กีฬา
โปรแกรมนักกีฬาไทยในพาราลิมปิก 2024 วันที่ 4 ก.ย.2567

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยสร้างประวัติศาสตร์ ณ กรุงปารีส 2024

กีฬาพาราลิมปิกเป็นเวทีใหญ่ที่นักกีฬาผู้พิการได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ในการแข่งขันครั้งล่าสุดที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทีมกีฬาพาราไทยได้พิสูจน์ตัวเองอย่างน่าภาคภูมิใจ โดยสามารถคว้ามาแล้ว 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาพาราไทย

ทีมกีฬาพาราไทยคว้ารางวัลใหญ่บนเวทีระดับโลก

นักกีฬาพาราไทยผ่านควอลิฟายสู่การแข่งขันสูงสุด

ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทีมกีฬาพาราไทยได้ส่งนักกีฬาจำนวน 79 คน จาก 15 ชนิดกีฬา ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาพาราไทย นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากที่ทีมกีฬาพาราไทยผ่านการคัดเลือกและได้รับเกียรติให้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการผลักดันให้ผู้พิการในประเทศไทยได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของตนเองบนเวทีระดับโลก

ผลงานคว้าเหรียญทองของนักกีฬาพาราไทย

ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ผ่านมา นักกีฬาพาราไทยสามารถคว้ามาแล้ว 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาพาราไทย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความสามารถ และความพร้อมของนักกีฬาพาราไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ ในจำนวนเหรียญรางวัลที่ได้นั้น สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นนักกีฬาที่โดดเด่นที่สุด โดยสามารถคว้าเหรียญทองมาให้กับทีมกีฬาพาราไทย

โปรแกรมการแข่งขันของนักกีฬาพาราไทย

ในวันที่ 4 กันยายน 2567 นักกีฬาพาราไทยจะมีโปรแกรมการแข่งขันมากมาย อาทิ วีลแชร์ฟันดาบ, ยิงปืน, ยิงธนู, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส และกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง โดยพวกเขาจะลงสนามในรอบต่าง ๆ เช่น รอบคัดเลือก, รอบ 32 คน, รอบ 16 คน, รอบ 8 คน และรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและคาดหวังว่าทีมกีฬาพาราไทยจะสร้างผลงานอันโดดเด่นให้กับประเทศชาติอีกครั้ง

ความคาดหวังกับทัพกีฬาพาราไทย

ความสำเร็จและผลงานอันยอดเยี่ยมที่นักกีฬาพาราไทยได้แสดงให้เห็นในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ย่อมสะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความพร้อม และการเตรียมตัวที่ดีของพวกเขา นับเป็นภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการในประเทศไทย รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้คนพิการได้มีความตั้งใจและโอกาสในการพัฒนาตนเองให้ก้าวไกลไปในอนาคต ทีมกีฬาพาราไทยจึงได้รับการคาดหวังว่าจะสร้างผลงานอันน่าภาคภูมิใจให้กับประเทศชาติอีกครั้ง
สายสุนีย์ จ๊ะนะ คว้าเหรียญทองที่ 4 ให้ทัพพาราไทย

ดาวพาราลิมปิกคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 4 ในการแข่งขันฟันดาบเซเบอร์หญิง

การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับสายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาฟันดาบชาวไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 4 จากการแข่งขันฟันดาบเซเบอร์หญิง ในการแข่งขันครั้งนี้

นักกีฬาพาราลิมปิกไทยคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์จากการแข่งขันฟันดาบเซเบอร์หญิง

การแข่งขันที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและน่าเร้าใจ

ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฟันดาบเซเบอร์หญิง คลาสบี สายสุนีย์ จ๊ะนะ มือ 4 ของทีมชาติไทย ต้องพบกับเซียว รอง มือ 3 จากประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่สายสุนีย์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆ เธอทำการตามหมวยจีนอย่างหนักจนกระทั่งช่วงท้ายของการแข่งขัน เธอสามารถทำคะแนนแซงคู่แข่งขันมาเป็น 14-13 ก่อนที่สาวจีนจะตามตีเสมอเป็น 14-14 ในช่วงสุดท้าย อย่างไรก็ตาม สายสุนีย์ก็สามารถตัดสินใจออกดาบเร็วกว่าและคว้าชัยชนะในที่สุด ด้วยคะแนน 15-14 อย่างสนุกสนาน

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของนักกีฬาพาราลิมปิกไทย

การคว้าเหรียญทองในการแข่งขันดาบเซเบอร์หญิงของสายสุนีย์ จ๊ะนะ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย เพราะนอกจากจะเป็นการคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 4 ของการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้แล้ว ยังถือเป็นประวัติศาสตร์อีกด้วย เพราะเป็นการคว้าเหรียญทองพาราลิมปิกในกีฬาฟันดาบเซเบอร์หญิง คลาสบี เป็นครั้งแรกของประเทศไทย นับเป็นความสำเร็จที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความพยายาม และศักยภาพของนักกีฬาพาราลิมปิกไทย

