โรงหนังเด็กกำลังเฟื่องฟู! เมเจอร์คาดยอดขายผ่าน 1 ล้านใบในปีนี้ มุ่งเพิ่มสาขาอีก 20 แห่ง

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป บริษัทชั้นนำด้านโรงภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เผยแพร่แผนการขยายสาขา "Kids Cinema" ในครึ่งปีหลังของปี 2567 เพิ่มจำนวนเป็น 20 สาขา และคาดการณ์ว่าจะมียอดขายตั๋วภาพยนตร์สำหรับเด็กถึง 1 ล้านใบในปี 2568 โดยมุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่ชื่นชอบทำกิจกรรมร่วมกัน

ทำเงินแบบเดินหน้าไม่หยุด! "Kids Cinema" เป็นอีกฟันเฟือง สู่ความสำเร็จของเมเจอร์

เติบโตท่ามกลางความท้าทาย

ภายใต้กระแสการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดภาพยนตร์ในประเทศ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจที่โดดเด่น โดยเฉพาะการขยายตลาดในกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเป็นส่วนหนึ่งผ่านการเปิดให้บริการ "Kids Cinema" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดให้บริการ "Kids Cinema" เพิ่มเติมอีก 6 สาขาในต่างจังหวัด อาทิ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส), เซ็นทรัล ระยอง, เซ็นทรัล นครปฐม, โรบินสัน เพชรบุรี, โรบินสัน ราชพฤกษ์ และ เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ ทำให้ปัจจุบันมี "Kids Cinema" รวมทั้งหมด 14 สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20 สาขาภายในสิ้นปี 2567

ตอบรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่

การขยายสาขา "Kids Cinema" เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกับบุตรหลาน โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่ง "Kids Cinema" ได้สร้างมิติใหม่ให้กับการชมภาพยนตร์เป็นครอบครัวนอกจากจะได้รับความบันเทิงจากภาพยนตร์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กและครอบครัวแล้ว "Kids Cinema" ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น สไลเดอร์, บ่อบอลหลากสีสัน และ Playland เพื่อให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินก่อนเข้าชมภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรให้กับครอบครัว

พัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก

นอกจากความบันเทิงแล้ว "Kids Cinema" ยังเป็นพื้นที่สังคมเล็กๆ ที่เอื้อให้เด็กและผู้ปกครองได้มีปฏิสัมพันธ์กัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็กๆโดยเฉพาะในสาขาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส) ซึ่งเป็นสาขาแรกในภาคเหนือ จะมีการออกแบบพื้นที่และคุณสมบัติพิเศษ อาทิ การเพิ่มแสงสว่างและปรับลดระดับเสียง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับเด็กๆ และครอบครัว รวมถึงมีบริการพิเศษให้ครอบครัวสามารถปิดรอบชมภาพยนตร์พิเศษหรือจัดกิจกรรมเฉพาะได้ตามความต้องการ

เป้าหมายสู่ความสำเร็จ

ด้วยความสำเร็จที่ "Kids Cinema" ได้รับจากผู้บริโภค บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับปี 2567 โดยคาดว่าจะมียอดขายตั๋วภาพยนตร์สำหรับเด็กอยู่ที่ 600,000 ใบ และจำนวนสมาชิก M GEN Kids กว่า 250,000 คน ขณะที่ในปี 2568 คาดการณ์ว่ายอดขายตั๋วจะเพิ่มเป็น 1,000,000 ใบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของ "Kids Cinema" ภายใต้การดำเนินงานของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในการตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

บทพิสูจน์ความสำเร็จของสตูดิโอเอ็มวีอมตะจอยักษ์เขย่าวงการละคร

เมื่อค่ายดังอย่าง "วิก" เปิดตัวละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ "สุดแค้น แสนรัก" ประชาชนทั่วประเทศต่างรอคอยกันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ชมนักแสดงมากฝีมือระดับตำนานมาประชันฝีมือกันแล้ว ยังได้รับชมการกลับมาแสดงอีกครั้งของนักแสดงรุ่นเล็กที่กำลังฮอตฮิตในขณะนี้อีกด้วย

คว้าใจคนดูด้วยคาแรกเตอร์ที่งดงามและการแสดงที่ยอดเยี่ยม

บทพิสูจน์ความสำเร็จของแบรนด์ "วิก"

ละคร "สุดแค้น แสนรัก" ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญของค่ายดังอย่าง "วิก" ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ มากมายให้กับวงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็น ละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" หรือ "ดวงจันทร์สีเลือด" ที่สามารถเขย่าวงการละครไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในครั้งนี้ ค่าย "วิก" ก็ได้ระดมกำลังด้วยการดึงตัวนักแสดงมากฝีมือระดับตำนาน อาทิ มอส ปฏิภาณ, โดนัท มนัสนันท์, เบนซ์ พรชิตา, น็อต วรฤทธิ์, น้ำฝน กุลณัฐ และต๊งเหน่ง รัดเกล้า มาร่วมขับเคลื่อนละคร "สุดแค้น แสนรัก" ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์อันชาญฉลาดของค่าย เพราะด้วยฝีมือการแสดงอันล้ำเลิศของนักแสดงชื่อดัง จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากคนดูได้เป็นอย่างมาก

การแสดงที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากการรวมทีมนักแสดงมากฝีมือแล้ว "สุดแค้น แสนรัก" ยังได้ปูทางให้กับนักแสดงรุ่นเล็กที่กำลังมาแรง อย่าง มอส ปฏิภาณ, โดนัท มนัสนันท์, เบนซ์ พรชิตา, น็อต วรฤทธิ์, น้ำฝน กุลณัฐ และต๊งเหน่ง รัดเกล้า ได้มีโอกาสแสดงฝีมือของพวกเขาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนดูด้วยการแสดงที่ทรงพลัง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ได้อย่างเข้าถึงใจ ทำให้ทั้งนักแสดงรุ่นใหญ่และนักแสดงรุ่นเล็กสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี และทำให้ละคร "สุดแค้น แสนรัก" ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

การประชันฝีมือระหว่างนักแสดงรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่

หนึ่งในจุดเด่นของละคร "สุดแค้น แสนรัก" คือ การที่ค่าย "วิก" ได้ดึงตัวนักแสดงรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่มาร่วมแสดงในเรื่องเดียวกัน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง เพราะทำให้ละครมีมิติที่หลากหลาย และสามารถดึงดูดกลุ่มคนดูที่มีช่วงวัยต่างกันได้นอกจากนี้ การที่นักแสดงรุ่นเล็กได้มีโอกาสร่วมแสดงกับนักแสดงรุ่นใหญ่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ และเรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่อีกด้วย ทำให้ละครมีความน่าสนใจและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี

กลับมาฉีกกรอบให้ถึงเส้นชัยอีกครั้ง

ด้วยการสร้างสรรค์ละครพีเรียดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสานกับการลงทุนที่มั่นคง และการรวมทีมนักแสดงดัง ค่าย "วิก" จึงสามารถฉีกกรอบละครไทยและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการบันเทิงอีกครั้งเมื่อดูจากความสำเร็จของละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" และ "ดวงจันทร์สีเลือด" ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ค่าย "วิก" มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ และพร้อมที่จะลงทุนอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น ผลงาน "สุดแค้น แสนรัก" จึงไม่ใช่เพียงแค่ละครเรื่องหนึ่ง แต่เป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของค่ายดังอีกด้วย