ความบันเทิง
Gwyneth Paltrow กลับคืนจอภาพยนตร์อีกครั้งนับตั้งแต่ ‘Avengers: Endgame’: ได้ประกบคู่กับ Timothée Chalamet

การกลับสู่ฉากสำคัญอีกครั้งของศิลปินนักแสดงนำหญิงระดับตำนาน

Entertainment Weekly รายงานว่า กวินิท แพลโทรว์ (Gwyneth Paltrow) นักแสดงหญิงชื่อดังวัย 51 ปี ที่เคยได้รับฉายา "เจ้าหญิงแห่งฮอลลีวูด" กำลังจะกลับคืนสู่จอภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ 'Avengers: Endgame' (2019)

เปิดตัวสตาร์ระดับตำนาน ในผลงานการกำกับของผู้กำกับมือทอง

การกลับสู่จอภาพยนตร์อีกครั้งของ "เจ้าหญิงแห่งฮอลลีวูด"

แพลโทรว์ได้รับเลือกให้รับบทในภาพยนตร์เรื่อง 'Marty Supreme' ซึ่งเป็นผลงานการกำกับล่าสุดของ จอช แซฟดี (Josh Safdie) ผู้กำกับมือทองที่สร้างชื่อบนเวทีภาพยนตร์มากมาย เช่น 'Good Time' (2017) และ 'Uncut Gems' (2019) การกลับมาของแพลโทรว์ถือเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงฮอลลีวูด หลังจากที่เธอเป็นที่รู้จักในฐานะ "เจ้าหญิงแห่งฮอลลีวูด" และเคยได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงจาก 'Shakespeare in Love' (1998) แต่ก็ไม่ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์มากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา

โปรเจกต์ภาพยนตร์ 'Marty Supreme' ที่มีเหล่านักแสดงชื่อดังร่วมแสดง

ภาพยนตร์เรื่อง 'Marty Supreme' ได้ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) นักแสดงหนุ่มที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ จาก 'Wonka' (2023) และ 'Dune: Part Two' (2024) มารับบทนำ และยังมีแพลโทรว์ร่วมแสดงด้วย นอกจากนี้ โปรเจกต์นี้ยังได้รับการเขียนบทโดยแซฟดีและ โรนัลด์ บรอนชไตน์ (Ronald Bronstein) ซึ่งเป็นความร่วมมือที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนใน 'Good Time' และ 'Uncut Gems' โดยเรื่องราวของภาพยนตร์จะเล่าเกี่ยวกับ มาร์ตี้ เรส์แมน (Marty Reisman) แชมป์ปิงปองระดับตำนานของสหรัฐฯ

นอกจากการแสดงแล้ว แพลโทรว์ยังประสบความสำเร็จในหลากหลายด้าน

นอกเหนือจากบทบาทนักแสดงที่โดดเด่นแล้ว แพลโทรว์ยังเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์สุขภาพและไลฟ์สไตล์อย่าง Goop และเคยมีผลงานการแสดงในซีรีส์คอมเมดี้ 'The Politician' ของ Netflix จำนวน 2 ซีซัน ซึ่งเป็นผลงานการสร้างของ ไรอัน เมอร์ฟีย์ (Ryan Murphy), เอียน เบรนแนน (Ian Brennan) และ แบรด ฟาลชัค (Brad Falchuk) สามีของเธอ นอกจากนี้ เธอยังได้ให้เสียงพากย์ในฉากเล็ก ๆ แบบไม่รับเครดิตใน 'She Said' (2022) ด้วย ซึ่งถือว่าแพลโทรว์เป็นศิลปินมัลติพอทัลเลนต์ที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายแนวทาง

