ดารา จะกลับมาอย่างดุเดือด: 'Daredevil: Born Again' คาดคว้าฉากแอ็กชันที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่เคยมีในจักรวาล MCU

แฟนๆ ผู้ภักดีของซุปเปอร์ฮีโร่สายตา แห่งย่านฮาร์ลีม อย่างแมตต์ มัดดอกซ์ หรือ แดร์เดวิล ต้องตื่นเต้นกับการกลับมาอีกครั้งของเจ้าตัวในซีรีส์ดัง 'Daredevil: Born Again' ที่จะออกฉายในปีหน้า ตามรายงานล่าสุด แดร์เดวิลจะก้าวขึ้นมาเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีฉากแอ็กชันดุเดือดที่สุดในจักรวาล Marvel ที่เราเคยได้ชม

ข้อความยั่วย่อยให้แฟนๆ ตื่นเต้น กับการกลับมาอย่างดุเดือดของแดร์เดวิล

เตรียมพบกับฉากแอ็กชันดุเดือดสุดขีดใน 'Daredevil: Born Again'

ถูกต้องแล้ว! ตามรายงานล่าสุดจาก Entertainment Weekly แดร์เดวิล กำลังจะกลับมาอีกครั้งในซีรีส์ 'Daredevil: Born Again' บนแพลตฟอร์ม Disney+ และบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะประทับใจแฟนๆ อย่างแน่นอน เพราะแบรด วินเดอร์บาม หัวหน้าฝ่ายสตรีมมิ่ง โทรทัศน์ และแอนิเมชั่นของมาร์เวลสตูดิโอ ได้ออกมาบอกใบ้ว่า "ผมบอกคุณได้เลยว่าฉากแอกชันที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่เราเคยฉายบนจอจออยู่ใน Daredevil: Born Again ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ใช่แนวสยองขวัญ แต่มันจะอัดแน่นไปด้วยมวลพลังงานและทำให้ท้องไส้คุณปั่นป่วนอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เท่าที่ผมพูดได้ตอนนี้นะ" ซึ่งคำบอกใบ้นี้ ถือเป็นการยืนยันแล้วว่าเราจะได้พบกับความดุเดือดเต็มรูปแบบจากซีรีส์ Daredevil: Born Again ที่มีกำหนดออกฉายบนแพลตฟอร์ม Disney+ ในปีหน้า โดยก่อนหน้านี้ มาร์เวลได้เผยแพร่ภาพของชาร์ลี ค็อกซ์ ในบทแมตต์ เมอร์ด็อก จากซีรีส์ Daredevil: Born Again ในโอกาศการฉลองครบรอบ 85 ปีของมาร์เวล และได้พูดคุยกับแฟนๆ ถึงการกลับมารับบทในครั้งนี้

ชาร์ลี ค็อกซ์ เตรียมสร้างความประทับใจอีกครั้งในบทบาทของแดร์เดวิล

นอกเหนือจากความดุเดือดจากฉากแอ็กชัน แฟนๆ ก็ต้องเฝ้ารอชมการกลับมารับบทของชาร์ลี ค็อกซ์ ในบทแมตต์ เมอร์ด็อก หรือ แดร์เดวิล ซุปเปอร์ฮีโร่สายตาแห่งย่านฮาร์เลมด้วย ทั้งนี้ชาร์ลี ค็อกซ์ได้กลับมารับบทแมตต์ เมอร์ด็อกไปแล้วถึงสองครั้งในจักรวาลภาพยนตร์ MCU ครั้งแรกในภาพยนตร์ Spider-Man: No Way Home เมื่อปี 2021 และครั้งที่สองในซีรีส์ She-Hulk: Attorney at Law ก่อนเราจะได้พบกับการมารับบทแมตต์ เมอร์ด็อกของเขาแบบเต็มๆ ใน Daredevil: Born Again ที่จะออกฉายในปีหน้าซึ่งการที่ชาร์ลี ค็อกซ์ กลับมารับบทซูเปอร์ฮีโร่สายตานี้อีกครั้ง คงจะเป็นการประทับใจแฟนๆ อย่างแน่นอน หลังจากที่เขาสร้างความประทับใจในบทบาทนี้ได้อย่างโดดเด่นมาแล้วในซีรีส์ Daredevil ที่ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อปี 2015-2018

