สหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียจัดประชุมใหญ่ประจำปี ภายใต้ความเป็นเจ้าภาพของไทย

การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียหรือเอวีซี (Asian Volleyball Confederation) จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 สิงหาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานคร โดยสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด ภายในการประชุมครั้งนี้จะมีการรายงานผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่ด้วย

ทุกความเคลื่อนไหวจากการประชุมสมัชชาใหญ่เอวีซี ภายใต้แสงแห่งความสำเร็จของวงการวอลเลย์บอลเอเซีย

ก้าวสำคัญของวงการวอลเลย์บอลเอเซีย ในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้

การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่กำหนดทิศทางการพัฒนาวงการวอลเลย์บอลในทวีปเอเซีย ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรแม่อย่างเอฟไอวีบี (FIVB) โดยการประชุมจะมีผู้แทนจากสมาคมและสมาพันธ์วอลเลย์บอลในทวีปเอเซีย รวม 65 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งจะมีการรายงานผลงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือการเลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียคนใหม่

ความสำคัญของการเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่

การเลือกตั้งประธานเอวีซีคนใหม่ถือเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากจะมีผู้สมัครเป็นแคนดิเดตประธานเอวีซี 2 คน ได้แก่ นาย Ramon Suzara จากประเทศฟิลิปปินส์ และนาย Ali Granim Al-Kuwari จากประเทศกาตาร์ ซึ่งการเลือกผู้นำองค์กรนี้จะส่งผลต่อแผนงานและนโยบายการบริหารงานวอลเลย์บอลในทวีปเอเซียในระยะต่อไป โดยจะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2567

ไฮไลท์ความสำคัญของการเดินทางมาจัดงาน

การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ของเอวีซี ถือเป็นความภาคภูมิใจและโอกาสอันดีสำหรับวงการกีฬาวอลเลย์บอลไทย โดย นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งอาเซียน จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งจะมีการเปิดงานด้วยพิธีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของไทยอันงดงาม ท่ามกลางเกียรติบัตรการเข้าร่วมจากผู้บริหารระดับสูงของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB)

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการประชุมสมัชชาใหญ่เอวีซี

การจัดการประชุมครั้งนี้ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซีย จะสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศไทยในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลของภูมิภาค โดยการเลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซียคนใหม่ จะเป็นโอกาสในการปรับโฉมใหม่ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และนำพาวงการวอลเลย์บอลเอเซียเดินหน้าสู่ความเป็นเลิศ ท่ามกลางการเผยแพร่ศักยภาพและชื่อเสียงของประเทศไทยระดับโลก

ไทยเตรียมเอเชียนเกมส์ 2025 กระชับสร้างชื่อเสียงบิ๊กต้อม ธนา ไชยประสิทธิ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ยกเลิกการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ในประเทศไทย ทำให้ประเทศเราสามารถเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 ได้อย่างเต็มที่ โดยจะใช้งบประมาณที่เหลือจากการจัดกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์มาเสริมเพื่อให้การจัดงานซีเกมส์ 2025 ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย"เราจะต้องทุ่มเททำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งใหม่นี้ให้ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย" - บิ๊กต้อม

การเลือกชนิดกีฬาสำหรับซีเกมส์ 2025

สหพันธ์ซีเกมส์ได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาถึงชนิดกีฬาที่จะบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นได้บรรจุ 40 ชนิดกีฬา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกีฬาหลัก, กลุ่มโอลิมปิก-เอเชียนเกมส์, และกลุ่มกีฬาจากเอเชียนเกมส์ รวมถึงเอเชียนอินดอร์เกมส์และเอเชียนมาร์เชียลอาร์ตเกมส์สำหรับกีฬาที่ได้รับความสนใจจากหลายสมาคม อย่างเช่น ยกน้ำหนัก ซึ่งเป็นกีฬาสากลที่มีการแข่งขันในโอลิมปิก และมีนักกีฬาไทยและอาเซียนประสบความสำเร็จคว้าเหรียญโอลิมปิก บิ๊กต้อมแจ้งว่าจะมีการหารือเพิ่มเติม และเปิดโอกาสให้กีฬาที่ไม่ได้ถูกบรรจุในเบื้องต้นได้เสนอตัวอีกรอบ โดยน่าจะได้รับการพิจารณาให้บรรจุในการประชุมรอบต่อไป