ผลงานใหม่ของแพลโทรว์และแซฟดี ที่คาดกันว่าจะเป็นปรากฏการณ์ทางจอภาพ

ภาพยนตร์เรื่อง 'Marty Supreme' ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของแพลโทรว์และผู้กำกับจอช แซฟดี ถือเป็นโปรเจกต์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในแวดวงภาพยนตร์ เนื่องจากนอกเหนือจากการที่มีนักแสดงชื่อดังร่วมแสดงแล้ว เรื่องราวของภาพยนตร์ยังน่าสนใจและตรงใจผู้ชมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนๆ ของ แพลโทรว์และ แซฟดี ที่ต่างรอคอยการกลับมาของพวกเขาอย่างตั้งหน้าตั้งตา ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการปลดปล่อยพลังศิลปิน 2 คนที่คนในวงการยกย่องให้เป็นตำนานของวงการภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โครงเรื่องย่อ “มนต์รักแม่กลอง”

เสน่ห์แห่งเสียงร้องอมตะ: ละครโทรทัศน์ "มนต์รักแม่กลอง"

ละครโทรทัศน์ "มนต์รักแม่กลอง" นำเสนอเรื่องราวอันซับซ้อนของทหารผู้ผูกพันกับเสียงเพลง และความรักที่เขามีต่อแม่ที่ตาบอด อีกทั้งยังต้องมาเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ในความพยายามที่จะปลดหนี้สินของแม่ให้หมดไป ด้วยฝีมือการแสดงและการกำกับการแสดงที่โดดเด่น จึงทำให้ละครเรื่องนี้เข้าถึงอารมณ์ของผู้ชมได้เป็นอย่างดี

เสียงเพลงคือเสียงแห่งชีวิต

ความรักและการเสียสละ

เรื่องราวของ "มนต์รักแม่กลอง" หมายถึงเรื่องราวความรักอันแรงกล้า ระหว่างทุย ทหารรุ่นใหม่ที่มีใจรักในเสียงเพลง และแม่บัว ผู้เป็นแม่ของเขาที่ตาบอด สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละของลูกชายที่มีต่อแม่ ทุยพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือและดูแลแม่ ตั้งแต่การกลับมาดูแลแม่ที่บ้านเกิด จนถึงการตั้งวงดนตรีลูกทุ่งเพื่อหาเงินมาใช้หนี้สินของแม่ที่เป็นภาระอยู่ ด้วยความมุ่งมั่นและพลังแห่งความรักที่แรงกล้า ทุยจึงตั้งใจที่จะปลดหนี้ให้แม่ได้หมดไป

กับดักแห่งผู้มีอิทธิพล

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของทุยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาต้องเผชิญกับความคุกคามจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของหนี้สินที่แม่ของเขาต้องแบกรับ สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขาต้องแสดงออกถึงความกล้าหาญและความแกร่งในการต่อสู้เพื่อปกป้องแม่ของตน แม้จะเจอกับอุปสรรคใดๆ ก็ตาม ทุยยังคงมุ่งมั่นที่จะหาทางแก้ไขสถานการณ์เพื่อให้แม่พ้นจากความทุกข์ยาก

เสียงเพลงที่ดังก้อง

นอกจากความรักและการเสียสละเพื่อแม่แล้ว ละครเรื่องนี้ยังได้สะท้อนถึงความผูกพันของทุยที่มีต่อเสียงเพลง ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจอันสำคัญในการผลักดันเขาให้ดำเนินต่อไป ด้วยการตั้งวงดนตรีลูกทุ่งขึ้นมา ทุยหวังว่าจะสร้างรายได้เพียงพอเพื่อช่วยแม่ให้พ้นจากหนี้สิน และในขณะเดียวกัน เสียงเพลงก็เป็นเสียงที่คอยประคับประคองจิตใจของเขาในการต่อสู้กับความยากลำบากที่เผชิญอยู่ เสียงเพลงจึงมีความหมายยิ่งใหญ่และเป็นเสียงแห่งชีวิตสำหรับตัวละครนี้

เปิดเผยอีกมิติของละครแนวดราม่า

ในแง่ของการผลิตละคร "มนต์รักแม่กลอง" เป็นหนึ่งในผลงานที่เปิดประตูสู่มิติใหม่ของละครแนวดราม่า โดยการผสมผสานความขัดแย้งและความยากลำบากของตัวละครหลัก เข้ากับอุปกรณ์เสริมของวงดนตรีลูกทุ่ง ซึ่งช่วยเติมเต็มให้เนื้อหาของละครมีความน่าสนใจและมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสีสันด้วยการใช้ฉากหลังที่สวยงามของเมืองแม่กลอง ตลอดจนการนำเสนอบทเพลงประกอบที่มีความพิเศษ จึงทำให้ "มนต์รักแม่กลอง" มีความโดดเด่นและน่าติดตามไม่แพ้ละครแนวอื่นๆ
See More
โรงหนังเด็กคึกคัก! เมเจอร์คาดปี’68ทะลุล้านใบ ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20 สาขา