มาร์เวลขยายขอบเขตแนวเรื่องใน 'Daredevil: Born Again' ให้ดุเดือดยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแค่ฉากแอ็กชันดุเดือดเท่านั้น แต่ตามรายงานยังระบุด้วยว่า มาร์เวลมีความต้องการที่จะทดลองขยายแนวเนื้อเรื่องและโทนของซีรีส์เรื่องนี้ให้มีความดุเดือดเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ จากที่แบรด วินเดอร์บาม หัวหน้าฝ่ายสตรีมมิ่ง โทรทัศน์ และแอนิเมชั่นของมาร์เวลสตูดิโอ กล่าวว่า "ผมบอกคุณได้เลยว่าฉากแอกชันที่ดุเดือดที่สุดเท่าที่เราเคยฉายบนจอจออยู่ใน Daredevil: Born Again ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ใช่แนวสยองขวัญ แต่มันจะอัดแน่นไปด้วยมวลพลังงานและทำให้ท้องไส้คุณปั่นป่วนอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เท่าที่ผมพูดได้ตอนนี้นะ"นั่นหมายความว่า การกลับมาอีกครั้งของแดร์เดวิลในซีรีส์ Daredevil: Born Again จะสร้างความตื่นเต้น ดุเดือด และน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ฉากแอ็กชันเท่านั้น แต่จะถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่นในทุกมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนๆ ที่รอคอยการกลับมาของซุปเปอร์ฮีโร่สายตาแห่งย่านฮาร์เลม

คุกรุ่นระอุแห่งละครสมัยใหม่

ละครเรื่อง "โลกหมุนรอบเธอ" ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากทั้งแฟนๆ และผู้ชมทั่วไป ท่ามกลางความคิดเห็นมากมายที่ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย

ละครที่สร้างปรากฏการณ์วิพากษ์วิจารณ์แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ความขัดแย้งในละครที่สร้างปรากฏการณ์

ละครเรื่อง "โลกหมุนรอบเธอ" ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในตอนล่าสุดที่เพิ่งฉายไป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่า เมื่อตัวละครหลักอย่าง "มานะ" (จิรายุ) ถูกบังคับให้ทำการเต้นยั่วยวน "ตะวัน" (เมลดาจิรายุ) ท่ามกลางสายตาของผู้ชมจำนวนมาก ฉากดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกลุ่มแฟนๆ ทั้งที่สนับสนุนและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะจากกลุ่มที่มองว่าฉากนี้มีความรุนแรงและลามเลยเถิดจนเกินกว่าจะยอมรับได้

ความคิดเห็นที่หลากหลายของผู้ชม

ผู้ชมละครเรื่อง "โลกหมุนรอบเธอ" แสดงความคิดเห็นต่อฉากดังกล่าวออกมาหลากหลาย บางส่วนมองว่าเป็นฉากที่ "อิหยังวะ" และ "จาอ้วกก" ไม่สร้างสรรค์และไม่สนุก ขณะที่บางส่วนเห็นว่าช่อง 3 ไม่ควรทำเลียนแบบช่องอื่นๆ ในสิ่งที่มันแรง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการรับชมของเยาวชนด้วย อย่างไรก็ตาม ก็มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่ให้การชื่นชมในฝีมือการแสดงของนักแสดงในละครเรื่องนี้

ประเด็นที่ยังคงเป็นที่ถกเถียง

ละครเรื่อง "โลกหมุนรอบเธอ" ยังคงเป็นที่พูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเด็นของความเหมาะสมของเนื้อหาและการดำเนินเรื่อง รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อกลุ่มผู้ชมที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ ก็มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่ยังคงให้การสนับสนุนและชื่นชมในฝีมือการแสดงของนักแสดงเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสนใจและความพยายามของผู้ชมในการติดตามเรื่องราวของละครเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

แอนิเทค เปิดตัวแผนสยายปีกรุกตลาด เดินหน้าลงทุน 10 ล้านบาท ดึงดูด 'ซานริโอ' สร้างกระแสความน่าสนใจ พร้อมเหนี่ยวรั้งผู้หญิงและแฟนคลับในสไตล์ไลฟ์สไตล์