ความภาคภูมิใจของประเทศชาติและการเป็นแบบอย่างที่ดี

การที่สายสุนีย์ จ๊ะนะ ได้รับเกียรติให้เป็นผู้นำขบวนพาราลิมปิกไทยในพิธีเปิดการแข่งขันที่ปารีส นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่น่ายกย่องเป็นอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของนักกีฬาพาราลิมปิกไทย นอกจากนี้ การที่สายสุนีย์ได้คว้าแชมป์โลกฟันดาบฟอยล์หญิงมาก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพและความสามารถของเธอ ซึ่งจะกลายเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ได้ตั้งเป้าหมายและพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
See More
ONE Championship : เสกสรร ลงทุนใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเสริมแกร่ง พร้อมดวลเดือด เลียม ศึก ONE 168

สู้ไปด้วยกัน! "เสกสรร" เปิดศึกกับตำนานนักมวยของโลกในศึก ONE 168

เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักมวยไทยวัย 35 ปี จากนครศรีธรรมราช กำลังเตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อเผชิญหน้ากับ "เลียม แฮร์ริสัน" นักสู้บู๊ไม่ถอยวัย 38 ปี จากสหราชอาณาจักร ในศึก ONE 168 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา หรือ เช้าวันเสาร์ที่ 7 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทย

ความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับโลก

ก้าวสู่ความท้าทายระดับโลก

"เสกสรร" ถือเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่ได้มีโอกาสรับงานในรายการ ONE Championship ซึ่งเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดของวงการมวยในเอเชีย เขาชกไปมากถึง 9 ไฟต์ และสามารถเก็บชัยชนะได้ 8 ครั้งติดต่อกัน ก่อนที่จะมาสะดุดแพ้ "ยูทาโร อาซาฮี" นักชกชาวญี่ปุ่นในรายการใหญ่ไตรมาสแรกของปี 2023 ที่ลุมพินี 58ศึกครั้งนี้จะเป็นไฟต์ที่ 10 ของ "เสกสรร" ในรายการ ONE และเป็นการต่อกรกับ "เลียม แฮร์ริสัน" ที่เคยเป็นอดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ซึ่งถือเป็นความท้าทายในระดับโลกสำหรับ "เสกสรร" เพราะเขาต้องปะทะกับตำนานนักมวยต่างชาติที่เคยสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน

การเตรียมตัวอย่างเต็มที่

เพื่อให้พร้อมเผชิญหน้ากับ "เลียม แฮร์ริสัน" ในศึกครั้งนี้ "เสกสรร" ได้เดินทางมาเตรียมความพร้อมที่กรุงเทพมหานคร โดยได้รับการช่วยเหลือจาก "ก้องธรณี ส.สมหมาย" โดยพวกเขาเดินทางไปประตูน้ำ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไปกลับกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อมาเจาะลึกเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา"ผมเข้าฟิตเนสและเสริมวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามา เพื่อลองดูว่าโอเคสำหรับผมไหม ช่วยได้จริงหรือเปล่า" เสกสรร กล่าว "ผมรู้สึกว่าแตกต่างจากเดิม ออกอาวุธได้หนักขึ้นและเร็วขึ้น ผมว่านักมวยไทยยุคนี้ต้องเอามาเสริมไว้ ของมันต้องมีครับ"

ความยิ่งใหญ่ของศึกครั้งนี้

ศึกระหว่าง "เสกสรร" กับ "เลียม แฮร์ริสัน" นับเป็นศึกที่ดุเดือด และเร้าใจแฟนกีฬามวยอย่างมาก เพราะทั้งสองถือเป็นตำนานของวงการมวยในแต่ละประเทศ และความท้าทายครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่านักมวยไทยสามารถแข่งขันกับนักมวยต่างชาติในระดับโลกได้อย่างไร"ระหว่างตำนานจากประเทศไทย กับตำนานนักมวยต่างชาติมาเจอกัน ซึ่งอาจไม่ครบยก ไม่รู้ใครน็อกใคร แต่ถ้าครบ 3 ยก จะเป็น 3 ยกที่ดุเดือด เร้าใจพี่น้องแฟนมวยแน่นอนครับ" เสกสรร กล่าวดังนั้น ศึกครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของ "เสกสรร" ที่จะพิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับโลก และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับแม่ไม้มวยไทยบนเวทีระดับสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาชาวไทยอีกด้วย
See More