สามารถเข้ามาติดตามที่ไอจีน้องได้นะคะ Iam.gumpha ค่ะ"จะเห็นได้ว่า แม้สาวเจ้าของโพสต์จะตั้งใจที่จะหาข้อมูลและความช่วยเหลือเรื่องห้องพักที่รับเลี้ยงสัตว์ แต่กลับถูกแซวด้วยความน่ารักของน้องแมว เป็นที่ปรากฏชัดว่า ความสนใจของผู้คนมุ่งไปที่ภาพและหน้าตาน้องสัตว์มากกว่าที่จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่แท้จริงที่เธอกำลังเผชิญอยู่

ยอดไล่ล่ามาก 26 สิงหา วันสุนัขแห่งชาติ แม้ว่าวันสุนัขแห่งชาติจะเป็นวันที่ถูกจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงความกรุณา ความเสียสละ และความซื่อสัตย์ของสุนัข แต่ดูเหมือนว่าบางคนกลับต้องการหาประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ด้วยการหลอกล่อเรียกร้องเงินบริจาคผ่านโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่าเงินนั้นจะนำไปใช้ในการรักษาน้องหมาที่ได้รับอุบัติเหตุหรือป่วยไข้ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องระมัดระวังและตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินบริจาคอย่างละเอียดก่อนการโอนเงิน

คนรักสุนัข ระวังมิจฉาชีพหลอกล่อขอบริจาค!

วันสุนัขแห่งชาติ: ความหมายและความสำคัญ

วันสุนัขแห่งชาติเป็นวันที่ถูกจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงความสำคัญของสุนัข ซึ่งได้รับการจัดตั้งครั้งแรกในปี 2547 หรือ ค.ศ. 2004 ในสหรัฐอเมริกา โดยคอลลีน เพจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์เลี้ยง วันนี้จึงเป็นวันที่ทุกคนได้แสดงความรัก ความเคารพ และความขอบคุณต่อสุนัขที่ได้ร่วมทำงานเพื่อมนุษย์มายาวนาน ทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัย การค้นหา และการช่วยเหลือเหยื่อของภัยต่างๆ สุนัขจึงเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และเสียสละของมนุษย์เป็นอย่างมาก

มิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์จากเหตุการณ์

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะมีบางกลุ่มที่พยายามแสวงหาช่องว่างและหลอกลวงประชาชนด้วยการอ้างว่าต้องการขอเงินบริจาคเพื่อไปช่วยเหลือน้องหมาที่ได้รับอุบัติเหตุหรือป่วยไข้ โดยมักจะใช้การลงภาพและข้อความที่น่าสงสารมาเรียกร้องเงินบริจาคผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นเพียงกลลวงเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งก่อนตัดสินใจบริจาคเงิน

ระมัดระวังก่อนบริจาคเงินผ่านโซเชียลมีเดีย

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าวันสุนัขแห่งชาติจะเป็นวันที่มีความหมายและความสำคัญสำหรับสุนัขและผู้เลี้ยงสุนัข แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่พยายามแสวงหาประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจบริจาคเงิน ทุกคนควรหาข้อมูลอย่างรอบด้านเกี่ยวกับผู้รับบริจาคและแหล่งที่มาของเงินบริจาค เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และมั่นใจได้ว่าเงินบริจาคของตนจะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง

น้ำท่วมสังเวียนรอบชาวเกาะสาลิกา เตือนระวังพิษภัยน้ำป่า ล่าสุดเอ่อล้นกัดเว้าใต้ถุนบ้าน

ชาวบ้านหมู่บ้านเกาะสาลิกา ตำบลรังนก กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง หลังมวลน้ำจากต้นน้ำไหลหลากลงมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลใจให้กับผู้อยู่อาศัยในถิ่นลุ่มต่ำ จนต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงหนีภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมชลประทานเร่งจัดการระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำยม

วิกฤตน้ำท่วมคุกคามชุมชน เตือนภัยไม่หยุดส่งผลจนถึงใต้ถุนบ้าน

ภัยสูงลิงหลากถาก ล่าสุดหลายครัวเรือนต้องอพยพหนีน้ำท่วม

แม่น้ำยมที่กำลังไหลหลากอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นโดยรวดเร็ว และลำ้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เกาะสาลิกาที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเคยประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมาหลายปี กลุ่มชาวบ้านจึงต้องเร่งขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปยังจุดที่สูงกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านเกาะสาลิกา หมู่ที่ 4 มีบ้านเรือนประมาณ 7 หลังคาเรือนท่ีได้รับผลกระทบ และหมู่ที่ 11 บ้านปากคลอง มีบ้านเรือนประมาณ 10 หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบเช่นกันด้านนายคำรณ คำหนู ชาวบ้านเกาะสาลิกา ใหญ่ภาพยืนยันว่า แม่น้ำยมได้มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและล้นตลิ่งไหลท่วมใต้ถุนบ้านของชาวบ้านมาแล้วเป็นเวลา 2 วันแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะยังสูงขึ้นไปอีก ชาวบ้านจึงต้องเร่งขนย้ายสัตว์เลี้ยงและยานพาหนะ เช่น รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน และรถทางการเกษตร ไปไว้ในที่สูงที่ถนนบ้านรังนก-บ้านใหม่ เพราะกลัวว่าน้ำจะขนย้ายไม่ทัน

ชลประทานเร่งปรับระบบน้ำเพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำยม

ในส่วนของกรมชลประทานจังหวัดพิจิตร ได้เร่งพร่องมวลน้ำในแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำน่าน ผ่านคลองระบายน้ำ DR 2.8 บ้านท่าแห อำเภอสามง่าม เพื่อลดปริมาณน้ำในความจุของลำแม่น้ำยม พร้อมทั้งยกบานประตูฝายต่างๆ ในลุ่มน้ำยม และเร่งพร่องน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่าง และใช้โครงการแก้มลิงหลายแห่ง เพื่อลดผลกระทบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์นี้ ปริมาณน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลลงมาจากต้นน้ำจะได้รับการระบายออกไปมากขึ้น

ชาวบ้านร่วมเตรียมพร้อมรับมือแม่น้ำไหลหลากก่อภัย

ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ต่างเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ โดยปัจจุบันพวกเขาได้ขนย้ายทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง และยานพาหนะต่างๆ ไปไว้ในที่สูงตามที่ทางราชการได้มีการประกาศแจ้งเตือนไว้แล้ว เพื่อรอลุ้นให้มวลน้ำไหลลงไปโดยเร็ว และเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยอย่างทันท่วงที