แอนิเทค แบรนด์ไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของไทย ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์ใหม่ เดินหน้าลงทุน 10 ล้านบาท ในการนำตัวละครยอดนิยมอย่าง 'ซานริโอ' มาผนวกกับผลิตภัณฑ์ของตน โดยมุ่งหวังจะกระตุ้นให้ลูกค้าผู้หญิง และแฟนคลับตัวละคร มีความสนใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทะยานยอดขายทะลุ 300 ล้านบาทในปี 2024 นี้

แก้ไขกลยุทธ์ 'พลิกโฉม' ขึ้นแท่นแบรนด์รุ่งเรืองของคนไทย

การก้าวขึ้นสู่แบรนด์ชั้นนำด้วยการเป็นพันธมิตรกับ 'ซานริโอ'

โธมัส พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ 'แอนิเทค' เปิดเผยว่า หลังจากความสำเร็จจากการทำตลาดโดยอ้างอิงกับตัวละครดังอย่าง 'สนูปี้' ในปี 2022 ที่ส่งผลให้ยอดขายพุ่งแตะ 40 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เป็นสองเท่า บริษัทจึงมีแผนพัฒนากลยุทธ์นี้อีกครั้ง ด้วยการทำข้อตกลงร่วมกับ 'ซานริโอ' มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อนำมาผนวกเป็นจุดขายใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่ตัวละคร 'คุโรมิ' และ 'แบดแบตซ์มารุ' ซึ่งจะมาปรากฏบนผลิตภัณฑ์ 35 รายการประกอบด้วย คีย์บอร์ด, เครื่องคิดเลข และหูฟัง เพื่อสร้างกระแสให้ผู้บริโภครวมถึงแฟนคลับที่มีอยู่ทุกวัยสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ไม่เพียงแค่กลุ่มเด็กเท่านั้น

สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง ด้วยการนำเข้าแบรนด์ 'ซานริโอ'

โธมัส กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรกับ 'ซานริโอ' ถือเป็นก้าวสำคัญของแอนิเทค ในการเข้าถึงกระแสความนิยมของ 'อาร์ตทอย' ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้หญิง และแฟนคลับชาวเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้ยอดขายกลุ่มสินค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีกราว 50 ล้านบาท นับตั้งแต่เดือน กันยายน 2024 จนถึง มกราคม 2025 โดยตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งแอนิเทคมีสัดส่วนลูกค้าผู้หญิงอยู่ที่ 40% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ชาย

เดินหน้าสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามราคา

ในขณะที่กลุ่มคู่แข่งจากต่างชาติต่างรุกตลาดสินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง โธมัสยืนยันว่า บริษัทจะยังคงรักษาตำแหน่งและภาพลักษณ์ของสินค้าระดับกลางถึงบนเช่นเดิม โดยไม่มีแผนปรับลดราคาเพื่อทำสงครามด้านราคากับคู่แข่ง"การแข่งกันด้วยราคากับผู้เล่นจากต่างชาติเป็นเรื่องยาก ดังนั้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญจึงไม่ใช่ราคา แต่คือการสร้างความแตกต่าง ผ่านคุณภาพและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค" โดยแอนิเทคตั้งเป้ายอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้สูงถึง 50% ภายในปี 2026

ปิดฉากปี 2024 ด้วยยอดขาย 300 ล้านบาท และมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำของคนไทย

สำหรับยอดขายในปีนี้ (2024) บริษัทคาดว่าจะสามารถทำได้ราว 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 280 ล้านบาทในปี 2023 อย่างไรก็ดี จากปัญหาการแย่งส่วนแบ่งตลาดของผู้ผลิตรายใหญ่จากต่างชาติ ส่งผลให้ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ของแอนิเทคต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนเดิมที่สูงถึง 30% เหลือเพียง 5% ในปัจจุบันทั้งนี้ แอนิเทคมีแผนขยายการทำตลาดในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา, ลาว และกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายตลาดไปยังอินโดนีเซียและเวียดนาม จากความพยายามในการเชื่อมโยงกับ 'ซานริโอ' เพื่อยกระดับตนเองขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งรายใหญ่จากต่างชาติ