โรงหนังเด็กกำลังเฟื่องฟู! เมเจอร์คาดยอดขายผ่าน 1 ล้านใบในปีนี้ มุ่งเพิ่มสาขาอีก 20 แห่ง

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป บริษัทชั้นนำด้านโรงภาพยนตร์แห่งประเทศไทย เผยแพร่แผนการขยายสาขา "Kids Cinema" ในครึ่งปีหลังของปี 2567 เพิ่มจำนวนเป็น 20 สาขา และคาดการณ์ว่าจะมียอดขายตั๋วภาพยนตร์สำหรับเด็กถึง 1 ล้านใบในปี 2568 โดยมุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่ชื่นชอบทำกิจกรรมร่วมกัน

ทำเงินแบบเดินหน้าไม่หยุด! "Kids Cinema" เป็นอีกฟันเฟือง สู่ความสำเร็จของเมเจอร์

เติบโตท่ามกลางความท้าทาย

ภายใต้กระแสการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดภาพยนตร์ในประเทศ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจที่โดดเด่น โดยเฉพาะการขยายตลาดในกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเป็นส่วนหนึ่งผ่านการเปิดให้บริการ "Kids Cinema" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดให้บริการ "Kids Cinema" เพิ่มเติมอีก 6 สาขาในต่างจังหวัด อาทิ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส), เซ็นทรัล ระยอง, เซ็นทรัล นครปฐม, โรบินสัน เพชรบุรี, โรบินสัน ราชพฤกษ์ และ เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ ทำให้ปัจจุบันมี "Kids Cinema" รวมทั้งหมด 14 สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 20 สาขาภายในสิ้นปี 2567

ตอบรับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่

การขยายสาขา "Kids Cinema" เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกับบุตรหลาน โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่ง "Kids Cinema" ได้สร้างมิติใหม่ให้กับการชมภาพยนตร์เป็นครอบครัวนอกจากจะได้รับความบันเทิงจากภาพยนตร์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กและครอบครัวแล้ว "Kids Cinema" ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น สไลเดอร์, บ่อบอลหลากสีสัน และ Playland เพื่อให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินก่อนเข้าชมภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรให้กับครอบครัว

พัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก

นอกจากความบันเทิงแล้ว "Kids Cinema" ยังเป็นพื้นที่สังคมเล็กๆ ที่เอื้อให้เด็กและผู้ปกครองได้มีปฏิสัมพันธ์กัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็กๆโดยเฉพาะในสาขาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส) ซึ่งเป็นสาขาแรกในภาคเหนือ จะมีการออกแบบพื้นที่และคุณสมบัติพิเศษ อาทิ การเพิ่มแสงสว่างและปรับลดระดับเสียง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับเด็กๆ และครอบครัว รวมถึงมีบริการพิเศษให้ครอบครัวสามารถปิดรอบชมภาพยนตร์พิเศษหรือจัดกิจกรรมเฉพาะได้ตามความต้องการ

เป้าหมายสู่ความสำเร็จ

ด้วยความสำเร็จที่ "Kids Cinema" ได้รับจากผู้บริโภค บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับปี 2567 โดยคาดว่าจะมียอดขายตั๋วภาพยนตร์สำหรับเด็กอยู่ที่ 600,000 ใบ และจำนวนสมาชิก M GEN Kids กว่า 250,000 คน ขณะที่ในปี 2568 คาดการณ์ว่ายอดขายตั๋วจะเพิ่มเป็น 1,000,000 ใบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของ "Kids Cinema" ภายใต้การดำเนินงานของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในการตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
See More