แผนเตรียมนักกีฬาไปโอลิมปิก 2028

นอกจากการเตรียมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2025 แล้ว บิ๊กต้อมยังเผยว่า คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาต่างๆ จะเริ่มวางแผนการส่งนักกีฬาไปแข่งขันโอลิมปิก 2028 ที่สหรัฐอเมริกา โดยจะมีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมด้านงบประมาณและการคว้าโควตาเพิ่มขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการคว้าเหรียญทองให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

ประสบการณ์จากการจัดโอลิมปิก

บิ๊กต้อมกล่าวว่า ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับประสบการณ์และบทเรียนมากมาย ซึ่งจะนำมาปรับใช้ในการวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันโอลิมปิก 2028 ต่อไป เพื่อให้นักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองเพิ่มมากขึ้น

หนุ่มแอฟริกันชนะใจคนไทย หลังแสดงความสามัคคีกับ "เทพบิว" คว้าเหรียญทองที่เปรู

ความเคลื่อนไหวหลังการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร กรีฑาเยาวชนโลก 2024 ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง "บิว" ภูริพล บุญสอน นักกีฬาไทยคว้าเหรียญเงิน ขณะที่ โลกออนไลน์ก็ได้แชร์ภาพนักวิ่งจากแอฟริกาใต้ที่ชนะการแข่งขัน แสดงความมีน้ำใจนักกีฬาด้วยการเข้ามาสวมกอด "เทพบิว"

ชัยชนะที่ละลายน้ำใจคนไทย

ความชัยชนะของนักวิ่งแอฟริกัน

บายานดา วาลาซา นักวิ่งชาวแอฟริกาใต้ คว้าเหรียญทองไปครองด้วยสถิติ 10.19 วินาที ในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร กรีฑาเยาวชนโลก 2024 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเขาในอาชีพการเป็นนักกีฬาระดับโลก แต่นอกจากชัยชนะทางการแข่งขันแล้ว บายานดายังได้แสดงความเป็นนักกีฬาที่มีน้ำใจ เมื่อเขาเดินมาสวมกอด "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน นักวิ่งจากทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญเงินด้วยสถิติ 10.22 วินาที ภาพนี้ได้สะท้อนถึงความมีน้ำใจและมิตรภาพระหว่างนักกีฬา ซึ่งนับเป็นจุดเด่นที่ทำให้ชัยชนะของบายานดาเป็นที่น่ายกย่องไม่แพ้ผลการแข่งขัน

การแสดงความยินดีของ "เทพบิว"

ในขณะเดียวกัน ภูริพล บุญสอน หรือ "เทพบิว" นักวิ่งเยาวชนไทย ก็ได้แสดงความยินดีกับบายานดาอย่างชัดเจน เมื่อทั้งสองคนได้ถ่ายภาพร่วมกัน พร้อมกับนักวิ่งที่ได้เหรียญรางวัลอีกคนหนึ่ง ภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภูริพลไม่ได้มองบายานดาเป็นคู่แข่งที่ต้องเอาชนะเท่านั้น แต่เขายังเห็นความสำคัญของมิตรภาพและความสามัคคีระหว่างนักกีฬา ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นนักกีฬาที่มีความเป็นมืออาชีพและมีน้ำใจที่ดี

การสร้างประวัติศาสตร์ของ "เทพบิว"

ผลการแข่งขันในครั้งนี้ ทำให้ ภูริพล บุญสอน หรือ "เทพบิว" สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในกรีฑาเยาวชนยู-20 ชิงแชมป์โลก การคว้าเหรียญเงินในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเขา และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาไทยในการแข่งขันระดับโลก แม้จะไม่ได้คว้าเหรียญทอง แต่การแสดงออกถึงความมีน้ำใจและความเป็นมืออาชีพของเขา ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยไม่น้อย