ยกให้ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน คว้าเหรียญเงินกีฬากรีฑาเยาวชนโลก

วัย 18 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในกรีฑาเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี จากการเก็บตัว ซ้อมหนักอย่างต่อเนื่อง ก่อนการแข่งขันที่ประเทศเปรู ภูริพล สามารถทำลายสถิติของตนเองและทำผลงานได้อย่างโดดเด่น

ก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จของ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน

### การกลับมาของนักกีฬากรีฑาไทยการแข่งขันกรีฑาเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักกีฬากรีฑารุ่นเยาว์ได้แสดงศักยภาพและความสามารถ ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ทางการกีฬาที่มีค่าอย่างยิ่ง สำหรับพัฒนาทักษะและเตรียมความพร้อมสู่ระดับอาชีพในอนาคตการไปแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของกีฬากรีฑาไทย เนื่องจากนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญรางวัลในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจแก่นักกีฬารุ่นใหม่ ๆ ให้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนวงการกีฬากรีฑาไทยให้เติบโตก้าวหน้ายิ่งขึ้น### ชีวิตและความฝันของ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอนภูริพล บุญสอน หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เทพบิว" เป็นนักวิ่งเร็วดาวรุ่งวัย 18 ปี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในวงการกีฬากรีฑาไทย เขาเติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม ทำให้เขามีวินัยและความพร้อมทางด้านร่างกายเป็นอย่างดี"เทพบิว" ภูริพล เริ่มต้นเส้นทางกีฬากรีฑาตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษา โดยเฉพาะกีฬาวิ่ง 100 เมตร ซึ่งเป็นความสามารถที่โดดเด่นของเขา นอกจากนี้ เขายังมีความตั้งใจและเป้าหมายในการเป็นนักกีฬาขุมทรัพย์ของประเทศในอนาคตจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ "เทพบิว" ภูริพลสามารถพัฒนาทักษะและระดับความสามารถไปสู่ระดับสากลได้ในที่สุด โดยเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันกรีฑาเยาวชนโลก ที่ประเทศเปรู ในปี 2564 นี้### ความสำเร็จในการแข่งขันกรีฑาเยาวชนโลกการแข่งขันกรีฑาเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตและอนาคตของ "เทพบิว" ภูริพล เนื่องจากเขาสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่น โดยการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร ด้วยสถิติ 10.22 วินาทีการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันระดับโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และน่าภาคภูมิใจมาก เนื่องจาก "เทพบิว" เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่สามารถทำผลงานระดับนี้ได้ โดยการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมที่เขามีอย่างเต็มเปี่ยมความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ความสามารถของ "เทพบิว" เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬากรีฑารุ่นใหม่ ๆ ของไทย ให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการก้าวสู่ความสำเร็จในระดับสากลได้อีกด้วย### อนาคตของ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอนความสำเร็จในการคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันกรีฑาเยาวชนโลกครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ความสำเร็จของ "เทพบิว" ภูริพล เขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเทและพัฒนาฝีเท้าจนบรรลุผลสำเร็จในครั้งนี้ และสิ่งเหล่านี้จะเป็นพลังผลักดันให้เขาสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างแน่นอนในอนาคต "เทพบิว" ภูริพล มีเป้าหมายในการไปแข่งขันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งถือเป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคน และเขาก็มีความพร้อมและศักยภาพที่จะสามารถคว้าเหรียญรางวัลในระดับนานาชาติได้อย่างแน่นอนความสำเร็จในครั้งนี้ย่อมเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนที่มีความฝันจะก้าวเข้าสู่วงการกีฬา ให้เห็นว่าหากมีความพยายามและมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถประสบความสำเร็จในระดับสากลได้เช่นเดียวกับ "เทพบิว"

สหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียจัดประชุมใหญ่ประจำปี ภายใต้ความเป็นเจ้าภาพของไทย

การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียหรือเอวีซี (Asian Volleyball Confederation) จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 สิงหาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานคร โดยสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด ภายในการประชุมครั้งนี้จะมีการรายงานผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่ด้วย

ทุกความเคลื่อนไหวจากการประชุมสมัชชาใหญ่เอวีซี ภายใต้แสงแห่งความสำเร็จของวงการวอลเลย์บอลเอเซีย

ก้าวสำคัญของวงการวอลเลย์บอลเอเซีย ในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้

การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่กำหนดทิศทางการพัฒนาวงการวอลเลย์บอลในทวีปเอเซีย ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรแม่อย่างเอฟไอวีบี (FIVB) โดยการประชุมจะมีผู้แทนจากสมาคมและสมาพันธ์วอลเลย์บอลในทวีปเอเซีย รวม 65 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งจะมีการรายงานผลงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือการเลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียคนใหม่

ความสำคัญของการเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่

การเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากจะมีผู้สมัครเป็นแคนดิเดตประธานเอวีซี 2 คน ได้แก่ นาย Ramon Suzara จากประเทศฟิลิปปินส์ และนาย Ali Granim Al-Kuwari จากประเทศกาตาร์ ซึ่งการเลือกผู้นำองค์กรนี้จะส่งผลต่อแผนงานและนโยบายการบริหารงานวอลเลย์บอลในทวีปเอเซียในระยะต่อไป โดยจะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2567

ไฮไลท์ความสำคัญของการเดินทางมาจัดงาน

การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ของเอวีซี ถือเป็นความภาคภูมิใจและโอกาสอันดีสำหรับวงการกีฬาวอลเลย์บอลไทย โดย นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งอาเซียน จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจะมีการเปิดงานด้วยพิธีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของไทยอันงดงาม ท่ามกลางเกียรติบัตรการเข้าร่วมจากผู้บริหารระดับสูงของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB)

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการประชุมสมัชชาใหญ่เอวีซี

การจัดการประชุมครั้งนี้ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซีย จะสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศไทยในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลของภูมิภาค โดยการเลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียคนใหม่ จะเป็นโอกาสในการปรับโฉมใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำพาวงการวอลเลย์บอลเอเซียเดินหน้าสู่ความเป็นเลิศ ท่ามกลางการเผยแพร่ศักยภาพและชื่อเสียงของประเทศไทยระดับโลก