การสนับสนุนนักกีฬามวยไทยจากยัวซ่าแบตเตอรี่

คุณสุขแท้ เรืองวัฒนะโชติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมงานรายการ "ศึกเพชรยินดี" เพื่อมอบรางวัลแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์และมอบพวงมาลัยให้กับนักกีฬามวยไทย โดยมีผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลในกีฬามวยไทยร่วมชมอย่างคับคั่ง

ยัวซ่าแบตเตอรี่ขยายความร่วมมือด้านกีฬามวยไทย

การมอบรางวัลและพวงมาลัยให้กับนักกีฬามวยไทย

บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) โดยคุณสุขแท้ เรืองวัฒนะโชติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ได้เข้าร่วมงานรายการ "ศึกเพชรยินดี" เพื่อมอบรางวัลแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์และพวงมาลัยเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬามวยไทย โดยมีผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบกีฬามวยไทย เข้าร่วมชมอย่างคับคั่ง การสนับสนุนด้านกีฬาถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาได้เห็นถึงความพยายามที่จะพัฒนาและสนับสนุนกีฬามวยไทย

การถ่ายทอดสดรายการ "ศึกเพชรยินดี"

นอกจากการมอบรางวัลและพวงมาลัยแล้ว รายการ "ศึกเพชรยินดี" ยังได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทรูโฟร์ยู ดูฟรี True4U (ช่อง 24) ทุกวันพฤหัสบดี ในช่วงเวลา 18:00 – 20:00 น. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถติดตามชมการแข่งขันมวยไทยได้อย่างสะดวก ทำให้แฟนกีฬามวยไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถชมการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง

ความสำคัญของกีฬามวยไทยต่อวัฒนธรรมไทย

กีฬามวยไทยถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์และความเป็นมายาวนาน นอกจากเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศแล้ว ยังได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก การสนับสนุนและส่งเสริมกีฬามวยไทยจึงเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยให้คงอยู่สืบไป

ความร่วมมือระหว่างยัวซ่าแบตเตอรี่และกีฬามวยไทย

บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมกีฬามวยไทย โดยการมอบรางวัลและพวงมาลัยให้กับนักกีฬาในงานรายการ "ศึกเพชรยินดี" นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดรายการดังกล่าวผ่านช่องทรูโฟร์ยู ดูฟรี True4U (ช่อง 24) ซึ่งช่วยให้แฟนกีฬามวยไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ติดตามการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมกีฬามวยไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยให้คงอยู่สืบไป

การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่ปารีส: จุดเปลี่ยนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงมุมมองโลก

การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่ปารีส: จุดเปลี่ยนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงมุมมองโลก

พาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส, ประเทศฝรั่งเศส จะเริ่มดำเนินการในคืนนี้ โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 8 กันยายน 2567 มีนักกีฬาจาก 184 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันใน 22 ชนิดกีฬา ชิงชัยกันรวมทั้งสิ้น 529 เหรียญทอง ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่เคยมีมา

เปลี่ยนโลกทั้งจากพิธีเปิด ถึงการแข่งขัน

พิธีเปิดที่จะทำให้โลกเปลี่ยน

พิธีเปิดพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีสในคืนนี้ จะใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง และยังคงคอนเซปต์จัดขึ้นนอกสนามกีฬาเช่นเดียวกับ "โอลิมปิก 2024" แต่จะใช้เส้นทางของถนนฌ็อง-เซลิเซ่ จากบริเวณประตูชัยไปจนถึงจัตุรัสคองคอร์ด เป็นเส้นทางของขบวนพาเหรด โดยการจัดแสดงในพิธีเปิดจะกำกับโดย "โธมัส จอลลี่" ผู้กำกับและออกแบบพิธีเปิด "โอลิมปิก ปารีส 2024" เช่นเดียวกัน โดยเจ้าภาพบอกว่าการแสดงจะเป็นโชว์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของการจัดพิธีเปิดพาราลิมปิกที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองโลกนับตั้งแต่พิธีเปิด

การแข่งขันที่มีเอกลักษณ์และความยิ่งใหญ่

ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งนี้ มีการแข่งขันใน 22 ชนิดกีฬา ซึ่งแตกต่างจากโอลิมปิกในเรื่องของกีฬาบางประเภทที่ไม่มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ได้แก่ "บอคเซีย" และ "โกลบอล" โดยกีฬาเหล่านี้จะได้รับความสนใจและการจับตามองอย่างมาก เนื่องจากเป็นกีฬาพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ เจ้าภาพยังได้เตรียมสนามกีฬาในพื้นที่กรุงปารีสและชานเมืองมารองรับการจัดงานในครั้งนี้ไว้ถึง 18 แห่ง ซึ่งรวมถึงสนามหอไอเฟล หรือ Eiffel Tower Stadium ที่จะใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลคนตาบอด นอกเหนือจากกีฬาโอลิมปิก นับเป็นความยิ่งใหญ่และความพิเศษของการจัดการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้

ทีมชาติไทยยกระดับความโดดเด่น

ในการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติไทยสร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม โดยคว้ามาได้ทั้งหมด 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง ทำให้ไทยอยู่อันดับที่ 25 ในอันดับตารางเหรียญรวม และเป็นอันดับที่ 6 ของเอเชีย รวมถึงอันดับที่ 1 ของอาเซียน ในการแข่งขันชนิดกีฬาต่างๆ อาทิ วีลแชร์เรสซิ่ง บอคเซีย แบดมินตัน เทควันโด และวีลแชร์ฟันดาบ ในครั้งนี้ ทีมชาติไทยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7 เหรียญทอง ซึ่งจะเป็นอีกจุดหมายสำคัญที่จะยกระดับความโดดเด่นของทีมชาติไทยในเวทีระดับนานาชาติ

เปิดเส้นทางสู่ความสำเร็จของนักกีฬาพาราทีมชาติไทย

ในพาราลิมปิกครั้งนี้ ทีมชาติไทยส่งนักกีฬารวม 79 คน เข้าร่วมการแข่งขันใน 15 ชนิดกีฬา ซึ่งมีดาวเด่นหลายคน อาทิ "สายสุนีย์ จ๊ะนะ" นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ เจ้าของฉายา "ราชินีฟันดาบแชมป์โลก" ที่จะลงแข่งขันเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน หลังจากเคยคว้าเหรียญรางวัล 4 เหรียญในการแข่งขันพาราลิมปิกมาแล้ว และ "ฟิวส์" อธิวัฒน์ แพงเหนือ นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง เจ้าของเหรียญทอง วีลแชร์ 100 ม. จากพาราลิมปิก 2020 และแชมป์โลก ซึ่งทั้งสองจะเป็นผู้นำขบวนนักกีฬาไทยเข้าสู่พิธีเปิด นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาพาราไทยรายอื่น ๆ ที่พร้อมสร้างผลงานอันโดดเด่นในเวทีระดับโลก